บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมใส่ใจสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม “One Day Trip Ecorganic Journey” ตอบไลฟ์สไตล์สายรักษ์โลก โดยลูกค้าคนพิเศษที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ Mercedes-Benz EQ ที่ใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมร่วมเวิร์คชอปสไตล์ออร์แกนิกในบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ที่เน้นความหลากสีของพืชพันธุ์ดั่งสายรุ้งที่ RXV Wellness ณ ปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ โดยกิจกรรมได้สร้างความสนุกสนาน พร้อมส่งมอบความประทับใจให้กับลูกค้าคนสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมดีๆ จาก กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เพิ่มเติมได้ที่ www.Krungthai-axa.co.th หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยผู้บริหาร สานต่อการขยายผลสร้าง Social Impact ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนตำบลเกาะศรีบอยา จังหวัดกระบี่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาการศึกษาและทักษะการเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยได้มอบเรือกู้ชีพ “ออมสินชีพรักษ์ 2” และชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการกู้ชีพฉุกเฉินให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะศรีบอยา สำหรับใช้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินกรณีเจ็บป่วยรุนแรงหรือเกิดอุบัติเหตุ เพื่อส่งต่อถึงบริการทางการแพทย์บนฝั่งได้ทันท่วงที ลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

พร้อมมอบกระเป๋าและชุดปฐมพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเกาะจำและบ้านเกาะศรีบอยา มอบเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ในโครงการคอมพิวเตอร์เพื่อสังคม เพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนได้รับโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี ข้อมูล ข่าวสารอย่างเท่าเทียม อีกทั้งมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬาและอุปกรณ์เสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ให้แก่โรงเรียนบ้านเกาะจำ โรงเรียนบ้านเกาะปู และโรงเรียนบ้านติงไหร ตลอดจนแว่นสายตาให้แก่ผู้สูงอายุ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะศรีบอยา จังหวัดกระบี่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันสุขภาพเด็กและผู้ใหญ่ กรุงศรี 3 โรคฮิต พลัส ที่คุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ และการเจ็บป่วย ครอบคลุม 3 โรคฮิต อาหารเป็นพิษ ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ และชำระค่าเบี้ยประกันผ่าน KMA krungsri app ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 – 30 กันยายน 2567 จะมีสิทธิได้รับบัตรของขวัญโลตัส มูลค่า 100 บาท ต่อ 1 กรมธรรม์

สำหรับประกันกรุงศรี 3 โรคฮิตพลัส เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 100 บาทต่อเดือน คุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท นอกจากนี้ยังดูแลค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ชดเชยรายได้วันละ 500 บาทเมื่อเข้ารักษาในฐานะผู้ป่วยใน สามารถทำได้ทุกวัยตั้งแต่ 1 เดือน - 70 ปี และต่ออายุได้ถึง 79 ปี

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.krungsri.com/th/promotions/personal/insurance-pa3-plus                 

*ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้จากสื่อต่าง ๆ ของธนาคาร

ภายใต้โครงการ “บีเจซี บิ๊กซี ปันน้ำใจ ได้บุญ” ส่งต่อบ้านบางแค

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  โดย นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส สายสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า มอบน้ำดื่มจำนวน 3,000 ขวด แก่สำนักงานเขตบางซื่อ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสาในกิจกรรม “จิตอาสา รักษาสภาพคู คลอง” ภายในพื้นที่สำนักงานเขตบางซื่อ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำให้กับกรุงเทพมหานคร  โดยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐ และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ในการทำความสะอาด กำจัดวัชพืชและขยะสิ่งปฏิกูลกีดขวางทางน้ำในคลอง ตัดแต่งกิ่งไม้ ปรับแต่งภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาชุมชุนและพื้นที่ใกล้เคียง โดยมี นายเจษฎา ประภาสะวัต ผู้อำนวยการเขตบางซื่ิอ เป็นผู้แทนรับมอบ ณ ที่ทำการสำนักงานเขตบางซื่อ เมื่อเร็วๆนี้   

“ไวด์ เฟธ ฟู้ด” ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย “ไรซ์ บัดดี้ (Rise Buddy)” ขนมข้าวแผ่นอบกรอบจากข้าวไทยที่โด่งดังในตลาดโลก รุกตลาดสแน็คไทยมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์ (Rise Buddy Rice Chippies)” ดึง “นนกุล - ชานน สันตินธรกุล” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์คนแรก ตัวแทนคนยุคใหม่ที่ช่างเลือกและใส่ใจสุขภาพ พร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา “Rice Chippies-Verse” เพื่อสร้างการรับรู้และถ่ายทอดแบรนด์ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์” ขนมข้าวแผ่นอบกรอบเทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพ และเป็นเทรนด์ขนมแห่งอนาคตที่อร่อยไปทุกจักรวาล ยกระดับความกรอบ…อร่อย ชูนวัตกรรมขนมข้าวแผ่นอบกรอบในรูปแบบ Chippies เจ้าแรก  ผลิตจากข้าวไทย อบไม่ทอด ไม่มีไขมันทรานส์ แคลอรี่ต่ำ ไม่มีกลูเตน ไม่ใส่ผงชูรส ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล พร้อมแนะนำ 4 รสชาติใหม่ ได้แก่ บีบีคิว (BBQ) ซาวร์ครีมแอนด์ออเนี่ยน (Sour Cream & Onion) ซีซอลท์ (Sea Salt)  และชีส (Cheese) ปูพรมช่องทางขายครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์มาร์เก็ตเพลส Shopee Lazada TikTok และรถ Yummy Truck ที่เสิร์ฟความอร่อยไปทั่วประเทศ พร้อมขยายช่องทางขายในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำต่างๆ โดยตั้งเป้ายอด 250
ล้านบาทในปี 2569

นายโอลิเวอร์ เย้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวด์ เฟธ ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ไรซ์ บัดดี้ (Rise Buddy) ขนมข้าวแผ่นอบกรอบจากข้าวไทย เผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำในการผลิตและพัฒนาขนมขบเคี้ยวจากข้าวไทยในตลาดโลกมากว่า 22 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญในออกแบบ การวิจัย และพัฒนาขนมข้าวแผ่นอบกรอบอย่างมืออาชีพ รวมถึงการนำเทคโนโลยีขั้นสูงที่ได้มาตรฐานในระดับสากลมาใช้ในกระบวนการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวจากข้าว ของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีหลากหลายแบรนด์ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์แม่ Master Rice ไม่ว่าจะเป็น Rise Buddy, Ravin, Bio-Earth และ Kiddie Kare โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ได้รับพัฒนาให้มีความอร่อยที่มาพร้อมกับสุขภาพที่ดี  ใช้กรรมวิธีการอบ ไม่ทอด  ไร้ไขมันทรานส์ ไม่มีกลูเตน ไม่ใส่ผงชูรส ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล  เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และตอบโจทย์กระแสด้านสุขภาพ โดยผลิตภัณฑ์แต่ละแบรนด์ของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด มีวางจำหน่ายครอบคลุมทั่วโลก รวมถึงทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ยุโรปตะวันออกและยุโรปเหนือ ฝรั่งเศส และเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังรับผลิตขนมแผ่นอบกรอบจากข้าวในรูปแบบ ODM หรือ Original Design Manufacture ออกแบบและผลิตสินค้าให้กับบริษัทต่างๆ ซึ่งมีให้เลือกมากกว่า 70 รสชาติ โดยมีกำลังการผลิตและส่งออกสู่ตลาดโลก รวม 18,900  ตัน / ปี  จากฐานการผลิตในประเทศไทยทั้งหมดทั้ง 2 แห่ง พื้นที่กว่า 47 ไร่  โดยโรงงานของ ไวด์ เฟธ ฟู้ด ได้รับการรับรองเกรด AA จาก BRCGS และ ISO9001:2015 รวมถึงได้รับการรับรองจาก Gluten Free และ Halal

นายโอลิเวอร์ กล่าวเสริมว่า สำหรับในประเทศไทย มูลค่าตลาดขนมขบเคี้ยวมีมูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหากวิเคราะห์ถึงเซกเม้นต์ตลาดขนมที่ทำจากข้าวมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2,000 ล้านบาท บริษัทฯจึงมุ่งเน้นทำการตลาดแบรนด์ ไรซ์ บัดดี้ (Rise Buddy) ในประเทศไทยเป็นหลัก ในตลาดการส่งออกการตลาด Rice Snack มีส่วนแบ่งการตลาด 15,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือ 36% ในออสเตรเลีย และ ในนิวซีแลนด์ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 5,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือ 45% โดยมีมูลค่า Rice Snack ส่งออกในตลาดลาดโลกมีมูลค่าถึง 30,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ (USD)

และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนรุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มที่ ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การเลือกใช้พรีเซนเตอร์และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดขนมอบกรอบที่ทำจากข้าว และเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ช่างเลือกและมองหาขนมที่ทานแล้วดีต่อสุขภาพ ทานแล้วไม่รู้สึกผิดและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์ (Rise Buddy Rice Chippies)” ชูนวัตกรรมขนมข้าวแผ่นอบกรอบในรูปแบบ Chippies ที่ผลิตจากข้าวไทยเจ้าแรกในตลาด ด้วยนวัตกรรมกรรมการขึ้นรูปขนมที่ผลิตจากข้าวในรูปแบบแผ่นคล้ายมันฝรั่ง ซึ่งเป็นแบรนด์แรกในเซกเม้นต์ตลาดขนมที่ทำจากข้าว ผ่านกรรมวิธีการผลิตด้วยการอบแทนการทอด ไม่มีไขมันทรานส์ เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า ตอบโจทย์คนทั่วไปที่รักการบริโภคขนมที่ต้องการความอร่อยที่มาพร้อมกับสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน อีกทั้งยังไม่ใส่ผงชูรส ไม่มีกลูเตน ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล  พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนแรก “นนกุล - ชานน สันตินธรกุล” ตัวแทนคนยุคใหม่ที่ช่างเลือกและใส่ใจสุขภาพและเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาภายใต้คอนเซ็ปต์ “Rice Chippies-Verse” เพื่อสร้างการรับรู้และถ่ายทอดแบรนด์ “ไรซ์ บัดดี้ ไรซ์ ซิปปี้ส์” ขนมข้าวอบกรอบเทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพ และจะเป็นเทรนด์ขนมแห่งอนาคตที่อร่อยไปทุกจักรวาล ยกระดับความกรอบ...อร่อย กับ 4 รสชาติใหม่ ได้แก่ บีบีคิว (BBQ) ซาวร์ครีมแอนด์ออเนี่ยน (Sour Cream & Onion) ซีซอลท์ (Sea Salt)  และชีส (Cheese) โดยวางจำหน่ายในขนาด 60 กรัม ราคา 39 บาท

ส่วนช่องทางจัดจำหน่าย บริษัทฯ มุ่งเน้นการกระจายสินค้าอย่างเต็มรูปแบบ เน้นปูพรมช่องขายทั้งในออนไลน์ และออฟไลน์ โดยช่องทางออนไลน์เน้นขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มาร์เก็ตเพลสอย่าง Shopee Lazada และช่องทางอีคอมเมิร์ซ TikTok โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเวลาไปซื้อสินค้านอกบ้าน และในส่วนออฟไลน์เน้นกระจายสินค้าในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ โดย ไวด์ เฟธ ฟู้ด วางเป้าหมายว่าจะเข้าไปเป็นหนึ่งในคู่แข่งตลาดสแน็คไทยที่มีมูลค่ากว่า 40,000 ล้าน โดยบริษัทฯ หวังแชร์ส่วนแบ่งยอดในตลาดขนมที่ทำจากข้าว 250 ล้านบาท ในปี 2569 และก้าวไปสู่ความเป็นแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของอุตสาหกรรมขนมขบเคี้ยวที่ตอบโจทย์เทรนด์ด้านสุขภาพทั่วโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Better for You” นายโอลิเวอร์ เย้ กล่าวทิ้งท้าย

ร้านอาหารคำหอมต้อนรับเดือนกันยายน กับประสบการณ์มื้ออาหารที่รังสรรค์เมนูพิเศษไปอีกขั้น เมื่อเชฟเอียน กิตติชัย จากร้านคำหอม และ เชฟป้อม ธนรักษ์ สุดยอดเชฟกระทะเหล็กอาหารจีนร่วมกันผสานเมนูไทยและจีนในค่ำคืนพิเศษ “Four Hands Dinner by Chef Pom Thanarak & Chef Ian Kittichai” 6-7 กันยายน 2567 นี้

โดยในสองคืนสุดพิเศษนี้ ท่านจะได้ลิ้มลองมื้ออาหารที่ทุกจานได้ถูกรังสรรค์ จากสองเชฟอย่างลงตัว ทั้งอาหารไทยและอาหารจีนต้นตำรับ ที่นำเสนอผ่านวัตถุดิบระดับพรีเมียม พิถีพิถันทุกขั้นตอนการปรุงในสูตรดั้งเดิมด้วยวิธีการและเทคนิคสมัยใหม่ ที่จะทำให้อาหารทุกจานมีรสชาติเป็นเลิศและสวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้น และยังเป็นที่น่าจดจำควรค่าแก่การใช้เวลารื่นรมย์พร้อมกันในครอบครัว หมู่คณะ หรือเลี้ยงรับรองแขกพิเศษเพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ พลาดไม่ได้ 6-7 กันยายน 2567 นี้ ณ ร้านอาหารคำหอม ชั้นล๊อบบี้ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ

Four Hands Dinner โดย เชฟป้อม ธนรักษ์ และ เชฟเอียน กิตติชัย ให้บริการในวันศุกร์ที่ 6 และวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 ตั้งแต่เวลา 18.45 น. ร่วมเปิดประสบการณ์มื้ออาหารสุดประทับใจมิรู้ลืม โดยเมนู 6 คอร์ส ราคา 4,500++ บาท ต่อท่าน หรือ เมนู 6 คอร์ส พร้อมไวน์แพริ่ง 5,700++ บาท ต่อท่าน

สมาชิก Accor Plus รับส่วนลดค่าอาหาร 20% และเครื่องดื่ม 15% ในโอกาสพิเศษนี้ สำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ www.khumhomrestaurant.com หรือ โทร 02 666 3311

ชูแนวคิด Perform Better, Think Faster and Live Better ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล

เปิดตัวแคมเปญ Dare to Change ส่งต่อแรงบันดาลใจ จัดแบดมินตันบูทแคมป์ให้แก่กลุ่มเยาวชน

FWD ประกันชีวิต ยกระดับบริการพิเศษ FWD Utmost เพื่อมอบประสบการณ์ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้ากลุ่มเวลธ์ผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ตอบโจทย์ทั้งความมั่งคั่งทางการเงิน และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เหนือระดับให้มากขึ้นกว่าเดิม

ความเป็นที่สุดในทุกมิติของการใช้ชีวิต

FWD Utmost ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่ม Wealth ที่ถือประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ซึ่งชำระเบี้ยประกันภัยรวมต่อปี ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยมอบบริการพิเศษตามระดับสมาชิก Ruby และ Diamond โดยในปี 2567 นี้ สมาชิก FWD Utmost จะได้รับการดูแลและบริการที่เหนือระดับกว่าเดิม ด้วยบริการหลักที่ครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ Caring your health การดูแลสุขภาพองค์รวม Beyond your experience ประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบ Enrich your lifestyle ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และ Private personal assistant บริการผู้ช่วยส่วนตัว

Caring Your Health: การดูแลสุขภาพองค์รวมตามความต้องการเฉพาะบุคคล

FWD Utmost ให้ความสำคัญกับสุขภาพของคุณเป็นอันดับแรก ลูกค้าสามารถเข้ารับบริการสุขภาพองค์รวมเหนือระดับ ด้วยโปรแกรมการดูแลสุขภาพที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจากโรงพยาบาลและสถานบริการสุขภาพชั้นนำ ครอบคลุมการตรวจสุขภาพประจำปี ไปจนถึงบริการตรวจคัดกรองโรคเฉพาะทาง เช่น การตรวจหาความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง และการตรวจยีนเพื่อประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ หลอดเลือด และมะเร็ง เป็นต้น รวมถึงการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง การบำบัดออฟฟิศซินโดรม การนวดบำบัด และบริการป้องกันการเจ็บป่วยเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน เช่น วิตามินบำบัด (IV Drip) และการล้างพิษหลอดเลือด เป็นต้น พิเศษสุดในปีนี้ FWD Utmost ยังเพิ่มบริการใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลให้มากยิ่งขึ้น อาทิ การบำบัดด้วยความเย็น การฝังเข็ม การครอบแก้ว การนวดบำบัดที่บ้าน การปรึกษาสุขภาพจิตกับจิตแพทย์ การตรวจวิเคราะห์สารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ กายภาพบำบัด การดีท็อกซ์ลำไส้ และการตรวจสุขภาพช่องปาก เป็นต้น

Beyond Your Experience: ประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ

สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยบริการรถลีมูซีน รับ-ส่ง สนามบินทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ FWD Utmost ยังได้เพิ่มบริการช่องทางพิเศษ (Fast Track) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อช่วยให้ลูกค้าผ่านกระบวนการต่างๆ ในสนามบินได้อย่างรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการรอคิวที่ยาวนานในช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึง ห้องพักรับรองพิเศษ (Airport Lounge) ณ สนามบินชั้นนำทั่วโลก ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด

Enrich Your Lifestyle: การใช้ชีวิตสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเติมเต็มความสุขตามไลฟ์สไตล์

เพลิดเพลินกับหลากหลายสิทธิพิเศษเหนือระดับ อาทิ  ห้องรับรองพิเศษระหว่างรอเข้ารับบริการในโรงพยาบาล ส่วนลดพิเศษในเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ สิทธิพิเศษที่ร้านอาหารระดับ Michelin Star นอกจากนี้ ในปี 2567 FWD Utmost ได้มอบสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น เช่น ส่วนลดสูงสุด 60% ที่ Longevity hub by Clinique La Prairie ส่วนลดพิเศษการเข้าพักค้างคืนสำหรับโปรแกรมสุขภาพ ที่ RXV Wellness Village พร้อมสิทธิพิเศษเมื่อเข้าพักในโรงแรมและรีสอร์ทหรูชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น JW Marriott ที่ให้บริการด้วยมาตรฐานที่ยอดเยี่ยม The Ritz-Carlton ที่เต็มไปด้วยความหรูหราและคลาสสิก BVLGARI ที่รวมเอาศิลปะและการบริการชั้นเยี่ยม The Edition ที่มีความทันสมัยและมีสไตล์ St. Regis ที่นำเสนอประสบการณ์การพักผ่อนอย่างหรูหรา หรือ W Hotel ที่มีความสนุกสนานและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

Private Personal Assistant: ผู้ช่วยส่วนตัวมืออาชีพ

บริการผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมให้คำแนะนำและตอบสนองทุกความต้องการทางด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร คุณจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ

นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทยและกัมพูชา บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต กล่าวว่า เรามั่นใจในบริการพิเศษ FWD Utmost จะส่งมอบประสบการณ์และความคุ้มค่าที่มากกว่าประกันชีวิตและความคุ้มครองตามกรมธรรม์ นอกจากจะช่วยสร้างความมั่งคั่ง และเสริมความมั่นคงทางการเงินแล้ว ยังสนับสนุนให้ลูกค้าได้ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งกายและใจ พร้อมยกระดับประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ โดยมุ่งเน้นเอกสิทธิ์การดูแลสุขภาพ และการใช้ชีวิตเหนือระดับ เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนสามารถออกไป Celebrate living ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวล”

ตอบสนองทุกก้าวแห่งความมั่งคั่ง เลือก FWD Utmost เพื่อมั่นใจว่าคุณจะได้สัมผัสนิยามความเหนือระดับ กับช่วงเวลาสุดพิเศษตลอดการเดินทางไปกับเอฟดับบลิวดี ในทุกองศาของการใช้ชีวิตตามแบบฉบับคุณ ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) สามารถติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงบริการ FWD Utmost ผ่านช่องทาง FWD Contact Center 1351 หรือผ่านทางเว็บไซต์ https://www.fwd.co.th