×

Warning

JUser: :_load: Unable to load user with ID: 808

ไม่ใช่โพรเจกต์พันล้าน ไม่ใช่เรื่องเล่าหลากประสบการณ์ระดับท็อปจากชีวิตในออฟฟิศ แต่กลับเป็นเรื่องราวความสตรองอย่าง “การลดน้ำหนัก” ที่ทำให้ “นิ-ณัชชา วสุวิวัฒน์” หญิงสาวที่เคยหนักถึง 80 กว่ากิโลกรัม ได้กลายเป็นผู้สมัครที่ผ่านด่านการคัดคนของ “Duke University” และก็เป็นเธอคนนี้นี่เองที่กำลังจะพาร่างบางๆ เข้าไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ตัวเองใน “Duke Fuqua School of Business”

Q: เข้ามหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกขนาดนี้ได้ แสดงว่าต้องได้คะแนนสูงมากๆ ใช่ไหม
A: จริงๆ แล้วเรื่องคะแนนคนอื่นๆ ก็น่าจะได้พอๆ กันค่ะ ก็แล้วแต่ว่าโรงเรียนเขาอยากจะได้คนแบบไหน เขาจะดูหมดทุกอย่างเลยค่ะว่าคะแนนผ่านเกณฑ์ไหม, ทำงานอะไรมา, Essay ที่เขียนเป็นยังไง, บุคลิกของคุณเข้ากับบุคลิกของโรงเรียนไหม ฯลฯ คือไม่ได้ดูแค่อย่างใดอย่างหนึ่งค่ะ

Q: คิดว่าส่วนไหนที่ช่วยให้เราผ่านด่านเข้าไปได้เฉือนชนะคนอื่นได้
A: น่าจะเป็นเพราะเรื่องของเราอาจจะแปลกกว่าคนอื่นหรือเปล่า (ยิ้ม) คือตัว Essay ที่เขียน เราเล่าเรื่องส่วนตัวค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เล่าว่าเมื่อก่อนเป็นคนอ้วนมาก หนัก 80-90 กก. มาตลอด จนได้มาเรียนจุฬาฯ (BBA International Program สาขาบัญชี) เจอแต่คนสวยๆ (ยิ้ม) ก็เลยพยายามลดน้ำหนักตัวเองลงมาเรื่อยๆ เริ่มวิ่งจริงๆ จังๆ จนตอนนี้ก็เป็นนักกีฬาวิ่งมาราธอนไปแล้วค่ะ เลิกกินเนื้อสัตว์ แล้วก็กินเจไปเลย

Q: คิดว่าเรื่องเล่านั้นมันทำให้เขาเห็นอะไรในตัวเรา
A: น่าจะเป็นเรื่องความพยายามค่ะ เพราะเราเป็นคนมีความมุ่งมั่นมาก โดยเฉพาะเรื่องลดความอ้วน คือพอตัดสินใจว่าจะวิ่ง เราก็ปรับโหมดในหัวเลยค่ะ เลิกใช้วิถีชีวิตแบบเดิมๆ แล้วก็คิดว่าถ้าจะทำก็ต้องทำให้ได้ สุดท้ายก็วิ่งจนลดน้ำหนักไปได้ 20 กก. ภายในปีเดียว ทุกวันนี้ก็วิ่งมาราธอนได้ถึง 42 กม. กว่าแล้ว หลังจากใช้เวลาฝึกฝนอยู่ 2-3 ปีได้

Q: คิดไว้ตั้งแต่ตอนเรียน BBA จุฬาฯ เลยหรือเปล่าว่าจะต้องเข้า Top U ให้ได้
A: แพลนไว้หมดแล้วค่ะว่าพอเรียนจบ ทำงานสัก 3-5 ปีแล้วจะไป ครั้งนี้ก็เป็นปีแรกที่ยื่นเลย คิดว่าไหนๆ เรียนทั้งที ก็อยากเรียนที่ที่มันดีไปเลย ไม่อย่างนั้นเราจะมานั่งเครียดสอบเข้ายูฯ ไปทำไม ไหนๆ จะทำแล้วก็ทำให้มันคุ้มค่าเลยดีกว่าที่เลือกที่นี่เพราะเขาค่อนข้างดังเรื่องกีฬาด้วยค่ะ มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ North Carolina บรรยากาศค่อนข้าง Curely เพราะอยู่กลางป่า แล้วก็มีทางให้วิ่งเยอะมาก ตรงกับเราที่เป็นคนชอบวิ่งมากๆ อยู่แล้ว และจุดขายของเขาก็คือความ Outgoing ก็เลยอยากจะไปอยู่ในวัฒนธรรมตรงนั้น เพราะคิดว่าเหมาะกับบุคลิกของเราที่สุดแล้ว

Q: แสดงว่าการทำการบ้านเรื่องบุคลิกของสถาบันก็สำคัญ ต้องดูว่าคลิกกับเราหรือเปล่า
A: ใช่ค่ะ เพราะฉะนั้น ก็อยากให้น้องๆ หลายๆ คนคิดดีๆ เพราะเห็นบางคนก็เลือกสมัครตามเพื่อน อยากให้คิดว่าเรายังต้องใช้ดีกรีตรงนี้ไปทำงานอีกยาว อย่าไปตามใครเลยดีกว่า

Q: เป็นอีกคนที่ไม่ได้เลือกรับทุน อย่างนี้ถ้ามีโอกาสทำงานที่อเมริกา จะทำไหม
A: ก็อยากจะลองดูนะคะ จะได้ท้าทายตัวเองด้วย เมืองไทยยังไงก็บ้านเรา กลับมาทำเมื่อไหร่ก็ได้ นิว่ามันดีซะอีกค่ะที่ได้เรียนรู้วิธีการทำงานของที่นู่น แล้วเอากลับมาใช้ในบ้านเรา เมืองไทยจะได้มีบุคลากรในด้านนี้ขึ้นมาพัฒนาประเทศ

X

Right Click

No right click