คณะผู้บริหารระดับสูงบริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) นำโดย นายสิรวิชญ์ โชติเทวัญ รองประธานสายกิจการต่างประเทศ ตัวแทน ดร.ปัญญา โชติเทวัญ และ ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ ร่วมเข้าประชุมหารือโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการและการฝึกงาน/สหกิจศึกษา กับคณบดีคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ คณบดีคณะวิศวกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ณ ห้องประชุม 2209 คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งนี้ เพื่อร่วมปรึกษาแนวทางต่อยอดพัฒนาขยายสายพันธุ์ไก่สหฟาร์ม ที่วางเป้าเพิ่มจำนวนอีกนับล้านตัว ภายใน 2 ปีนี้ พร้อมวางแผนพัฒนาสายพันธุ์ปลาดุกไทย เพื่อเตรียมส่งสินค้าใหม่บุกตลาดต่างประเทศ
พร้อมกันนี้สหฟาร์มยังเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร เยาวชนไทย ให้เติบโตก้าวไกลในเวทีโลก และสามารถเป็นทรัพยากรบุคคลอันมีค่าในการช่วยสร้างความมั่นคงให้กับประเทศต่อไป โดยผ่านการมอบเงินสนับสนุนการดำเนินงานของแต่ละคณะ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้แก่ มอบทุนการศึกษาให้กับคณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี มอบเงินสนับสนุนกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์ และเงินสนับสนุนการวิจัยระบบบำบัดน้ำเสียให้คณะวิทยาศาสตร์ อีกทั้งมอบเงินสนับสนุนการวิจัยการพัฒนาการเลี้ยงปลาดุกให้คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ตลอดจนมอบเงินสนับสนุนกิจกรรมประชุมวิชาการระดับชาติให้คณะศิลปศาสตร์
นอกจากนี้คณะผู้บริหารสหฟาร์มยังเข้ามอบช่อดอกไม้ร่วมแสดงความยินดีกับรองศาสตราจารย์ ดร. วีระพล ทองมา เนื่องในโอกาสที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้อีกวาระหนึ่ง ณ ห้องประชุมรวงผึ้ง ชั้น 5 สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เมื่อเร็วๆ นี้
คณะผู้บริหารระดับสูงบริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) นำโดย ดร.ก้องเทวัญ โชติเทวัญ ประธานสายโรงงานแปรรูปการผลิต และโรงงานอาหารสำเร็จรูป พร้อมด้วยคุณหมอธนบูรณ์ ประเสริฐสังข์ ประธานสายปศุสัตว์ และทีมงานสายปศุสัตว์ และนายโยธิน บุญธะศรี ประธานฝ่ายกิจการประมง ร่วมให้การตอนรับทีมกรมประมง โดยมีนายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมง และนายสง่า คำพันธ์ หัวหน้าประมงจังหวัดลพบุรี พร้อมคณะข้าราชการ เข้าเยี่ยมชมกิจการสหฟาร์มประมงลพบุรีครั้งแรก ณ โรงงานสหฟาร์ม จังหวัดลพบุรี เมื่อวานที่ผ่านมา โดยสืบเนื่องมาจากการที่สหฟาร์มได้เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจใหม่ “ปลาดุกอนามัย” บนความมุ่งหวังในการพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก ผ่านการยกระดับปลาดุกไทย ขยายโอกาสสู่ตลาดโลก
ซึ่งการเยี่ยมชมในครั้งนี้สหฟาร์มยังได้มีโอกาสนำเสนอ เปิดบ้านให้คณะกรมประมงได้รับชมกรรมวิธีการเลี้ยงปลาดุกในบ่อดินแบบธรรมชาติ โดยมีการดูแลและใส่ใจในทุกขั้นตอน มีเจ้าหน้าที่ดูแลถ่ายน้ำออกจากบ่อทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำสะอาดและมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ ซึ่งขนาดของบ่อเลี้ยงปลาดุก 1 ไร่ จะจำกัดปริมาณปลาเลี้ยงในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 20,000 ตัวต่อบ่อ เพื่อลดความแออัด และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ นอกจากนี้ยังมีวิธีการจัดการแบบพิเศษเพื่อให้ปลาขับของเสีย ซึ่งจะเป็นการลดกลิ่นโคลน ลดกลิ่นคาว ทำให้สหฟาร์มได้ปลาดุกอนามัย แข็งแรง และมีคุณภาพ จนได้รับมาตรฐาน GAP (มาตรฐาน รับรองการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี สำหรับการผลิตสัตว์น้ำ) จากกรมประมง อีกด้วย
ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 Impact เมืองทองธานี (บูธ U71) บริษัทสหฟาร์ม ผู้ผลิตและส่งออกไก่แช่แข็งรายใหญ่ของไทย ได้เข้าร่วมออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์บริษัท พร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค หลากหลายกลุ่ม ทั้งสายรักสุขภาพ ไก่แปรรูปสำหรับเด็กแพ้อาหาร ไก่พร้อมทานสำหรับคนรุ่นใหม่เน้นความสะดวก พร้อมแตกไลน์สินค้าใหม่ “ปลาดุกอนามัย“ ภายใต้แบรนด์สหฟาร์ม โดยผู้ที่มาร่วมงาน ทั้งในและต่างประเทศ ให้ความสนใจกันอย่างเนืองแน่น
ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) เปิดเผยว่า เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีของสหฟาร์ม ที่ได้กลับมาอีกครั้ง ในงาน Thaifex Anuga Asia 2024 ในครั้งนี้ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ เราอยากให้ทุกคนได้ทราบ และรู้จักเราให้มากขึ้นในฐานะบริษัทที่มีศักยภาพและมาตรฐานระดับโลกในการผลิตสินค้าทั้งไก่สดและไก่แปรรูป เพื่อการส่งออก พร้อมประกาศเดินหน้าแผนพัฒนาต่อยอด และทำการปรับองค์กรของเราใหม่ทั้งหมด ในทุกมิติ ทั้งในด้านนโยบาย สินค้า และบุคลากรเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยนำประสบการณ์ 55 ปีที่ผ่านมาในการทำธุรกิจมาต่อยอดพัฒนาสินค้า คุณภาพ รสชาติ และรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมา สหฟาร์มยังได้มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์โดยการสร้างยอดขายทะลุ 170,000 ตัน ซึ่งสูงกว่าหลายหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทผู้ส่งออกไก่แช่แข็งอันดับ 1 ของประเทศไทย ในปี 2566
“โดยในงาน นอกจากจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค แล้วยังถือโอกาส เปิดตัวและแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ อย่างสินค้าสำหรับเด็กที่แพ้อาหาร อาทิเช่น แป้งสาลี นม ถั่ว ไข่ ปลา และอาหารทะเลเปลือกแข็ง ภายใต้แบรนด์ “โชริโชริ” ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ยูริกต่ำ สำหรับคนที่รักสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ พอลดีย์ อาหารปรุงสำเร็จ สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่เน้นความสะดวกสบาย ภายใต้แบรนด์ สหฟาร์มอินเตอร์ และน้องใหม่ล่าสุด “ปลาดุกอนามัย” เลี้ยงโดยวิธีการธรรมชาติ ที่ต้องการยกระดับปลาดุกไทยและขยายโอกาสสู่ตลาดโลก เนื้อสัมผัสนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาว ให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้ลิ้มลองกันอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นการบอกว่า เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก และขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุนสหฟาร์มเสมอมา” ดร. จารุวรรณ กล่าว
ภายในงาน Thaifex Anuga Asia 2024 สินค้าของสหฟาร์มที่นำมาเปิดตัวในงานครั้งนี้ มีทั้งไก่สด เราเป็นฟาร์มไก่เนื้อขนาดใหญ่แบบครบวงจร มีขนาดพื้นที่มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยพื้นที่กว่า 40,000 ไร่ มีระบบการจัดการแบบต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีฟาร์มปู่ย่าพันธุ์ พ่อแม่พันธุ์ เป็นของตัวเอง เพื่อการดูแลและควบคุมสายพันธุ์ให้ดีที่สุดเพื่อผู้บริโภคทั่วไป และผู้บริโภคชาวมุสลิม มีระบบคอมพาร์ทเม้นขนาดใหญ่ ควบคุมอุณหภูมิ แบบ Evaporative Cooling System ทำให้เราได้รับมาตรฐาน Animal welfare จากองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ OIE เลี้ยงด้วยธัญพืชคุณภาพสูง และอาหารไก่สูตรที่เราพัฒนาและปรับปรุงเอง เลี้ยงด้วยน้ำสะอาดที่ผ่านกระบวนการพาสเจอร์ไรส์ เรามีสัตวบาลคอยดูแลไก่ทุกตัว ไก่ของเราจึงปลอดโรค และไม่ต้องฉีดยาปฏิชีวนะ ไม่มีสารเร่งโต ปลอดสารปนเปื้อน
สหฟาร์มผลิตไก่กว่า 700,000 ตัว/วัน มีโรงงานแปรรูปขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตไก่เนื้อเพื่อการส่งออก มากกว่า 170,000 ตัน/ปี เพราะเรามีทั้งเครื่องจักรที่ทันสมัย และที่สำคัญเรามีผู้เชี่ยวชาญการตัดแต่งชิ้นส่วนไก่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะอยากได้ชิ้นส่วนแบบไหน หรือต้องการความพิเศษแบบใด สหฟาร์มสามารถดูแลและจัดการให้ได้ อีกทั้งยังมีไก่ปรุงสุก โดยสหฟาร์มมีโรงงานอาหารสำเร็จรูปที่เป็นไก่ปรุงสุก สามารถผลิตได้กว่า 5,000 ตัน/เดือน ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยได้มาตรฐาน ทั้ง GMP/ HACCP/ Halal มีแล็บที่ได้มาตรฐานสำหรับตรวจสอบและควบคุมคุณภาพสินค้าด้วยตัวเอง ด้วยโรงงานขนาดใหญ่ จึงสามารถผลิตได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันตามความต้องการของลูกค้า มี OEM ตามความต้องการของลูกค้า เพื่อการผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของลูกค้าเอง
อีกทั้งในปีนี้สหฟาร์ม ยังต้องการยกระดับปลาดุกไทย ขยายโอกาสสู่ตลาดโลก เพราะปลาดุก ถือว่าเป็นปลาเศรษฐกิจของไทย ที่คนนิยมทานกันหลากหลาย สหฟาร์มจึงอยากยกระดับปลาดุกไทยขึ้นไปอีก ด้วยการพัฒนาปลาดุกสายพันธุ์ของสหฟาร์มเอง ให้มีรสชาติดี เนื้อสัมผัสแน่น ชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นคาว หนังหนา มีไขมันแทรกในเนื้อ ด้วยกรรมวิธีการเลี้ยงในบ่อดินแบบธรรมชาติ ที่ดูแลและใส่ใจในทุกขั้นตอน จะมีการถ่ายน้ำออกจากบ่อทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้น้ำสะอาดและมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ ขนาดของบ่อเลี้ยงปลา 1 ไร่ จะจำกัดปริมาณปลาเลี้ยงในปริมาณพอเหมาะ ไม่เกิน 20,000 ตัวต่อบ่อ เพื่อลดความแออัด และเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ทำให้ได้ปลาดุกที่มีคุณภาพ แข็งแรง
จนได้รับมาตรฐาน GAP จากกรมประมง (มาตรฐาน GAP คือใบรับรองการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี สำหรับการผลิตสัตว์น้ำ) โดยมีวิธีการจัดการแบบพิเศษ เพื่อให้ปลาขับของเสีย ลดกลิ่นโคลน ลดกลิ่นคาว ทำให้สหฟาร์มได้ปลาดุกอนามัย ที่อร่อย เนื้อมีกลิ่นหอมเวลาย่าง ไม่มีกลิ่นสาบ กลิ่นโคลน และมีขนาดปลาให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ตัวละ 1.5-2 กิโลกรัม ซึ่งจะแบ่งปลาเป็น 2 ประเภท คือแบบหั่นชิ้น เหมาะเอาไว้สำหรับปรุงอาหาร ประเภท แกง ผัด และแบบแล่เนื้อ แบบนี้จะไม่มีก้าง จะได้เนื้อล้วนชิ้นใหญ่ เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มมูลค่าให้กับอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีโชริ โชริ ผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปสำหรับเด็กแพ้อาหาร (Processed Chicken For child with food allergies) มานำเสนอ สหฟาร์มยังให้ความสำคัญกับข้อจำกัดสำหรับเด็กที่แพ้อาหาร จึงพัฒนาและคิดค้นไก่ปรุงสุก ทั้งปีกกลางไก่อบซอส และปีกบนไก่อบซอส เพื่อเป็นทางเลือกให้สำหรับเด็กที่แพ้อาหาร ซึ่งปราศจากสารก่อภูมิแพ้หลักในอาหาร 8 ชนิดด้วยกัน อาทิ นม ไข่ ปลา อาหารทะเลเปลือกแข็ง ถั่วต่างๆ และแป้งสาลี รวมถึงไม่มีสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่างๆ ทำให้โชริโชริ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและถูกปากสำหรับเด็กๆ แน่นอน
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นำมาเปิดตัวในงานคือ พอลดีย์ ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ยูริกต่ำ ทางเลือกของคนรักสุขภาพ
พอลดีย์ ฟาร์มไก่อารมณ์ดี ด้วยระบบคอมพาร์ทเม้นขนาดใหญ่ ควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบ Evaporative System ทำให้ไก่รู้สึกเย็นสบาย มีพื้นที่กว้าง ทำให้ประชากรไก่ไม่แออัด ไก่มีอิสระที่จะวิ่งเล่น คุ้ยเขี่ยขอนไม้ กองฟาง เพื่อให้ไก่ได้ใช้สัญชาตญาณได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังคัดเลือกแต่ธัญพืชคุณภาพสูง และพัฒนาอาหารไก่ให้มีประโยชน์ต่อไก่มากที่สุด บนพื้นฐาน Feed on Plant-Based Proteins และได้รับรองผ่านมาตรฐาน UFAS อีกด้วย มีระบบน้ำดื่มที่ผ่านการทรีทเม้นกรองโลหะหนักออกจากน้ำ อีกทั้งยังมีสัตวบาลคอยดูแลไก่ทุกตัว และเสริมสมุนไพรให้ไก่ได้จิกกิน ซึ่งทำให้ไก่พอลดีย์ ไม่มีสารเร่งโต ไม่ใช้ฮอร์โมน ไม่มียาปฏิชีวนะ มีการเปิดเพลงคลาสสิคให้ไก่ฟัง เพื่อให้ไก่ผ่อนคลาย จึงเป็นที่มาของไก่อารมณ์ดี ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าไก่ของพอลดีย์มีสุขภาพที่ดีแน่นอน รวมไปถึงพอลดีย์ยังมีมาตรฐานการรับรองจาก Farm First / Biosecurity Animal Welfare อีกด้วย ทำให้ไก่พอลดีย์ จึงเป็นไก่อนามัยที่สด สะอาด ลดการปนเปื้อน เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ ไขมันแทรกในเนื้อน้อย หนังบาง และยูริกต่ำ เป็นวัตถุดิบชั้นดี และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่รักสุขภาพอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันตลาดใหญ่ของสหฟาร์มคือ ตลาด B2B ในต่างประเทศ ซึ่งเป็น ตลาดหลักของสหฟาร์มเกือบ 100% ในขณะที่ตลาดในประเทศก็มีความสำคัญมาก แต่มีรายใหญ่ที่ค่อนข้างแข็งแรงครองตลาดอยู่ การขยายกลับมาในตลาดในประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจ แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นแนวทางการดำเนินงานในอนาคตที่ต้องปรึกษากับบอร์ดผู้บริหารท่านอื่นๆ ทั้งนี้ไก่ไทย ถือว่าโดดเด่นในเวทีโลก ซึ่งปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทย เติบโตต่อเนื่อง เนื่องมาจากปัจจัยหนุนด้านความต้องการทั้งจากตลาดในประเทศและตลาดส่งออกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศคู่ค้า Middle East ที่ให้ความสนใจกับสหฟาร์มในขณะนี้ ทำให้ในปีนี้สหฟาร์มตั้งเป้ายอดส่งออกคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นอีกราว 10% ดร.จารุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย
ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) ได้รับมอบหมาย ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประธานใหญ่แห่งสหฟาร์ม ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ นำครอบครัว ผู้บริหารระดับสูง บุคลากรพนักงาน จัดพิธีทำบุญเสริมสิริมงคล บวงสรวงอนุสาวรีย์ไก่ โรงงานเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 21 และโรงงานลพบุรี ครั้งที่ 32 ประเพณีอันเก่าแก่ วัฒนธรรมองค์กรอันทรงคุณค่าและสำคัญอย่างยิ่งของสหฟาร์ม ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อระลึก ทดแทนคุณ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้มีพระคุณ (ไก่) และเพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรือง
ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (SAHA FARMS) เปิดเผยว่า ในปี 2567 นี้ บริษัท สหฟาร์ม ได้ดำเนินธุรกิจย่างเข้าปีที่ 55 บนปณิธานอันแน่วแน่ของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ในการผลิตสินค้าที่ดีและมีคุณภาพเพื่อมวลมนุษยชาติ จนทำให้ สหฟาร์ม มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับจากลูกค้านานานับประเทศ อีกในปีที่ผ่านมานี้ สหฟาร์มกลับมาท็อปฟอร์มในฐานะผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งอันดับ 1 ของประเทศได้สำเร็จ โดยสามารถทำยอดส่งออกไก่รวม 170,000 ตัน ซึ่งเป็นนิวไฮของบริษัทฯ ซึ่งในหลายทศวรรษที่ผ่านมา สหฟาร์มยังคงยืนหยัดในมาตรฐานทั้งส่วนของฟาร์มที่อยู่ภายใต้เกณฑ์มาตรฐานที่ดีระดับโลก อีกทั้งโรงงานแปรรูป โรงงานอาหารสำเร็จรูป บนพื้นที่ 5,000 ไร่ ของสหฟาร์ม ในจังหวัดเพชรบูรณ์ และบนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในจังหวัดลพบุรี ก็ยังถือเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกเช่นกัน นอกจากนี้สหฟาร์มยังมุ่งส่งเสริมบุคลากร และทรัพยากรทั้งในพื้นที่และชุมชน ให้เกิดความยังยืน ด้วยการเลือกใช้ความเชี่ยวชาญในฝีมือของคนงานท้องถิ่น เนื่องจากเป็นหนึ่งในนโยบายการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินค้าของสหฟาร์มถือเป็น Handcrafted มีความประณีตมากและเป็นที่นิยมในลูกค้าต่างชาติ ซึ่งจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้นำองค์กรเหล่านี้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่สามารถทำให้ลูกค้าจากนานาประเทศหลั่งไหลมาซื้อสินค้าไทย และนำเงินตราเข้าประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท ตลอดจนเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
สหฟาร์ม ถือเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในโลกที่จัดตั้งอนุสาวรีย์ไก่ และประกอบพิธีทำบุญ บวงสรวงอนุสาวรีย์ไก่ เพื่อระลึก ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตไก่ที่เสียสละชีวิตให้ทุกคนได้อิ่มท้อง มีงานทำ มีรายได้เลี้ยงครอบครัว โดยพิธีดังกล่าวได้จัดขึ้น ณ โรงงานแปรรูปการณ์ผลิต จังหวัดเพชรบูรณ์ และโรงงานแปรรูปการณ์ผลิต จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 3-4 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ เห็นความสำคัญ ของบุคลากรทางการแพทย์ โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่สหฟาร์ม เป็นตัวแทนจัดส่งไข่แฝดสหฟาร์ม จำนวน 2,500 แผง มอบให้แก่ 4 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี, โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ทั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่เสียสละทำงานอย่างหนักในการดูแล และรักษาผู้ป่วยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆ นี้