"สมาคมฟินเทคประเทศไทย" หรือ TFA องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม Fintech ของประเทศไทย ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ นำโดย "คุณชลเดช เขมะรัตนา" นายกสมาคม ได้เปิดตัวหลักสูตร "Fintech Course: Unleashing Future of Finance" ที่จะทำให้การทำธุรกิจฟินเทคไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
พร้อมแล้วสำหรับหลักสูตรที่ผู้เริ่มต้นทำธุรกิจและผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจฟินเทค ที่จะเพิ่มทักษะและความรู้กับเหล่าวิทยากรด้านฟินเทคคุณภาพระดับประเทศ ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ตรง อาทิ "คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา Founder & Group CEO, Bitkub Capital Group Holdings", "คุณพสุ ลิปตพัลลภ Director, Proud Real Estate", "คุณสุพันธ์วงศ์ วีรวรวิทย์ Director - Country Head of Global Payments Solutions, HSBC Thailand", "คุณปฐมชัย แตงน้อย Assistant Managing Director, Kubix", "คุณ Derrick Loi General Manager for International Business, Digital Technologies, Ant Group", "คุณนัชชา เลิศหัตศิลป์ CEO, Carbonwize" เป็นต้น และยังได้แลกเปลี่ยน connection กับเหล่าคนที่สนใจฟินเทคไปด้วยกัน กับหลักสูตรคุณภาพ พร้อมปราบทุกปัญหาให้ธุรกิจฟินเทคได้เติบโตและยั่งยืน
หลักสูตร "Fintech Course: Unleashing Future of Finance" มาพร้อมกับคอร์สฟินเทคสุดเข้มข้น ได้แก่
1.) Fintech Era,
2.) WealthTech,
3.) Cryptocurrency,
4.) Tokenization,
5.) Fintech in Real-estate,
6.) Global Cross Border Payments,
7.) Digital Banking,
8.) Startup Fundraising,
9.) Green Fintech,
10.) Fintech Regulations
และ 11.) AI in Fintech ครบจบทุกทักษะด้านฟินเทค ที่คนทำธุรกิจต้องรู้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครมาร่วมเรียนในหลักสูตร TFA Fintech Course รุ่นที่ 1 นี้กันได้ ในราคาพิเศษรอบ Early Bird เพียง 35,000 บาท จากราคาเต็ม 50,000 บาท ถึงวันที่ 9 ส.ค. 2567 นี้เท่านั้น!! และพิเศษยิ่งกว่านั้นสำหรับ TFA Member ลดเหลือเพียง 45,000 บาท เริ่มเรียนทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00 - 21.00 น.ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. - 15 ธ.ค. 2567 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัครลงทะเบียนเรียนได้ที่ https://forms.gle/aZYAZoLB15vmdFaD8 รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร : 062-291-3599 และ 082-202-6577 หรือ Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ... แล้วมาร่วมไขกุญแจสำคัญ ทำธุรกิจฟินเทคแบบมืออาชีพไปด้วยกัน
Degree Plus เปิดหลักสูตร “Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2” หลักสูตรด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ในรูปแบบ Hybrid สนองความต้องการบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพรุ่นใหม่ เพื่อยกระดับการเรียนให้มีความสะดวกเข้าถึงง่ายในคุณภาพที่ได้มาตรฐาน พร้อมได้รับใบประกาศนียบัตรที่รับรองโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (เลขที่ สธ 0621.06/7019) เป็นที่แรกและที่เดียวในไทย
Degree Plus แพลตฟอร์มอัปสกิลอาชีพ ในเครือ LEARN Corporation ร่วมมือกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดหลักสูตร “Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2” หรือ หลักสูตรอบรมความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ BSL-2 เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับเชื้อก่อโรคและพิษจากสัตว์ของหน่วยงานต่าง ๆ เช่น อาจารย์ นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเทคนิคการแพทย์ เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่บริหารชีวนิรภัยของหน่วยงาน (BSO) ให้มีความรู้และทักษะการทำวิจัยในห้องปฏิบัติการทางชีวภาพอย่างปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดและแนวปฏิบัติสากล รายละเอียดหลักสูตรฯ ประกอบด้วย
โดยที่ผ่านมา หลักสูตร Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2 มีผู้เข้าร่วมอบรมจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาการอบรม
นางสาวสุรีย์พร เอี่ยมศรี อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรฯ กล่าวว่า “ด้วยอาชีพที่ต้องต่ออายุใบอนุญาต ทุก 3 ปี ก่อนหน้านี้เคยอบรมแบบออนไซต์ซึ่งรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับตนเอง เพราะต้องใช้เวลาเรียนภาคทฤษฎีถึง 2-3 วัน แต่สำหรับรูปแบบ Hybrid นั้น เวลาเรียนค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถจัดการเวลาเองได้ เนื้อหาตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็สามารถเรียนซ้ำได้ ส่วนการเรียนภาคปฏิบัติก็ใช้เวลาวันเสาร์เพียงครึ่งวัน ไม่ต้องรบกวนเวลางาน เมื่อจบการอบรมแล้วก็ยังสามารถทบทวนย้อนหลังได้ อีก 1 ปี ตอบโจทย์คนทำงานมาก ๆ”
นางสาวธัญญา รัตนโกวิท เจ้าหน้าที่วิจัย Mahidol Vivax Research Unit ผู้สำเร็จการอบรมหลักสูตรฯ เสริมว่า “ตัดสินใจเลือกเรียนหลักสูตร BSL-2 แบบ Hybrid เพราะคิดว่าเหมาะกับตัวเองที่งานยุ่ง มีเวลาน้อย หลักสูตรนี้ช่วยให้ตระหนักถึงขั้นตอนการป้องกันตัวเองและสิ่งแวดล้อมขณะอยู่ในแล็บ และยังได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ผ่าน Zoom กับเพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งจะคอยแชร์ปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไขที่พบได้ในสถานการณ์จริง ส่วนตัวมองว่าความรู้ตรงนี้ไม่สามารถหาได้ในหลักสูตรทั่วไป นอกจากนี้ เมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้ว ยังสามารถนำใบเซอร์ไปเขียน Proposal เพื่อยื่นทำโปรเจกต์ใหม่ได้อีกด้วย”
ด้าน นายวรพล รัตนพันธ์ ผู้จัดการทั่วไปและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดีกรีพลัส จำกัด กล่าวว่า “โจทย์ใหญ่ของประเทศไทยวันนี้ คือการยกระดับการสร้างมาตรฐานความรู้และพัฒนาความเชี่ยวชาญของบุคลากรในประเทศ สำหรับด้านความปลอดภัยทางชีวภาพที่จะช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจากห้องปฏิบัติการสู่สิ่งแวดล้อมอย่างปลอดภัย เราจึงมุ่งเป้าที่จะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบุคลากรปีละ 1,000 คน ผ่านความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการรับรองหลักสูตรจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงองค์ความรู้มาตรฐานที่สำคัญต่อไป”
ผู้ที่สนใจหลักสูตร Essentials in Biosafety and Biosecurity for BSL-2 แบบ Hybrid สามารถศึกษารายละเอียด และสมัครได้ที่ to.degree.plus/Biosafety-Biosecurity-BSL2
ในยุคที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเก็บ วิเคราะห์ Data และ Consumer Insight รวมถึงการนำไปใช้ทวีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ นักการตลาดไม่เพียงต้องวิ่งตามเทรนด์ให้ทันแต่ต้องคิดวางแผนล่วงหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง
หากคุณยังไม่รู้วิธีหา Marketing และ Consumer Insight หรือมี Data แต่ไม่รู้จะนำไปใช้อย่างไร หลักสูตร "Data and insight driven marketing" คือคำตอบ
หลักสูตรนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จัก Data-driven Marketing ซึ่งใช้ข้อมูลเชิงลึกทั้งจากพฤติกรรมผู้บริโภคและธุรกิจมาวางแผนกลยุทธ์ได้อย่างเต็มที่และตรงเป้ายิ่งขึ้น โดยศึกษาจาก case study และได้ลงมือทำจริงผ่าน Workshop และที่สำคัญ..ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานก็เรียนได้เพราะเราสอนตั้งแต่เริ่มต้น
คุณจะได้เรียนรู้อะไรจากหลักสูตรนี้
● ความแตกต่างระหว่าง Strategy และ Tactics ในการของการทำการตลาด
● วิธีการเก็บ เตรียม วิเคราะห์และแปลข้อมูลเพื่อวางแผนกลยุทธ์และการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตัวชี้วัด
● Data and Insight Driven Marketing Framework ที่สร้าง business impact ให้กับองค์กรได้จริง
และอีกหลากหลายหัวข้อที่นักการตลาดทุกคนต้องรู้ ?
พบกับ 2 วิทยากรผู้เชี่ยวชาญ “คุณหนุ่ย ณัฐพล ม่วงทำ” เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน ผู้ที่จะย่อยการวิเคราะห์ข้อมูลยาก ๆ ให้เป็นเรื่องง่าย ๆ และ “คุณเอง คุณบังอร สุวรรณมงคล” CEO &
Founder of Hummingbirds Consulting ที่ปรึกษาด้านการวางแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์และ Insight and Strategy Expert
ดูรายละเอียดและลงทะเบียนได้ที่ : https://tinyurl.com/3fk9bhxa
วันอบรม
วันที่ : 2-3 เมษายน 2567
เวลา : 9.00 - 16.00 น.
สถานที่ : โรงแรมเอทัส ลุมพินี
. ค่าลงทะเบียนอบรม
- สมาชิกสมาคม ท่านละ 14,900 บาท
- ผู้สนใจทั่วไป ท่านละ 15,900 บาท
สอบถามเพิ่มเติม: 02-679-7360-3 สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย
หรือ Line Official ID: @matsociety
ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จัดพิธีปิดหลักสูตรสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “The 45 Academia” ปี 2023 ภายใต้แนวคิด “Leader of Tomorrow” มุ่งปั้นผู้นำแห่งอนาคตที่มีพลังและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติ โดยมีวัตุประสงค์หลักในการช่วยให้ลูกค้าคนสำคัญสามารถวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน ด้วยโปรแกรมพัฒนาศักยภาพตนเองอย่างเข้มข้นตลอดระยะเวลากว่า 12 สัปดาห์ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เพื่อช่วยรักษาคุณค่าและส่งมอบสินทรัพย์ของครอบครัวสู่รุ่นถัดไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นขององค์กร “Your Legacy. Our Promise.” อย่างแท้จริง โดยมี นายกฤษณ์ จันทโนทก (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด พร้อมด้วย มร.จิมมี่ ลี (Jimmy Lee) (ซ้าย) ประธานประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ และกรรมการบริหาร จูเลียส แบร์ กรุ๊ป และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด ให้เกียรติร่วมงานเมื่อเร็ว ๆ นี้
มร.จิมมี่ ลี (Jimmy Lee) ประธานประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ธนาคารจูเลียส แบร์ และกรรมการบริหาร จูเลียส แบร์ กรุ๊ป และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าหลักสูตร The 45 Academia จะช่วยเตรียมความพร้อมให้กลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ของเราให้มีทักษะในการบริหารธุรกิจของครอบครัวและความมั่งคั่งในอนาคต เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าของเราอย่างลึกซึ้ง รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ผ่านโปรแกรม “Julius Baer next-generation” ทั่วโลก ซึ่งสอดคล้องกับจริยธรรมขององค์กรในการสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าความมั่งคั่ง (Creating Value Beyond Wealth) เราตระหนักดีว่าความมั่งคั่งเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเชิงบวก ในฐานะผู้นำธุรกิจรุ่นถัดไป เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถรักษาและส่งต่อค่านิยมเหล่านี้เพื่ออนาคตที่
ดีกว่าของรุ่นถัดไปโดยเริ่มต้นจากตัวเราเป็นสิ่งแรก ด้วยความพยายามของพวกเราทุกคนจะช่วยสานต่อมรดกที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมอย่างแท้จริง”
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “ธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะผู้ถือหุ้นของ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หลักสูตร The 45 Academia ได้สร้าง Community ของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ได้ตามที่คาดหวังไว้ เราขอขอบคุณผู้สนับสนุนและผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านที่ได้ร่วมกันออกแบบหลักสูตรที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ในทุกมิติ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตร The 45 Academia จะสามารถสานต่อองค์ความรู้และแนวทางการลงทุน โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือ ช่วยให้ลูกค้าคนสำคัญสามารถวางแผนธุรกิจของครอบครัวให้ดำเนินต่อไปได้”
ด้าน นางสาวลลิตภัทร ธรณวิกรัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด กล่าวว่า “ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ในฐานะผู้ก่อตั้งหลักสูตร The 45 Academia รู้สึกยินดีอย่างยิ่งต่อความสำเร็จจากการเดินทางร่วมกันของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ในตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา โดยผู้เข้าร่วมหลักสูตรทุกคนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง ผ่านการแบ่งปันมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน พร้อมร่วมกันผลักดันและสร้างสรรค์หลักสูตรในแบบฉบับของตนเอง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับหลักสูตรเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันอีกด้วย ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความรู้และประสบการณ์ทั้งหมด รวมถึงมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นภายใต้หลักสูตร “The 45 Academia” จะสามารถเตรียมความพร้อมให้กับกลุ่มทายาทรุ่นใหม่ก้าวสู่ผู้นำแห่งอนาคตที่มีพลังและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่สังคมในทุกมิติอย่างแท้จริง”
สำหรับ “The 45 Academia” เป็นหลักสูตรที่ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่กลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation) ในการรับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว ผ่านการปูพื้นฐานด้านการลงทุนในสินทรัพย์และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อให้เข้าใจถึงการบริหารความมั่งคั่งอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ ความรู้ด้านการบริหารธุรกิจและเวลธ์แมเนจเม้นท์ การสร้างความตระหนักด้านความยั่งยืนและปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Passion Investment) การสืบทอดธุรกิจครอบครัว (Family Succession) และการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ (Next Generation Development) ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ด้าน Business Disruption และ Business Transformation ผ่านการแชร์ประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากซีอีโอชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกโดยตรง (Firsthand Insight) ทั้งในเรื่องของเทรนด์ในอนาคต เพื่อเห็นโอกาสใหม่ๆ และความท้าทายต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะการคิดในอนาคต (Future Thinking Skills) ที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังรวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจและการพัฒนาทัศนคติเชิงบวก (Growth Mindset) ผ่านการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีและสร้างเครือข่าย (Networking) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้ศูนย์รวมของกลุ่มคนรุ่นใหม่
เกมและอีสปอร์ตเป็นความบันเทิงยุคดิจิทัลที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจ ทั้งยังเป็นสื่อกลางที่สามารถเชื่อมโยงเยาวชนเข้ากับทักษะแห่งอนาคตที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานและนำไปปรับใช้กับการทำงานได้จริงในหลากหลายอุตสาหกรรม
การีนา (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการและผู้พัฒนาเกมออนไลน์ชั้นนำระดับโลกภายใต้เครือ Sea (ประเทศไทย) ร่วมกับมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ (Saturday School) จัดทำหลักสูตร “ห้องเรียนอีสปอร์ต” ชวนครูและนักเรียนมาเรียนรู้อาชีพในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตเพื่อส่งเสริมความสามารถและพัฒนาทักษะจำเป็นในยุคดิจิทัล โดยหลักสูตร “ห้องเรียน อีสปอร์ต” ถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงความสะดวกในการนำไปใช้ในการเรียนการสอนมากที่สุด
คุณครูที่สนใจสามารถเข้าถึงแผนการสอนหน้าเดียว เค้าโครงการสอน และสไลด์ประกอบการสอนได้ที่เว็บไซต์ Sea Academy
เมื่อเร็ว ๆ นี้ การีนา (ประเทศไทย) และมูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ยังได้ร่วมหารือกับกรุงเทพมหานครฯ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) เพื่อประชาสัมพันธ์และกระจายหลักสูตรไปยังโรงเรียนมัธยมภายในสังกัด ดังนั้น เพื่อช่วยให้คุณครูมีความเข้าใจในการนำหลักสูตรไปปรับใช้จริงในรูปแบบที่เหมาะกับแต่ละโรงเรียน โครงการ “ห้องเรียน อีสปอร์ต” จึงเตรียมจัดการปฐมนิเทศและเวิร์กช้อปสำหรับคุณครูที่สนใจนำหลักสูตรไปใช้ โดยเริ่มเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ - 21 ต.ค. 2566 ทาง https://bit.ly/GarenaRegister
คุณครูและนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการจะได้เข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้กับผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตในด้านที่เกี่ยวข้องกับ 5 อาชีพ ดังนี้
1. ทีมผู้ประสานโครงการแข่งขันอีสปอร์ต
2. ทีมโค้ชผู้ฝึกสอนกีฬาอีสปอร์ต
3. ทีมนักพากย์
4. ทีมสื่อวงการเกม
5. ทีมควบคุมสื่อและการถ่ายทอดสด
กิจกรรมปฐมนิเทศและเวิร์กช้อปจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อนักเรียนและคุณครูได้รับการอบรมและพัฒนาทักษะในอุตสาหกรรมเกมและอีสปอร์ตเสร็จสิ้นแล้วนั้น จะเข้าสู่ช่วงจัดการแข่งขันอีสปอร์ตภายในโรงเรียนและระหว่างโรงเรียน ทั้งยังได้ทดลองปฏิบัติงานจริงในอีสปอร์ตสตูดิโอของการีนา
สิ่งที่คุณครูและโรงเรียนจะได้รับ
· การอบรมการจัดการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต
· ทุนสนับสนุนการดำเนินโครงการ
· โล่ประกาศเกียรติคุณและของที่ระลึกจากโครงการ
สิ่งที่นักเรียนจะได้รับ
· การทัศนศึกษาที่ บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด
· เกียรติบัตรและของที่ระลึกจากโครงการ
สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรห้องเรียนอีสปอร์ตเพิ่มเติมได้ที่ www.SeaAcademy.co สมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับโครงการห้องเรียนอีสปอร์ตที่ได้ลิ้งก์และ QR Code นี้ https://bit.ly/GarenaRegister