

บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (National ITMX) เดินหน้ายกระดับการให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ ด้วยการเปิดให้บริการ “Cross-Border Inward Remittance Sponsor Bank Model” อย่างเต็มรูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนเงินจากต่างประเทศเข้าสู่บัญชีธนาคารในประเทศไทยผ่านระบบ PromptPay โดยมีจุดแข็งอยู่ที่ความรวดเร็ว ความปลอดภัย และการรองรับวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งผู้ใช้รายบุคคลและภาคธุรกิจ
บริการนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากระบบ PromptPay ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของระบบการชำระเงินในประเทศไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากธนาคารและประชาชนทั่วประเทศ โดยการนำไปประยุกต์ใช้กับการรับเงินจากต่างประเทศผ่านผู้ให้บริการโอนเงินระหว่างประเทศ (Money Transfer Operator – MTO) ที่มีความเชื่อมโยงกับธนาคารผู้สนับสนุน (Sponsoring Bank) ในประเทศไทย โดยคำสั่งโอนจะถูกส่งผ่านเข้าสู่ระบบของ National ITMX และส่งต่อไปยังธนาคารปลายทาง (Receiving Bank) เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีผู้รับแบบ Near Real-time ซึ่งถือเป็นการลดระยะเวลาในการรอเงินจากต่างประเทศจากเดิมที่ต้องใช้เวลา 3–5 วันทำการ ให้ Near Real-time ภายในวันเดียว
ในระยะแรก บริการนี้สามารถรองรับการโอนเงินปลายทางผ่านธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทยจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย (CITI) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารออมสิน (GSB) ซึ่งล้วนเป็นเครือข่ายธนาคารหลักที่ครอบคลุมผู้ใช้งานทั่วประเทศ และมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย จุดแข็งของบริการนี้ยังอยู่ที่การดำเนินงานภายใต้กรอบข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทย โดยเชื่อมโยงผ่านธนาคารที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจในความปลอดภัยและความถูกต้องของธุรกรรม นอกจากนี้ บริการยังรองรับการโอนเงินสูงสุดต่อรายการถึง 500,000 บาท ซึ่งเพียงพอสำหรับทั้งการส่งเงินกลับบ้าน การสนับสนุนครอบครัว หรือการชำระค่าสินค้าในการค้าระหว่างประเทศ
บริการ Cross-Border Inward Remittance Sponsor Bank Model เหมาะอย่างยิ่งสำหรับแรงงานไทยในต่างประเทศที่ต้องการส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว ผู้ที่มีญาติพำนักอยู่ต่างแดน และผู้ประกอบการส่งออกที่ต้องการรับชำระเงินค่าสินค้าจากลูกค้าในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว โดยมีการรองรับวัตถุประสงค์ของการโอนเงินที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ เช่น การโอนเพื่อสนับสนุนครอบครัว (Family Support) การโอนจากแรงงานไทยในต่างประเทศ (Thai Worker Remittance) และการรับเงินค่าสินค้าจากการค้าระหว่างประเทศ (Trade Goods)
จุดเด่นของบริการ Cross-Border Inward Remittance Sponsor Bank Model ได้แก่
ด้วยโครงสร้างระบบที่แข็งแกร่ง มีมาตรฐานการเชื่อมต่อในระดับสากล และความโปร่งใสที่ตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน National ITMX เชื่อมั่นว่าบริการนี้จะมีบทบาทสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ และเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้ก้าวไกลอย่างมั่นคงและยั่งยืน
บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (National ITMX) ในฐานะผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย เชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับต่างประเทศ ประกาศเปิดให้บริการ Cross-Border QR Payment สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเกาหลีใต้ อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทยให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล และรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ระบบ Cross-Border QR Payment หรือที่รู้จักกันในชื่อ “QR Code for Merchant” ช่วยให้ร้านค้าสามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ผ่านแอปพลิเคชันการเงินของประเทศต้นทางได้ทันที โดยไม่ต้องมีเครื่อง EDC หรือลงทุนติดตั้งระบบเพิ่มเติม ร้านค้าขนาดเล็ก เช่น ร้านรถเข็น ร้านในตลาดนัดกลางคืน ไปจนถึงผู้ประกอบการท้องถิ่นในจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ จะสามารถเปิดรับลูกค้าชาวเกาหลีใต้ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
การเชื่อมต่อกับเกาหลีใต้นี้ นับเป็นประเทศลำดับที่ 9 ในกลุ่มผู้ใช้งาน Cross-Border QR Payment ของไทย ต่อจากมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฮ่องกง และญี่ปุ่น (ขาออก) โดยในเฟสแรกนี้ นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้สามารถใช้แอปพลิเคชันการเงินที่รองรับการสแกน QR ไทยในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ทันที ขณะที่ร้านค้าจะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีเป็นเงินบาทภายในวันถัดไป พร้อมการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ผ่านแอปธนาคารที่เชื่อมต่อกับระบบ
การเปิดให้บริการในครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ซึ่งคุ้นเคยกับการใช้แอปฯ การเงินและการชำระเงินแบบไร้เงินสด โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานและนักท่องเที่ยวอิสระที่นิยมเดินทางด้วยตนเอง และให้ความสำคัญกับความรวดเร็วและความปลอดภัยในการใช้จ่าย ซึ่งจากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พบว่านักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ ติดอันดับ 5 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุดในปี 2568 และในปี 2567 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้รวมทั้งสิ้นกว่า 1.87 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศนี้ต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยอย่างชัดเจน
การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับเกาหลีใต้นี้ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย, National ITMX และธนาคารพันธมิตรทั้งในไทยและเกาหลีใต้ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยว พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่ สังคมไร้เงินสดที่เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างแท้จริง
บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย เชื่อมโยงระบบการชำระเงินกับต่างประเทศตามที่ได้รับมอบหมายให้เป็น Interbank Transaction Management and Exchange หรือ ITMX ของประเทศไทย เตรียมจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ "Hack to the Max: Digital Infrastructure" Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต ในวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ณ NEXT TECH ชั้น 4 สยามพารากอน กรุงเทพฯ เฟ้นหาทีมนักพัฒนาและนักสร้างสรรค์ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง NITMX และพันธมิตรในวงการเทคโนโลยีการเงิน มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมที่จะยกระดับระบบการเงินดิจิทัลของประเทศให้ก้าวไกลและทัดเทียมระดับสากล
โครงการ Hack to the Max : Digital Infrastructure Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต ไม่ได้เป็นเพียงแค่การแข่งขัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง National ITMX และผู้ที่มีความสามารถ เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลไทยให้ทันสมัย ปลอดภัย และยั่งยืน ทีมที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก National ITMX และพันธมิตรตลอดโครงการ เพื่อพัฒนาแนวคิดของตนให้เป็นจริง ตลอดจนได้รับการสนับสนุนและคำแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้ทีมสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
โดยจะเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมแข่งขันตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม - 27 กันยายน 2567 โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เหล่านักพัฒนา นักสร้างสรรค์ และผู้ที่มีความสนใจในเทคโนโลยีด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัล ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 18-25 ปี สามารถสมัครได้ทั้งแบบเดี่ยวและแบบทีมไม่เกิน 3 คน โดยจะต้องนำเสนอแนวคิดและนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามแนวคิด 3 ด้านหลัก ได้แก่ Innovative Payment Solutions, Sustainable Payment Solution และ Data Solution for Banks
ทีมที่ผ่านการคัดเลือก 15 ทีมสุดท้าย จะได้เข้าร่วมการแข่งขัน Hackathon ในวันที่ 26-27 ตุลาคม 2567 โดยผู้เข้าแข่งขันจะได้รับโอกาสในการพัฒนาแนวคิดของตนให้เป็น Prototype ภายใต้การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ ทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัลพิเศษคือโอกาสในการเข้าร่วมงาน Singapore Fintech Festival ที่ประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นเวทีระดับโลกที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนจากวงการ Fintech ทั่วโลก โดย NITMX จะเป็นผู้สนับสนุนตั๋วเครื่องบินไปกลับ ที่พัก รวมถึงค่าอาหาร นอกจากนี้ ยังมีรางวัล The Best of Track สำหรับผู้ชนะในแต่ละด้านอีกด้านละ 10,000 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมโครงการของ NITMX Hackathon 2024 "Hack to the Max: Digital Infrastructure" Hack ข้ามขีดจำกัด สู่ระบบการเงินแห่งอนาคต ที่ https://bit.ly/nitmx-hackathon-2024 ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป อย่าพลาดโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินดิจิทัลของประเทศไทยและสร้างอนาคตที่สดใสไปพร้อมกับ NITMX
บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ NITMX ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงิน และการโอนเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย