พร้อมเพย์ บริการโอนเงินแบบเรียลไทม์ของประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการเพิ่มขีดความสามารถของระบบ ด้วยการย้ายภาระงานสำคัญ ซึ่งรวมถึงการประมวลผลธุรกรรม จากฮาร์ดแวร์ฐานข้อมูลเดิมไปยังแพลตฟอร์ม Oracle Exadata ส่งผลให้พร้อมเพย์สามารถรองรับธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ได้เพิ่มขึ้นถึง 143 เปอร์เซ็นต์ และใช้หน่วยประมวลผลกลางเสมือน (vCPU) น้อยลง 45 เปอร์เซ็นต์
พร้อมเพย์ เปิดตัวในปี 2559 เป็นบริการโอนเงินแบบเรียลไทม์ที่ดำเนินการโดย National Interbank Transaction Management and Exchange (National ITMX) ผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินระหว่างธนาคารของประเทศไทย มีธนาคารสมาชิกทั้งหมด 26 แห่ง โดยพร้อมเพย์สามารถให้ผู้ใช้งานโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือได้เพียงใช้หมายเลขโทรศัพท์หรือเลขประจำตัวประชาชนของผู้รับเท่านั้น นับตั้งแต่เปิดให้บริการ พร้อมเพย์มีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น 11 เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงต้องการโครงสร้างพื้นฐานไอทีใหม่ที่สามารถรองรับการขยายระบบ มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัยสำหรับภาระงานที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการประมวลผลธุรกรรม โดย Oracle Exadata ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด
"ประเทศไทยมีธุรกรรมการชำระเงินแบบเรียลไทม์ต่อหัวมากที่สุดในโลก[1]” คุณวรรณา นพอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด กล่าว “ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์หลักของประเทศ เราจึงมองหาโครงสร้างพื้นฐานไอทีระดับโลกที่สามารถรองรับการทำธุรกรรมจำนวนมหาศาลได้ ตั้งแต่ที่พร้อมเพย์ได้มาใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Oracle ในไตรมาสแรกของปี 2566 แพลตฟอร์ม Oracle Exadata เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและทำงานได้เกินความคาดหมายของเรา เราสามารถยกระดับการดำเนินการสำคัญของระบบ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความพร้อมใช้งาน ความปลอดภัย และความคุ้มทุน พร้อมยังทำให้ธุรกรรมต่อวินาทีเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ในขณะที่ลดการใช้ทรัพยากรลง 45 เปอร์เซ็นต์ โดยเราตั้งเป้าเดินหน้าใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ Oracle Exadata เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของประเทศไทยในการสร้างสังคมไร้เงินสด”
Oracle Exadata เป็นโซลูชันครบวงจรสำหรับการนำไปใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรที่ทำงานร่วมกับ Oracle Database เพื่อรันเวิร์กโหลดฐานข้อมูลทุกประเภทและทุกขนาดได้อย่างรวดเร็วและมีความเสถียรสูง ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มจากข้อมูลด้วยการประมวลผลธุรกรรมและการวิเคราะห์ที่รวดเร็วขึ้น ทั้งยังมีแมชชีนเลิร์นนิ่ง (Machine Learning) ในฐานข้อมูล ที่ช่วยปรับปรุงข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจสำหรับพร้อมเพย์ โดยการใช้งาน Oracle Exadata จะขจัดความซับซ้อนในดาต้าเซ็นเตอร์ของพร้อมเพย์ด้วยการรวมฐานข้อมูลของ Oracle ซึ่งจะช่วยลดภาระงานฐานข้อมูลและลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของ (TCO)
นอกจากนี้ Oracle Exadata ยังใช้สถาปัตยกรรมที่สามารถขยายระบบได้สำหรับทั้งฐานข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูล เมื่อปริมาณงานในเครือข่ายพร้อมเพย์เพิ่มขึ้น ก็จะสามารถเพิ่มฐานข้อมูล พื้นที่เก็บข้อมูล และทรัพยากรเครือข่ายลงใน Oracle Exadata ด้วยการตั้งค่าเพื่อขยายระบบตั้งแต่ปริมาณน้อยไปถึงปริมาณมาก ให้รองรับเวิร์กโหลดทุกขนาดโดยไม่มีปัญหาคอขวด สถาปัตยกรรมอันทรงพลังนี้สามารถรองรับระบบพร้อมเพย์รุ่นถัดไปที่จะเปี่ยมด้วยศักยภาพในอนาคต ซึ่ง National ITMX และพันธมิตรกำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบัน และตั้งเป้าที่จะทดแทนโซลูชันที่ใช้อยู่ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
“Oracle Exadata พร้อมสำหรับการเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลรุ่นต่อไปสำหรับอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน แพลตฟอร์มสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านธุรกรรมของผู้ใช้การชำระเงินดิจิทัลหลายล้านรายในประเทศไทย” นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล ประเทศไทย กล่าว “สำหรับการร่วมมือกับ พร้อมเพย์ในครั้งนี้ เราประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนระบบการชำระเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การชำระเงินที่รวดเร็ว เสถียร และปลอดภัยยิ่งขึ้น เราพร้อมที่จะสนับสนุนนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระบบการชำระเงินของพร้อมเพย์”
[1] https://www.pymnts.com/tracker/real-time-payments-world-map-international-instant-payments/