ผสานพลังหน่วยงานในกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ภายใต้กลยุทธ์ ‘Krungsri One Retail’ เพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อความเข้าใจลูกค้าแบบรอบด้าน, สร้างความผูกพันในฐานะพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจด้านการเงินและการลงทุน, พร้อมสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินและบริการที่ตรงใจลูกค้า, ผสานช่องทางการจำหน่าย ยกระดับประสบการณ์การบริการที่ครอบคลุมทุกมิติการเงินแบบไร้รอยต่อ โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้ารายย่อยแตะ 15 ล้านราย ผู้ใช้บริการช่องทางดิจิทัลแตะ 12 ล้านราย ภายในปี 2567 พร้อมพัฒนาธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยเชื่อมโยงสู่อาเซียน ก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินหลักสำหรับลูกค้าบุคคล
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรี นับเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดการเงินเพื่อลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล ซึ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งเงินฝาก, สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต, สินเชื่อยานยนต์, ผลิตภัณฑ์ประกันภัย รวมถึงผลิตภัณฑ์การลงทุน โดยมีลูกค้าในความดูแลกว่า 12 ล้านราย ปัจจุบัน ภายใต้ภาวะการดำเนินธุรกิจและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีความสนใจในการสร้างความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น ขณะเดียวกันก็คุ้นชินกับการใช้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลที่รวดเร็ว ตอบโจทย์ กรุงศรีจึงได้ปรับทิศทางการดำเนินงาน ภายใต้กลยุทธ์ “Krungsri One Retail” ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักตามแผนธุรกิจระยะกลาง มุ่งเน้นการผสานความร่วมมือของทุกหน่วยงานในกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า ผ่าน 4 แนวทางหลัก เพื่อมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ง่าย ครบ จบทุกเรื่องการเงิน และสร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาว”
กลยุทธ์ Krungsri One Retail มุ่งเน้นผสานจุดแข็งจากทุกธุรกิจในเครือ ผ่าน 4 แนวทางหลัก ได้แก่
1. เพิ่มศักยภาพการวิเคราะห์ข้อมูล (Customer Data Analytic) เพื่อความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ด้วยข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่จำนวนมากทั้งปริมาณและคุณภาพ ประกอบกับ ทักษะและความเชี่ยวชาญของทีมงานและความพร้อมของระบบ IT ที่มีอยู่ ทางกรุงศรีจะสร้าง One Retail Integrated Data Platform เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในทุกแง่มุม เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตรงความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ผ่านช่องทางและในเวลาที่เหมาะสม
2. เป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้ใจด้านการเงินและลงทุน (Financial Literacy and Advisory) จากสถานการณ์โควิด-19 และภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้คนไทยส่วนมากตระหนักถึงความจำเป็นของการวางแผนทางการเงิน และวินัยในการออม กรุงศรีจึงต้องการมีส่วนร่วมในการให้ความรู้กับคนไทยในเรื่องดังกล่าว เพื่อเป็นพันธมิตรหรือที่ปรึกษาทางการเงินที่ลูกค้าไว้ใจ จึงริเริ่มโครงการ Krungsri THE COACH แหล่งรวมความรู้ทางการเงินครบทุกมิติ โดยมุ่งเน้นไปยังลูกค้า 2 กลุ่ม คือ
1) กลุ่มลูกค้าทั่วไป (Mass Segment) ผ่านเนื้อหาที่ให้ความรู้ทางการเงินที่นำเสนอผ่านช่องทางออนไลน์
2) กลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์สูง (High Net Worth) ในรูปแบบของการให้มุมมองการลงทุนผ่าน One Krungsri Investment View ที่ผสานความร่วมมือระหว่างธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด, และบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) และพันธมิตร BlackRock ร่วมวิเคราะห์สถานการณ์และให้มุมมองด้านการลงทุนอย่างรอบด้านเพื่อให้คำแนะนำแก่ลูกค้า
3. สร้างนวัตกรรมทางการเงินและบริการที่ตรงใจลูกค้า ด้วยความพร้อมด้าน Customer Data Analytic, ไอทีและดิจิทัลแพลตฟอร์ม, ทักษะและความเชี่ยวชาญของทีมงาน ตลอดจนเงินลงทุน ฯลฯ ทำให้กรุงศรีมีความพร้อมในการสร้างนวัตกรรมทางการเงินและบริการที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Krungsri Finnoventure Private Equity Fund กองทุนรวมนวัตกรรมใหม่ที่เน้นลงทุนในสตาร์ทอัพในไทย, Kept Together ฟีเจอร์ใหม่ในการออมเงิน, บัตร Krungsri NOW และบัตร XU บัตรเครดิตดิจิทัล, สินเชื่อบ้านซุปเปอร์ เซฟวิ่ง ที่นำเงินฝากมาใช้ลดภาระดอกเบี้ยบ้านได้, GO by Krungsri Auto แอปสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการสินเชื่อยานยนต์, ความร่วมมือกับพันธมิตรเช่น Grab เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น สินเชื่อสำหรับ Rider
4. ผสานช่องทางการให้บริการเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้สะดวก ไร้รอยต่อ พร้อมประสบการณ์ที่ดีขึ้น กรุงศรีให้ความสำคัญในทุกช่องทางในการให้บริการลูกค้า เริ่มตั้งแต่ช่องทางดิจิทัลแพลตฟอร์มผ่านโมบายแอปพลิเคชันที่มีอยู่ ทั้ง KMA, UCHOOSE , GO และ Kept โดยจะเชื่อมต่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานได้เสมือนเป็นแอปเดียวกัน เช่น การเปิดบัญชีธนาคารผ่าน UCHOOSE หรือ GO Application
สำหรับช่องทางสาขา ทางกรุงศรีได้มีการสร้าง One Retail Branch ซึ่งเป็นสาขารูปแบบใหม่ โดยผสานความร่วมมือระหว่างธนาคาร, กรุงศรี คอนซูมเมอร์ และกรุงศรี ออโต้ ให้มีบริการอยู่ในสาขาเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเข้าถึงบริการ ผ่านแพลตฟอร์มของพันธมิตร และ Banking Agent กว่า 200,000 จุด
“ทั้งหมดนี้ เพื่อให้กลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคลของกรุงศรี สามารถขยายฐานลูกค้าที่มีคุณภาพ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ง่าย สะดวก ตรงใจ ตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินในทุกช่วงชีวิต โดยคาดว่าในปีนี้ สินเชื่อเพื่อลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล จะเติบโตราว 3-4% และตั้งเป้าภายในปี 2567 จะขยายฐานลูกค้ารายย่อยเป็น 15 ล้านราย และจะเพิ่มขีดความสามารถด้านการให้บริการและเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการช่องทางดิจิทัลเป็น 12 ล้านราย พร้อมใช้ความเชี่ยวชาญในตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อยานยนต์ พัฒนาธุรกิจการเงินเพื่อรายย่อยเชื่อมโยงสู่อาเซียน เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ให้กรุงศรีก้าวสู่ การเป็นสถาบันการเงินหลักที่ลูกค้าใช้บริการสำหรับลูกค้ารายย่อย” นายพงษ์อนันต์ กล่าวสรุป