มร. ลิม บุน กวี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มดุสิตธานี เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีมีความยินดีมากที่ได้มีโอกาสขยายธุรกิจโรงแรมในตลาดที่แข็งแกร่งมากอย่างจีน ด้วยทำเลที่ตั้งที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และยังนำเสนอประสบการณ์การแช่น้ำพุร้อนที่น่าประทับใจ ทำให้เชื่อมั่นว่า โรงแรมดุสิตปริ้นเซส ฮ็อตสปริงส์ รีสอร์ท เฟ็งชุน กวางตุ้ง จะสามารถตอบสนองความต้องการของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวในเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี

โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมที่เคยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ก่อนจะรีแบรนด์และจะเปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้ชื่อ “โรงแรมดุสิตปริ้นเซส ฮ็อตสปริงส์ รีสอร์ท เฟ็งชุน กวางตุ้ง” โดยตั้งอยู่ในเขตพัฒนาใหม่ของเมืองเม่ยชู ในเขตเฟ็งชุน มณฑลกวางตุ้งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับลูกค้าทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจ โดยสามารถเดินทางจากสนามบินนานาชาติเจียหยาง เฉาซาน มาถึงได้ในเวลา 40  นาทีทางรถยนต์ และโรงแรมยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในแถบนี้ อาทิ น้ำตกลองกุย วัดจีกง สิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรมของชาวฮากกา รวมถึงจุดชมวิวเจียเหลียง เฟยควาน ตัวโรงแรมประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทรวม 190 ห้อง ร้านอาหารแบบออลเดย์ไดนิ่ง ห้องบอลรูมและจุดบริการน้ำพุร้อนที่มีสปาแบบครบวงจร

“เรามั่นใจในศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของจีน ทำให้กลุ่มดุสิตธานีได้ขยายธุรกิจในจีน โดยโรงแรมดังกล่าวนับเป็นแห่งที่ 11 และภายในปีนี้เรามีแผนที่จะเปิดโรงแรมเพิ่มในจีนอีก 3 แห่งอีกด้วย” มร.ลิม กล่าว

ด้าน มร. วู เชา ชู ตัวแทนด้านกฎหมายของ บริษัท เฟ็งชุน จินเดอเบา อินเตอร์เนชั่นแนล ฮ็อตสปริงส์ โฮเทล กล่าวว่า ด้วยการนำแบรนด์ไทยที่เลื่องชื่อด้านการบริการอย่างไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มดุสิตธานีมาสู่เมืองเฟ็งชุน จะช่วยให้การรีแบรนด์ของเรามีมาตรฐานใหม่ด้านการบริการที่มีคุณภาพ และเรามั่นใจว่าโรงแรมนี้จะกลายเป็นโรงแรมชั้นนำของตลาดนี้ และจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีประกอบด้วยโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู รวม 340 แห่ง ภายใต้ 6 แบรนด์ ใน 15 ประเทศ โดยในประเทศจีนกลุ่มดุสิตธานีบริหารโรงแรมรวม 10 แห่ง และยังมีโรงแรมภายใต้แผนพัฒนามากกว่า 20 แห่ง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถเปิดให้บริการโรงแรมที่จีนเพิ่มอีก 3 แห่งภายในปีนี้