December 23, 2024

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เป็นหนึ่งในภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมในงานประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) โดยมีนายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ร่วมเป็นวิทยากรงานเสวนาในกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) การประชุมรัฐภาคีฯ หัวข้อ “Financing the Transition" นำเสนอในเรื่อง "Empowering SMEs and Sustainable Development through Green and Blue Financing" ซึ่งทีทีบีให้ความสำคัญและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าตามเป้าหมาย Net-zero Commitment ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อร่วมขับเคลื่อนแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายกมลพันธ์ ลักษณา หัวหน้าการพัฒนาที่ยั่งยืน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหนึ่งในความท้าทายเร่งด่วนที่สุดของโลกในปัจจุบัน ซึ่งทีทีบีตระหนักถึงบทบาทสำคัญและความรับผิดชอบ พร้อมนำความสามารถมาสร้างโซลูชันทางการเงินที่จะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน เพราะบทบาทของธนาคารไม่ใช่การนำพาองค์กรไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยทีทีบีมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนในการดำเนินงานเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Economy) ผ่านการให้สินเชื่อ ให้คำปรึกษาลูกค้า และสนับสนุนบนเส้นทางการเปลี่ยนผ่าน

ทีทีบีมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจตามกรอบ B+ESG ทุกกลยุทธ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจต้องอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและยั่งยืน เพราะธุรกิจ (Business) หรือ B ต้องเติบโตอย่างแข็งแรง ทีทีบีจึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืนเพื่อการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยนำกฎเกณฑ์ด้าน ESG มาใช้ประกอบการพิจารณาสินเชื่อและการลงทุน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มุ่งเน้นส่งเสริมด้าน ESG ให้กับลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล เช่น สินเชื่อสีเขียว สินเชื่อสีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืน ตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้สีฟ้า กองทุุนเพื่อการลงทุุนด้าน ESG และยังมีบริการให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาด้าน ESG ตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ พร้อมมีเป้าหมายช่วยเหลือลูกค้าให้มีความเข้าใจและสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับประเด็นด้าน ESG เพื่อให้ลูกค้ามีความรับผิดชอบและเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน

ภายในงาน นายกมลพันธ์ ได้กล่าวถึงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านว่า “ธนาคารได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบจากกฎกติกาต่าง ๆ ที่จะบังคับใช้ในอนาคต เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM-Carbon Border Adjustment Mechanism) ประกอบกับการวิเคราะห์พอร์ทสินเชื่อของลูกค้าตามความเสี่ยงของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เพื่อวางแผน จัดกิจกรรมการมีส่วนร่วม และสร้างเกราะป้องกันให้กับลูกค้าตั้งแต่เริ่มต้น โดยทีทีบีจะจัดหาพันธมิตรด้านโซลูชันทางเทคนิคสำหรับการลดใช้พลังงาน การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เป็นต้น และในปี 2567 ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน Green Transformation เพื่อช่วยสนับสนุนทางการเงินและส่งเสริมการลงทุนเพื่อการเปลี่ยนผ่านอย่างยั่งยืน

จากการรวมปัจจัยด้าน ESG เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้คำปรึกษาและการอนุมัติสินเชื่อตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้ธนาคารเห็นถึงความสนใจในสินเชื่อ ESG ที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า โดยตลอดเส้นทางการดำเนินธุรกิจของทีทีบีได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นและแก้ปัญหาให้ผู้คนอย่างแท้จริง ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ตอกย้ำความสำเร็จจากรางวัลด้านความยั่งยืนที่ธนาคารได้รับมาต่อเนื่อง สะท้อนชัดถึงการลงมือทำอย่างแท้จริงของธนาคารในการขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน นายกมลพันธ์ กล่าวสรุป

รวม 6 เดือนแรกของปี มีกำไรสุทธิ 10,689 ล้านบาท ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุม โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพทรงตัวในระดับต่ำที่ 2.6% ขณะที่อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังอยู่ในระดับสูงที่ 152% สำหรับครึ่งปีหลังยังคงเดินหน้าดูแลลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและการให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี โดยนายศรัณย์ ภู่พัฒน์ (ที่ 3 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ร่วมเป็นเกียรติลงนามสัญญาให้บริการรับชำระเงินค่าไฟฟ้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สําหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดย หม่อมราชวงศ์ สิริวัลย์ เกษมสันต์ ณ อยุธยา (ที่ 4  จากขวา) รองผู้ว่าการบัญชีและการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการชําระเงินค่าไฟฟ้า สําหรับลูกค้านิติบุคคล ผ่านช่องทางออนไลน์ ttb business one ดิจิทัลแบงก์กิ้งของธนาคาร โดยทีทีบี เป็นธนาคารแรกที่พัฒนารูปแบบการให้บริการรับชำระเงินค่าไฟฟ้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์สําหรับลูกค้านิติบุคคล ที่สามารถแสดงรายละเอียดบิลและค่าไฟฟ้าปัจจุบันที่ต้องชําระตามหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าที่ลูกค้าระบุไว้

จากความร่วมมือดังกล่าว ทำให้ลูกค้านิติบุคคลสามารถทำรายการสะดวกผ่าน ttb business one ได้ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ให้บริการทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันความเสี่ยง ลดการจัดการด้านเอกสาร และไม่ต้องเสียเวลาจากการเดินทางไปชำระเงินค่าไฟฟ้าด้วยเงินสดหรือเช็ค ณ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมสามารถยืนยันการทำรายการหรือหักเงินในบัญชีเพื่อชำระเงิน โดยผ่านผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัท ซึ่งหลักฐานการชำระเงินสามารถใช้ตรวจสอบย้อนหลังได้ โดยผู้ใช้บริการจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการจ่ายบิล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567  

ทีทีบี มีความมุ่งมั่นที่จะทําให้ลูกค้าและธุรกิจมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในวันนี้และอนาคต สามารถบริหารจัดการเรื่องสำคัญในชีวิตและธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรอบด้าน โดยธนาคารพร้อมเคียงข้างสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจประสบความสําเร็จในทุกสถานการณ์ และเติบโตอย่างยั่งยืน

ทีเอ็มบีธนชาต  หรือ ทีทีบี ประกาศความสำเร็จด้านดิจิทัล คว้ารางวัล Best Institution for Digital CX บนเวทีระดับสากล Digital CX Awards 2024 โดยมีนายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ ประธานกลุ่ม งานกลยุทธ์องค์กรและดิจิทัล ทีทีบี เป็นผู้รับมอบรางวัล ตอกย้ำความโดดเด่นของแอปพลิเคชัน ttb touch ในการผสมผสานนวัตกรรมดิจิทัลและการออกแบบที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง มีฟีเจอร์การจัดการทางการเงินที่ใช้งานง่าย และสร้างประสบการณ์ที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟแบบรายบุคคล (Personalized Message) ซึ่งพัฒนาโดยทีมดิจิทัล “ttb spark” ในฐานะศูนย์กลางดิจิทัลของทีทีบี เพื่อขับเคลื่อนธนาคารสู่ทุกความเป็นไปได้ ด้วยดิจิทัลโซลูชันที่เป็นมิตรและรู้ใจ ภายใต้แนวคิด Humanized Digital Banking เพื่อให้ลูกค้าทุกกลุ่มมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ทั้งนี้ การมอบรางวัลจัดขึ้น ณ โรงแรมมาริน่า เบย์ แซนด์ ประเทศสิงคโปร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้   

ปัจจุบันประเทศไทยมีพนักงานเงินเดือน 19 ล้านคน คิดเป็น 29% ของประชากรในประเทศ ซึ่งนับเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่า 50% ของประเทศ นั่นหมายความว่าหากพนักงานเงินเดือนมีศักยภาพทางการเงินที่ดี พวกเขาจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศต่อไปได้ในอนาคต ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มองเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มมนุษย์เงินเดือน จึงได้มอบรางวัล ttb financial well-being awards 2023” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยได้มอบรางวัลให้กับ 12 องค์กรชั้นนำที่ใช้บริการบัญชีเงินเดือน ทีทีบี ที่มีความโดดเด่นเรื่องการส่งเสริมสวัสดิการและสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้านให้กับพนักงาน

นายจักรพันธ์ จารุธีรศานต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารงานขายและการขายลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากผลวิจัยกับกลุ่มพนักงานเงินเดือนในปี 2566 พบว่าพนักงานเงินเดือนที่มีปัญหาเรื่องหนี้จะมีประสิทธิภาพการทำงานลดลงมากถึง 40% หลายคนแก้ไขด้วยการเปลี่ยนงานใหม่ แต่ความจริงเป็นวิธีแก้ไขที่ไม่ถูกจุด ซึ่งสิ่งที่ทีทีบีได้เรียนรู้ คือ ปัญหาเรื่องหนี้ของพนักงานเงินเดือนเกิดจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ 1. ไม่รู้สถานะทางการเงินของตนเอง ทำการกู้เงินไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าสุขภาพทางการเงินของตนเองเป็นสีแดงแล้ว และ 2. ไม่มีความรู้เรื่องการจัดการทางการเงิน ทำให้บริหารเงินไม่เป็นจนนำไปสู่วงจรหนี้ที่ออกมาไม่ได้

ทีทีบีจึงสานต่อการมอบรางวัล ttb financial well-being awards 2023 ต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพื่อเชิญพันธมิตรองค์กรที่ใช้บัญชีเงินเดือนกับทีทีบีมาร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ รางวัลคะแนนรวมสูงสุด และรางวัลพัฒนาการสูงสุด ซึ่ง 12 องค์กรที่ได้รับรางวัลจะได้รับเงินสนับสนุน มูลค่า 100,000 บาท และโล่รางวัลยกย่องความเป็นเลิศขององค์กร ซึ่งทั้ง 12 องค์กร ต่างรู้สึกยินดีที่ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ และร่วมแชร์ความรู้สึกการได้รับรางวัลในครั้งนี้ อาทิ

นายแพทย์ ไพบูลย์ เอกแสงศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลวิภาราม จำกัด กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นอยู่ของพนักงาน เพราะปัจจุบันปัญหาเรื่องหนี้ในระบบและนอกระบบมีมากมาย พนักงานบางคนไม่มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการบริหารเงิน ทำให้เกิดปัญหาหนี้สินขึ้นได้ ซึ่งเป็นเรื่องดีอย่างมากที่ทีทีบีได้เข้ามาช่วยเหลือ นำผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ทางด้านการเงินกับพนักงานของบริษัท ทั้งในเรื่องการรวบหนี้และการบริหารจัดการทางการเงิน ถ้าถามว่าทำไมเราถึงเลือกทีทีบีเป็นบัญชีเงินเดือนให้กับองค์กรของเรา “ที่เลือกก็เพราะดี ถ้าไม่ดีคงไม่เลือก”

ด้าน นายพิชิตศักดิ์ กรมรินทร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วีก้า ออโตเมชั่น (2000) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรางวัล ttb financial well-being awards ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีอย่างหนึ่งว่าบริษัทดูแลพนักงานเป็นอย่างดี และปีนี้เราจะมุ่งดูแลเรื่องสุขภาพของพนักงาน เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พนักงานทำงานออกมาได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพทางการเงิน ต้องดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งบริษัทเลือกใช้บัญชีเงินเดือนกับทีทีบีมาตั้งแต่เริ่มต้นกิจการ ทั้งในส่วนของ payroll และตัว my work เรามองว่าโซลูชันต่าง ๆ ของทีทีบีตรงกับความต้องการของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออม การลงทุน ความคุ้มครอง ซึ่งอย่างน้อยหากพนักงานเรามีเงินเหลือติดบัญชี all free 5,000 บาท ก็จะได้รับสวัสดิการประกันอุบัติเหตุจากทีทีบี ถือว่าเป็นการช่วยทั้งบริษัทและพนักงานของเรา

นายธรรมรัตน์ โพธิ์ใบกุล กรรมการบริหาร บริษัท ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด อีกหนึ่งองค์กรพันธมิตรที่ได้รับรางวัล ttb financial well-being awards 2023 กล่าวว่า “บริษัทมีความตั้งใจทำให้ชีวิตพนักงานมีการพัฒนาที่ดีขึ้น เราจึงให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพนักงานในหลาย ๆ มุม ทั้งเรื่องรายได้ สวัสดิการ ปัญหาหนี้ รวมไปถึงสุขภาพทางการเงิน เพราะหากเราสามารถช่วยเหลือทางการเงินของพนักงานได้ก็จะช่วยให้พนักงานมีความสุขมากขึ้น และมีเวลาไปใส่ใจกับเนื้องานที่ต้องรับผิดชอบได้ดีขึ้นด้วย”

“ทีทีบีเชื่อว่าหากไม่มีตัวช่วยที่ดีในการแก้ไขปัญหาหนี้อาจทำให้ชีวิตติดลบและการแก้ปัญหาหนี้ที่ยั่งยืนไม่ได้ใช้เงินเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีภูมิคุ้มกันด้านความรู้ทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ที่เป็นระบบ ซึ่งจะเป็นวัคซีนป้องกันให้หลุดพ้นจากวงจรหนี้ได้ด้วยตนเอง และในปี 2567 นี้ ทีทีบีจึงยังคงสานต่อกิจกรรม “ttb financial well-being awards 2024” ครั้งที่ 3 โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้เรื่องรอบรู้เรื่องกู้ยืม ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ควบคู่ไปกับโซลูชัน “สวัสดิการพิชิตหนี้” เพื่อเป้าหมายส่งเสริมให้พนักงานเงินเดือนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นรอบด้าน พร้อมสนับสนุนพันธมิตรองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ในทิศทางเดียวกันมาร่วมส่งเสริมให้พนักงานเงินเดือนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับสวัสดิการที่ดีและสามารถดูแลสุขภาพการเงินส่วนบุคคลให้ดีขึ้นได้แบบยั่งยืน” นายจักรพันธ์ กล่าวปิดท้าย

Page 1 of 23
X

Right Click

No right click