September 16, 2024

"บิ๊กซี" พลิกโฉมธุรกิจเดินหน้ารีโนเวทสาขารูปแบบใหม่ จำนวน 18 สาขาทั่วประเทศ จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2567 นี้ พร้อมขยายเปิดสาขาเพิ่ม 3 สาขาในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต ภายในปี 2568 และมีการขยายเปิดสาขาบิ๊กซีมินิอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ปี 2567 บิ๊กซี ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท เดินหน้ารีโนเวทจำนวน 18 สาขา โดยจะมีการปรับโฉมใหม่ ด้วยงบประมาณ 1,700 ล้านบาท และเปิดเพิ่ม 1 สาขา ภายในปี 2567 นอกจากนี้เราวางแผนขยายเพิ่ม 3 สาขาภายในสิ้นปี 2568 และจะขยายสาขาบิ๊กซีมินิอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ที่ไม่ใช่แค่มาเดินซื้อของอย่างเดียวแต่ยังต้องการพื้นที่แฮงเอาต์และพักผ่อน รวมถึงเพื่อเป็นพื้นที่ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับลูกค้าบิ๊กซีเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน บิ๊กซีมีสาขาทั้งสิ้นกว่า 1,800 สาขา ในไทยและยังขยายไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฮ่องกง กัมพูชา ลาว และเวียดนาม”

ในขณะเดียวกัน ในปีนี้ มีบิ๊กซีจำนวน 2 สาขา หมดอายุสัญญาเช่าพื้นที่ ซึ่งบิ๊กซีตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเช่า ได้แก่ บิ๊กซี สาขาสุขาภิบาล 3-2 (แยกบ้านม้า) โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 15 ก.ย. นี้ และบิ๊กซี สาขารังสิต 2 (ใกล้กับตลาดสี่มุมเมือง) โดยจะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 30 ก.ย. นี้ เช่นกัน ทั้งนี้บิ๊กซีได้มีนโยบายดูแลพนักงาน  ทุกคน รวมถึงสามารถโอนย้ายไปทำงานได้ที่บิ๊กซีสาขาใกล้เคียง หรือที่ภูมิลำเนาของพนักงานตามสมัครใจ และสำหรับร้านค้าเช่า ได้มีการเจรจาตกลงร่วมกันกับทางผู้เช่า โดยทางบิ๊กซีได้ดูแลและจัดหาพื้นที่เพื่อไปเปิดในสาขาอื่นๆ ของบิ๊กซีทั่วประเทศ

นอกจากนี้ บิ๊กซี สาขาราษฎร์บูรณะ จะเปิดให้บริการวันสุดท้าย 31 ต.ค. นี้ ซึ่งจะย้ายไปยังทำเลใหม่ที่ใกล้เคียง เป็นทำเลทองติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นที่ดิน Freehold ในกลุ่ม บีเจซี บิ๊กซี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการภายในปี 2568

“บิ๊กซี เราเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เราใช้ Big Data เข้ามาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและตรงกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในปัจจุบัน” นายอัศวิน กล่าวสรุป

ภายใต้คอนเซปต์ ช้อปจุใจ ได้ทุกวัน กับบัตรบิ๊กซี พร้อมสิทธิประโยชน์ครบตอบทุกไลฟ์สไตล์

บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “BJC” ผู้ดำเนินธุรกิจพาณิชยกรรมนำเข้า-ส่งออก ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและบริการครบวงจร ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ด้วยมูลค่าเสนอขายหุ้นกู้รวม 13,000 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 3 ปี ถึงอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.93% ถึง 3.77% ต่อปี และมีอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “A” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 บริษัทได้ออกหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2567 ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5 รุ่น ต่อผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ได้แก่ หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.93% ต่อปี จำนวน 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.15% ต่อปี จำนวน 6,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.33% ต่อปี จำนวน 2,000 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี จำนวน 1,000 ล้านบาท และ หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.77% ต่อปี จำนวน 1,000 ล้านบาท ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ซึ่งการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างล้นหลาม ด้วยยอดจองซื้อเกินเป้าหมายกว่า 4 เท่า จากมูลค่าเสนอขายเดิมที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7,000 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทพิจารณาเพิ่มมูลค่าการออกหุ้นกู้ ซึ่งเป็นหุ้นกู้ส่วนที่สำรองไว้มาเสนอขายเพิ่มเติม (Greenshoe Option) อีกจำนวน 6,000 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 13,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการในการลงทุนของนักลงทุนที่ให้ความไว้วางใจในการเข้าลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีให้กับบริษัท ซึ่งมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ตลอดจนมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์

“ในนามของ BJC ต้องขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 140 ปี โดยการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีและผู้ลงทุนให้การตอบรับที่ดีเกินกว่าที่คาดไว้ โดย BJC จะยังคงเดินหน้าเพื่อพัฒนาธุรกิจให้มั่งคงและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนคู่สังคมไทยต่อไป เพื่อให้สมกับความไว้วางใจที่ทุกท่านมอบให้กับเรา” นางฐาปณี กล่าวทิ้งท้าย

เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ณ บิ๊กซี เพลส สาขารัชดาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน นี้

นายอัศวิน - นางฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี จัดกิจกรรม “ปลูกต้นรวงผึ้ง” ณ บิ๊กซี สาขาลาดพร้าว 2 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

นอกจากนี้ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ได้ปลูกต้นรวงผึ้ง ไปแล้วกว่า 82 ต้น ที่ บิ๊กซีสาขาหางดง, สาขาน่าน, สาขาวารินชำราบ, สาขาร้อยเอ็ด, สาขาคำตากล้า, สาขามหาชัย 1, สาขายะลา, สาขาชลบุรี 1,  สาขาเพชรเกษม 2 และ สาขารามอินทรา

โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็น ๑ ในโครงการด้านการพัฒนาและส่งเสริมความร่วมมือในสังคม จำนวน ๗๒ โครงการของกลุ่มบีเจซี บิ๊กซี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗

Page 1 of 15
X

Right Click

No right click