December 05, 2025

นายกฯ ‘แพทองธาร’ นำประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพการประชุมระดับโลก ภายใต้ 3 กระทรวงหลัก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี), กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จับมือ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เปิดการประชุมวิชาการนานาชาติ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน 2568 มีผู้เข้าร่วมกว่า 104 ประเทศ โดยไทยร่วมแสดงบทบาทผู้นำระดับภูมิภาคในการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม พร้อมแสดงวิสัยทัศน์ว่า ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าพัฒนา AI อย่างมีธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการนานาชาติฯ โดยได้กล่าวถึงแนวทางสำคัญ 3 ประการในการกำหนดทิศทางอนาคตของ AI ในประเทศไทย ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ AI เพื่อประโยชน์ของสังคม โดยเฉพาะในด้านเกษตรกรรม สาธารณสุข และการศึกษา การป้องกันการใช้ AI ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอมหรือ Deepfake ที่บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือในสังคม การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและการพัฒนา AI โดยยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อสนับสนุนแรงงาน ไม่ใช่แทนที่แรงงาน โดยรัฐจะร่วมมือกับภาคธุรกิจและสถาบันการศึกษาในการยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง

รัฐบาลไทยยังเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ชาติด้าน AI ภายใต้การกำกับของ “คณะกรรมการ AI แห่งชาติ” โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้ AI เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และหลักจริยธรรมที่เข้มแข็ง รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจาก AI ได้ไม่น้อยกว่า 4,000 ล้านบาทภายในปี 2570 พร้อมส่งเสริมให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก พร้อมกันนี้ ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับการนำ AI ไปใช้ในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประชาชนโดยตรง โดยเฉพาะด้านการแพทย์ เกษตรกรรม และการศึกษา เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในทุกมิติอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือทวิภาคีกับ Ms. Audrey Azoulay  (นางออเดรย์ อาซูเลย์) ผู้อำนวยการใหญ่ของยูเนสโก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันในการตั้ง “ศูนย์ AI Governance Practice Center (AIGPC) หรือ ศูนย์ธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ระดับภูมิภาค” เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามข้อเสนอแนะว่าด้วยจริยธรรม AI โดยเฉพาะในบริบทของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความร่วมมือนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของประเทศต่าง ๆ ในการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ความร่วมมือนี้ยังจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาคในการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่เกิดจากการใช้ AI ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการนำ AI มาใช้เพื่อหลอกลวงประชาชน เช่น การปลอมเสียงและใบหน้าผ่านเทคโนโลยี Deepfake การส่งข้อความหลอกลวงผ่านระบบอัตโนมัติ และการสนับสนุนขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์หรือ Call center ซึ่งล้วนเป็นภัยที่เกิดขึ้นจริงและแพร่กระจายรวดเร็วในหลายประเทศ ซึ่งการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนนี้ เป็นการสะท้อนว่าประเทศไทยพร้อมเดินหน้าร่วมกับประชาคมโลกอย่างมั่นคง บนเส้นทางของการพัฒนา AI ที่มีจริยธรรม โปร่งใส และยั่งยืน

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ยืนยันว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม ไม่ใช่เพียงแค่ในเชิงนโยบาย แต่เน้นการ “นำไปใช้จริง” โดยเฉพาะกับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และการบริการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง โดยไทยยังได้ประเมินความพร้อมด้าน AI ผ่านเครื่องมือ UNESCO RAM (UNESCO Readiness Assessment Methodology) เพื่อให้เข้าใจสถานะปัจจุบันของประเทศอย่างเป็นระบบ พร้อมระบุจุดแข็ง จุดอ่อน และแนวทางปรับปรุงในมิติต่าง ๆ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน นโยบายข้อมูล และทักษะบุคลากร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย ทั้งนี้ นายประเสริฐกล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดตั้ง ศูนย์ AIGPC ภายใต้การดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) จะเป็นศูนย์กลางสำคัญในการฝึกอบรม สร้างองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติ และยกระดับบุคลากร AI ในระดับภูมิภาคต่อไป

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้นำหลากหลายประเทศ มาร่วมแชร์วิสัยทัศน์และมุมมองครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี นโยบาย และนวัตกรรม พร้อมด้วยกิจกรรมคู่ขนาน (Side Event) จากพาร์ทเนอร์ทั้งไทยและต่างประเทศที่ร่วมกันจัดขึ้น กับงาน Bangkok AI Week 2025” ภายใต้แนวคิด “AI Powered Nation: Unleashing the Digital Economy for All” โดยมีกิจกรรมมากมายทั่วกรุงเทพฯ เช่น นิทรรศการเทคโนโลยี AI เวิร์กช็อปการใช้งานจริง เสวนาแลกเปลี่ยนแนวคิดจากนักวิจัยและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ รวมถึงโชว์เคส AI จากบริษัทชั้นนำ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนได้มีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของ AI ที่ทุกคนได้ประโยชน์ไปด้วยกัน ผู้สนใจสามารถติดตามบทสรุปการประชุมนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 และความเคลื่อนไหวของ Bangkok AI Week 2025 ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้การต้อนรับคณะผู้บริหารระดับภูมิภาคจาก Grab Holding Inc. นำโดย มร. อเล็กซ์ ฮันเกต ประธานบริษัทฯ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ในโอกาสเดินทางมาเยี่ยมชมและติดตามการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย พร้อมร่วมหารือในประเด็นต่างๆ อาทิ โอกาสในการพัฒนาความร่วมมือในอนาคตเพื่อยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย การสานต่อความร่วมมือกับ depa ในการพัฒนาคอร์สอบรมออนไลน์ผ่านโครงการ GrabAcademy การส่งเสริมให้ธุรกิจแพลตฟอร์มดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและเป็นธรรมเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการคนไทย ภายใต้การกำกับดูแลที่เหมาะสมตาม พ.ร.บ. เศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางในการบริหารธุรกิจแพลตฟอร์มในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนของ Grab ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง การส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ณ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยความพร้อม การจัดการประชุมวิชาการนานาชาติ “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–27 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำของ 3 กระทรวงใหญ่ของไทย อย่าง กระทรวง ดีอี, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ที่ผนึกกำลังร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้นำและผู้แทนจากประเทศต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนนักวิชาการจาก 194 ประเทศสมาชิก UNESCO กว่า 800 คน มาร่วมแลกเปลี่ยนนโยบาย วิสัยทัศน์ ตลอดจนข้อมูลสำคัญ เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบาย ตลอดจนแนวทางการพัฒนา AI ที่นำไปสู่การวางรากฐานอนาคตจริยธรรม AI ที่โปร่งใสเป็นธรรม เคารพสิทธิมนุษยชนสอดคล้องตามมาตรฐานสากล ‘UNESCO Recommendation on the Ethics of AI’ สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

โดยการประชุมนานาชาติครั้งมีไฮไลท์โปรแกรมสำคัญที่น่าสนใจ ดังนี้

  • วันที่ 24 มิถุนายน- วันแรกเริ่มต้นด้วยการประชุมเชิงกลยุทธ์และการประชุมแบบคู่ขนาน โดยมีทั้ง Working Meetings (3 ห้องคู่ขนาน), Strategic Briefing Session, Ministerial Session ระดับรัฐมนตรีและผู้บริหารนโยบายระดับสูง เพื่อปูทางไปสู่แนวทางความร่วมมือด้านการกำกับดูแล AI ระหว่างประเทศและการออกแบบโมเดลธรรมาภิบาลที่ใช้ได้จริงในระดับภูมิภาค
  • วันที่ 25 มิถุนายน- เป็นเวทีที่ทุกคนที่ได้รับเชิญจะร่วมเปิดมุมมองโลก สู่การกำหนดทิศทางครั้งใหญ่ของอนาคตจริยธรรม AI โดยช่วงเช้า พบกับ Opening session พิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ ตามด้วยการแสดงวิสัยทัศน์จากผู้นำหลากประเทศรวมถึงประเทศไทย ที่จะมาร่วมโชว์วิสัยทัศน์การขับเคลื่อนนโยบายจริยธรรม AI ต่อนานาประเทศ รวมถึงการเสวนาที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี นโยบาย และนวัตกรรม เพื่อจุดประกายความร่วมมือระดับโลก ผ่านประเด็นสำคัญ อาทิ Technology, Policy and Innovation for good, Fostering Global Dialogue on AI for a Collective Future และ Harnessing the Full Potential of AI through Demand-driven Investment เป็นต้น
  • วันที่ 26 มิถุนายน- เป็นวันแห่งการเจาะลึกครบทุกมิติ การขับเคลื่อนการใช้ AI อย่างยั่งยืนและ มีธรรมาภิบาล ผ่านเสวนารวมในห้องใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเช้า และการเสวนาย่อย 4 ห้องประชุมคู่ขนานที่มีการกำหนดธีมในการหารือ โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ AI and Education: Future of Learning and Human Capital in the Age of AI,  AI and Neurotechnology, AI and Quantum, AI-Ready Public Administration: Challenges and Opportunities, AI and Online Fraud, AI and Disaster Risk Reduction, AI and Disability: from inclusion to empowerment และ AI for Youth, AI by Youth โดยผู้เชี่ยวชาญ AI ในแต่ละด้าน  

นอกจากกิจกรรมข้างต้น ยังมี Side Event คู่ขนานไปกับการจัดประชุม “The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025”  ที่น่าสนใจ ซึ่งหลายกิจกรรมเปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมได้ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมนอกเหนือจากประชุมวิชาการระดับนโยบาย อาทิ กิจกรรม AI Pitching จากสถาบันการศึกษา อย่าง การแข่งขัน Beyond Green AI for a Thriving Future Pitch Competition โดยสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (The AI Engineering Institute) แห่ง CMKL University ร่วมกับ UNESCO และ ETDA, กิจกรรม Call for Papers – UNESCO Global Forum on Ethics of AI 2025 จากมหาวิทยาลัยบูรพา ที่เปิดพื้นที่ให้นักวิชาการ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญ ได้ส่งบทความด้านจริยธรรม ธรรมาภิบาล และความยั่งยืนที่เชื่อมโยงกับ AI มาล่วงหน้า และจะไปนำเสนอและอภิปรายผ่านเวทีที่จัดขึ้น, การประชุมเตรียมความพร้อมด้านทักษะและกำลังคนสำหรับยุค AI ที่เน้นความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Enabling an AI-ready Workforce: Exchanging Policy Perspectives and Solutions) จาก ESCAP, กิจกรรมเสวนา AI and Children: Using AI for realizing the rights of children จาก UNICEF ร่วมกับ Thailand Safe Internet Coalition (TSIC) และกิจกรรม AI Sandbox Workshop for private sector จากจาก Technical University of Munich เพื่อให้หน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานกำกับดูแล ได้มีพื้นที่ในการทดลอง ทดสอบ และออกแบบการใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีธรรมาภิบาล เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานที่รัฐบาลไทยสนับสนุนให้จัดขึ้น เตรียมพบกับ “Bangkok AI Week 2025กับคอนเซปต์ AI powered nation: Unleashing the digital economy for all เพื่อแสดงศักยภาพการขับเคลื่อน AI ของไทย สู่การปลดปล่อยศักยภาพการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลสำหรับคนไทยทุกคน ที่จะมีกิจกรรมกระจายไปยังจุดต่างๆ ในกรุงเทพ จัดเต็มทั้งกิจกรรม Workshop ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการ กลุ่มนักพัฒนานวัตกรรม กลุ่มนักลงทุน รวมถึง Exhibition โชว์เคส AI Solution สำหรับผู้ที่สนใจในทุกเจเนอเรชัน –ติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประชุมนานาชาติ The 3rd UNESCO Global Forum on the Ethics of AI 2025 เพิ่มเติมได้ที่  https://www.globalforumethicsai.com/ หรือเพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand

Page 1 of 5
X

Right Click

No right click