January 30, 2025

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ด้วยศักยภาพอันมหาศาลในการสร้างรายได้และการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังประเทศไทย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางชั้นนำระดับโลก ในปีนี้ วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค และ Royal Dutch Jaarbeurs ซึ่งมีประสบการณ์อันยาวนานในการจัดงานแสดงเทคโนโลยีในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมเปิดตัวเวที B2B ครั้งแรกในเอเชีย ที่มุ่งเน้นการสร้างอนาคตด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย งาน Travel & Tech Asia 2025 (ทราเวล แอนด์ เทค เอเชีย 2025) จะเป็นศูนย์กลางที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตเทคโนโลยีได้เชื่อมโยงกับผู้เล่นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโดยตรง เพื่อร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมสู่อนาคต งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะผู้จัดงานได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Travel & Tech Asia 2025 อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก คุณจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน พร้อมจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ “อนาคตของเทคโนโลยีการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย” ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญและผู้นำในอุตสาหกรรมร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ ได้แก่ 

- คุณนัวร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA) 

- คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) 

- คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาค กลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและจีน Booking.com 

- คุณอังคณา ตั้งกระจ่าง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด Landmark Lancaster Hotel Group

- คุณปนัดดา ก๋งม้า รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค (ตัวแทนผู้จัดงาน)

 

คุณจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวเเละกีฬา กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างยั่งยืนผ่านการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ โดยเรามุ่งพัฒนาระบบข้อมูลและข้อมูลท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ เชื่อมต่อระหว่างหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนอย่างไร้รอยต่อ ความร่วมมือนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย งาน Travel & Tech Asia 2025 เป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพและความพร้อมของไทยในฐานะศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีในภูมิภาค รวมทั้งเน้นย้ำถึงการมุ่งมั่นของเราในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่บูรณาการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในระดับโลก”

 

คุณปนัดดา ก๋งม้า รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า "การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวในยุคนี้ ซึ่งต้องปรับตัวให้ทันกับความคาดหวังใหม่ ๆ ทั้งในด้านความยั่งยืน ความปลอดภัย การจองที่สะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการบริการแบบเรียลไทม์ผ่าน AI ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ" พร้อมเน้นย้ำว่า Travel & Tech Asia 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว


คุณนัวร์ อาหมัด ฮามิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA) กล่าวว่า "เทคโนโลยีได้เปลี่ยนแปลภูมิทัศน์ของการท่องเที่ยวในเอเชีย โดยนำเสนอโอกาสใหม่ๆ ทางด้านนวัตกรรมและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ด้วยการบูรณาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เราเชื่อว่าเรากำลังตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับการเดินทางที่ส่งผลดีต่อด้านสิ่งเเวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสบการณ์ให้เเก่นักท่องเที่ยว เทคโนโลยีจะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว"

คุณปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) กล่าวเสริม “อนาคตของการท่องเที่ยวในไทยขึ้นอยู่กับการที่เรามุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ ด้วยกลุ่มคนที่ทำงานด้านเทคโนโลยีที่มีความตื่นตัว รวมทั้งการสนับสนุนของนโยบายรัฐบาล และจุดแข็งที่มีอยู่ของไทย ทำให้เรากำลังก้าวหน้าไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวไปอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว”

คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและจีน Booking.com กล่าวว่า  " ทาง Booking.com ได้มีการใช้ AI มากกว่าทศวรรษ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ทำให้แผนการเดินทางเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้นและสามารถจัดการได้อย่างเฉพาะบุคคลได้มากยิ่งขึ้น เทคโนโลยี่ช่วยให้เราบรรลุภารกิจของเรา ในการทำให้ทุกคนสามารถสัมผัสโลกและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เร็วกว่าที่เป็นมา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันของธุรกิจการท่องเที่ยว  ซึ่งภาคธุรกิจไม่สามารถมองข้ามบทบาทการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ เนื่องจากเทคโนโลยีช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่จะช่วยให้เกิดการแข่งขันในตลาดอย่างมีศักยภาพ และนี่เป็นส่วนสำคัญอย่างต่อการเติบโตโดยรวมของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

คุณอังคณา ตั้งกระจ่าง ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด Landmark Lancaster Hotel Group กล่าวว่า “ในอุตสาหกรรมการโรงแรม การบริการถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการยกระดับคุณภาพการบริการและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งทำให้เราสามารถดูแลลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น เเละในมุมมองของเรา เทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาแทนที่ "human touch" ในการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า แต่กลับช่วยเสริมศักยภาพในการมอบประสบการณ์ที่ดี  ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจของเรา  ทั้งนี้ความแม่นยำของเทคโนโลยียังช่วยลดข้อผิดพลาดของคนในการทำงานอีกด้วย ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจโรงเเรม เราจึงให้ความสนใจกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และตั้งตารอที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงยิ่งขึ้น”

Travel & Tech Asia 2025 ไม่เพียงแต่นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างโอกาสและแพลตฟอร์มสำหรับนวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์การเดินทางในทุกมิติ ภายในงานจะมีการจัดแสดงนวัตกรรมจากบริษัทชั้นนำกว่า 60 บริษัท พร้อมคาดการณ์ว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมงานกว่า **2,000 คน โดยไฮไลต์สำคัญจะประกอบด้วย เทคโนโลยีและโซลูชันการเดินทางที่ยั่งยืน เทคโนโลยี AI อัจฉริยะ ระบบโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยว ประสบการณ์เสมือนจริง (AR/VR) เพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้น FinTech เพื่อการชำระเงินที่สะดวกและปลอดภัย 

นอกจากนี้ งานยังได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (PATA), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และหน่วยงานชั้นนำอื่น ๆ

เตรียมพบกับอนาคตของการท่องเที่ยวระดับเอเชียในงาน Travel & Tech Asia 2025 ระหว่างวันที่ 2-3 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีที่สนใจเข้าร่วมงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  อีเมล: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.  โทร: 02-211-1661 ต่อ 250  หรือเว็บไซต์: https://travelandtechasia.com

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2567 รัฐบาลประชาชนมณฑลกุ้ยโจว  จัดการประชุมว่าด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมณฑลกุ้ยโจว ครั้งที่ 18 (18th Guizhou Tourism Industry Development Conference) โดยรัฐบาลประชาชนมณฑลกุ้ยโจว ในหัวข้อ “ส่งเสริมการบูรณาการวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวในเชิงลึก และสร้างจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก” ได้จัดขึ้นที่เมืองซิงอี้ มณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน บนพื้นฐานของ “ความเรียบง่าย ความละเอียดอ่อน ความเอาใจใส่ และความปลอดภัย” เพื่อเป็นการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมณฑลกุ้ยโจว พร้อมกับบ่มเพาะให้กลายเป็นอุตสาหกรรมหลัก การประชุมว่าด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมณฑลกุ้ยโจวจึงจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา โดยจัดหมุนเวียนไปทั่วทุกเมืองและเขตในมณฑลกุ้ยโจว และประสบความสำเร็จในการจัดงานมาแล้ว 17 ครั้ง

ทั้งนี้ เขตปกครองตนเองชนชาติปู้อีและแม้ว เฉียนซีหนาน (Qianxinan Bouyei and Miao Autonomous Prefecture) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลกุ้ยโจว มีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีชื่อเสียงจากทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี รวมถึงวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยทรัพยากรการท่องเที่ยวในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยเทือกเขา วัฒนธรรมกลุ่มชาติพันธุ์ และโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ โดยภูมิประเทศแบบคาร์สต์ (Karst) ก่อให้เกิดจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ได้แก่ หุบเหวน้ำตกร้อยสายหม่าหลิงเหอ (Maling River Canyon), ป่าหมื่นยอดภูผาว่านเฟิงหลิน (Wanfeng Forest), ทะเลสาบว่านเฟิง (Wanfeng Lake) และกลุ่มหินหลงหัว (Guizhou Longhua Stone Group) นอกจากนั้นยังมีศิลปะการร้องเพลงพื้นบ้านของกลุ่มชาติพันธุ์ปู้อีที่เรียกว่า “Eight-Note Seated Singing” อีกด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เขตปกครองตนเองเฉียนซีหนานได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยบูรณาการเข้ากับทรัพยากรการท่องเที่ยวภูเขาที่มีอยู่เดิม โดยมีการเปิดตัวโครงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหลายโครงการ รวมถึงเส้นทางการท่องเที่ยวคุณภาพเยี่ยมหลายเส้นทาง เพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสุขภาพโดยเฉพาะ

 ที่มา: รัฐบาลประชาชนมณฑลกุ้ยโจว

X

Right Click

No right click