กลุ่มบริษัทเอไอเอ (“เอไอเอ” หรือ “บริษัท” รหัสหลักทรัพย์: 1299) ประกาศดัชนีชี้วัดธุรกิจใหม่ที่สำคัญสำหรับ 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
สรุปสาระสำคัญทางการเงิน
อัตราการเติบโตรายงานจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ตามรายละเอียดด้านล่าง
นายหลี่ หยวน ชยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า
เอไอเอมีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ที่แข็งแกร่งถึงร้อยละ 15 ในช่วง 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน เรารักษาแรงขับเคลื่อนได้ดี และสามารถสร้างการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ซึ่งแข็งแกร่งมากที่ร้อยละ 20 เมื่อเทียบเคียงกับพื้นฐานเดิม ยกเว้นในฮ่องกงที่ยอดขายให้นักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงถูกจำกัดจากมาตรการด้านการเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทเอไอเอมีอัตราการเติบโตที่มากกว่าช่วงก่อนเกิดโรคระบาดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562
ในจีนแผ่นดินใหญ่ เรากำลังมีความก้าวหน้าในการสร้างการเติบโตให้แก่ พรีเมียร์ เอเจนซี่ ของเราในเมืองใหม่ได้เป็นอย่างดี และผมมีความยินดีที่ล่าสุดเอไอเอ ประเทศจีน ได้รับการอนุมัติด้านการกำกับดูแลเพื่อเริ่มดำเนินธุรกิจในอู่ฮั่น หูเป่ย์ นอกจากนี้ผมยังได้รับกำลังใจจากผลประกอบการในระยะเริ่มต้นที่เป็นบวก จากการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารแห่งเอเชียตะวันออก (The Bank of East Asia) ในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง
ทั่วทั้งกลุ่มบริษัทของเรากำลังใช้ประโยชน์จากพลังของเทคโนโลยี ดิจิทัล และการวิเคราะห์ เพื่อให้สามารถดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่ได้วางไว้และขยายความได้เปรียบในการแข่งขันของเราออกไป ในขณะที่การระบาดใหญ่ยังคงส่งผลกระทบต่อตลาดบางส่วนของเรา ผลการดำเนินงานของเอไอเอแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและยืดหยุ่นทั่วทั้งเอเชียของเราซึ่งได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี
“ผมมั่นใจว่าเราจะยังคงมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของเรา และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดของเรา พร้อมกับช่วยให้ผู้คนอีกหลายล้านคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น”
สรุปผลการดำเนินงานในช่วงระยะเวลา 9 เดือน สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2564
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) มีมูลค่า 2,549 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเติบโตขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2563 เอไอเอสามารถคงความแข็งแกร่งของการเติบโตในมูลค่าธุรกิจใหม่ได้อย่างดี โดยเติบโตถึงร้อยละ 20 บนพื้นฐานที่เหมือนกัน มูลค่าธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัทนอกฮ่องกงยังคงสามารถเติบโตได้เหนือกว่าช่วงเวลาก่อนสถานการณ์โรคระบาดในปี 2562
เอไอเอ ประเทศจีน ยังคงเป็นตลาดที่สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ให้กับกลุ่มบริษัทเอไอเอมากที่สุดด้วยมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตคิดเป็นตัวเลข 2 หลักในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 บนพื้นฐานเหมือนกัน ด้วยความแตกต่างของโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ที่สามารถผลักดันให้ตัวแทนสร้างผลงานได้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2563 รายได้โดยเฉลี่ยของตัวแทนสูงขึ้นกว่าเมื่อช่วงก่อนมีสถานการณ์โรคระบาดในปี 2562 ซึ่งช่วยสนับสนุนในด้านการรับสมัครตัวแทนใหม่และรักษาตัวแทนเดิม ผลิตภัณฑ์ประกันที่มอบความคุ้มครองแบบดั้งเดิมยังคงได้รับความนิยม โดยสร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ได้สูงที่สุด ซึ่งเราประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลงานการขายจากการขยายผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อการออมระยะยาว ทำให้เราสามารถได้ส่วนแบ่งเงินในกระเป๋าของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถสร้างความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นจากการที่เราริเริ่มและพัฒนาโปรแกรมพรีเมียร์ เอเจนซี่ ในเมืองใหม่ๆ ของเอไอเอ ประเทศจีน เราเพิ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและการประกันภัยแห่งประเทศจีน ในการดำเนินธุรกิจในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์
ธุรกิจของเราในฮ่องกงได้รับรายงานถึงมูลค่าธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมจากการแบ่งกลุ่มลูกค้าในประเทศ ยอดขายจากนักท่องเที่ยวในจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีข้อจำกัดเนื่องมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางที่ยังดำเนินอยู่ ตลอด 9 เดือนแรกของปีนี้ ตัวแทนในพรีเมียร์ เอเจนซี่ ได้ส่งมอบมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องไตรมาสต่อไตรมาส เรายังประสบผลสำเร็จในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ที่มีการเติบโตอย่างดีเยี่ยม โดยมีแรงสนับสนุนจากพันธมิตรใหม่ของเรา นั่นก็คือ The Bank of East Asia เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา
เอไอเอ ประเทศสิงคโปร์ และเอไอเอ ประเทศมาเลเซีย สร้างมูลค่าธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตอย่างดีใน 9 เดือนแรกของปี 2564 ในขณะที่ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี มาตรการการจำกัดจากสถานการณ์โรคระบาดส่งผลกระทบต่อมูลค่าธุรกิจใหม่ที่ลดลงเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของทั้ง 2 ตลาดในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2563 อย่างไรก็ดี เราได้พัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของตัวแทนในการสร้างผลผลิตของพรีเมียร์ เอเจนซี่ ในทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากเอไอเอ ประเทศเวียดนาม ตลาดอื่นๆ ที่มูลค่าธุรกิจใน 9 เดือนแรกของปี 2564 มีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นจากปี 2563 เปรียบเทียบบนพื้นฐานเดียวกัน ผลกระทบจากโรคโควิด 19 สายพันธุ์เดลต้า ซึ่งมีผลกระทบรุนแรงต่อหลายๆ ตลาดในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 เอไอเอ เวียดนาม ได้รับผลกระทบจากยอดผู้ติดเชื้อและมาตรการล็อคดาวน์อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงมาจนถึงไตรมาส 3 ของปีนี้ อย่างไรก็ดี การปรับตัวในด้านกระบวนการขายโดย Remote sales process ช่วยบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดให้ลดลง มูลค่าธุรกิจในตลาดอื่นๆ ลดต่ำลงอย่างเล็กน้อยในช่วงระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2564 บนพื้นฐานเหมือนกัน
เอไอเอ ประเทศไทย มีมูลค่าธุรกิจที่เติบโตอย่างยอดเยี่ยม โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากทั้งช่องทางตัวแทนและแบงก์แอสชัวรันส์ และมีการเติบโตจากครึ่งปีแรกของปี 2564 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 3
กำไรจากมูลค่าธุรกิจใหม่โดยภาพรวมตลอดระยะเวลา 9 เดือนแรกของปี 2564 เพิ่มขึ้น 5.1 จุด (pps) คิดเป็นร้อยละ 58.9 จากการปรับรูปแบบการผสมผสานผลิตภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มสูงขึ้น กำไรจากมูลค่าธุรกิจใหม่มาจากการจัดการด้านค่าใช้จ่ายและการลงทุนระยะยาว โดยผลตอบแทนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากที่แสดงในรายงานประจำปี 2563 ในส่วนของกำไรได้ถูกรายงานเป็นมูลค่าปัจจุบันของเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ คิดเป็นร้อยละ 10 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9 ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 เบี้ยประกันภัยรับปีแรก เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เป็น 4,309 ล้านเหรียญสหรัฐ และเบี้ยประกันภัยรับรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เป็น 27,463 ล้านเหรียญสหรัฐ
ภาพรวม
รายได้ที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงประกันภาคเอกชนที่อยู่ในระดับที่ต่ำ และความคุ้มครองสวัสดิการสังคมที่จำกัดยังคงเป็นตัวผลักดันความต้องการในผลิตภัณฑ์ประกันของเอไอเอทั่วเอเชีย ข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญของเราช่วยให้เราสามารถต่อยอดความต้องการเหล่านี้เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2564 แต่ผลกระทบต่อเนื่องของโรคระบาดได้ชะลอการเติบโตในไตรมาสที่ 3 เรายังคงเห็นข้อจำกัดจากมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดและการเรียกร้องสินไหมประกันที่เพิ่มขึ้นในบางตลาดของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีระดับการได้รับวัคซีนต่ำ แม้จะมีความไม่แน่นอนในระยะสั้น แต่เรามั่นใจว่าการดำเนินการตามลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของเราจะสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งและสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน
เอไอเอได้รับเบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลท้องถิ่น ซึ่งทำให้สินทรัพย์และหนี้สินของเรามีมูลค่าใกล้เคียงกัน ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ ในรายงานงบการเงินรวมของกลุ่มที่มีการแปลเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้น เราจึงมีการเปรียบเทียบอัตราการเติบโตจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ เว้นแต่ระบุเป็นอย่างอื่น เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนของผลการดำเนินธุรกิจ
หมายเหตุ
มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) ของกลุ่มบริษัท ไม่รวมในส่วนของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม
เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) และมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) สำหรับตลาดอื่น รวมร้อยละ 49 ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมหุ้นในประเทศอินเดีย บริษัท ทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต จำกัด (ทาทา เอไอเอ ประกันชีวิต)
เอไอเอ ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่งของประเทศ* ร่วมมือกับ RISE
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รับรางวัล ‘บริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารดีเด่น’ อันดับที่ 3
เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป มอบบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) สำหรับการดูแลสุขภาพใจ แก่ลูกค้าเอไอเอทั่วประเทศ เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก
กรุงเทพฯ, 7 ตุลาคม 2564 – เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตและประกันสุขภาพของไทย ร่วมกับ ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมทำแบบประเมินความเครียดและภาวะซึมเศร้า เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก หรือ World Mental Health Day ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี พร้อมมอบสิทธิเข้ารับบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine)[1] ผ่านแอปพลิเคชันทรู เฮลท์ (True HEALTH) แก่ลูกค้าเอไอเอ เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ ตอกย้ำคำมั่นสัญญาที่มุ่งสนับสนุนให้คนไทยให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงมีผลกระทบต่อผู้คนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทั้งในด้านความเป็นอยู่จากการถูกจำกัดพื้นที่ หรือจำกัดการเดินทาง ไม่ได้ออกไปพบปะเพื่อนฝูงหรือแม้แต่ครอบครัว และการต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from home) รวมถึงการต้องปรับตัวกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะความเครียดและเสี่ยงต่อการเกิดโรคซึมเศร้าได้นั้น เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเรามีโปรแกรมเอไอเอ ไวทัลลิตี้ (AIA Vitality) ที่คอยดูแลและส่งเสริมในด้านสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อให้ลูกค้ามีสุขภาพในองค์รวมที่ดีอย่างยั่งยืน เราตระหนักถึงความกังวลและความตึงเครียดที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของลูกค้า จึงได้ร่วมมือกับทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ส่งมอบบริการพบแพทย์ออนไลน์ (Telemedicine) แก่ลูกค้าเอไอเอที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยวกว่า 5.19 ล้านคน[2] รวมถึงสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ในการทำแบบประเมินความเครียดและภาวะซึมเศร้า เพื่อตรวจสอบความแข็งแรงของสุขภาพใจ สำหรับลูกค้าท่านใดที่มีผลการทดสอบที่แสดงว่ามีภาวะเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า เอไอเอจะมอบโค้ด (Code)[3] เพื่อนำไปลงทะเบียน พร้อมพูดคุยและรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟรี ผ่านทางแอปพลิเคชัน ทรู เฮลท์ (True HEALTH) โดยบริการพิเศษนี้ จัดขึ้นเนื่องในวันสุขภาพจิตโลก ซึ่งเป็นการผสานความร่วมมือในการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพ มุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคดิจิทัลด้วยการยกระดับประสบการณ์ด้านสุขภาพแก่ลูกค้าเอไอเอ”
ดร.อดิภัทร ชัยชนะสกุล กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป ผู้ให้บริการดิจิทัลครบวงจร ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพอัจฉริยะ “ทรู เฮลท์” โดยผสานความล้ำสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลกับบริการทางการแพทย์ เพื่อร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้สามารถดูแลสุขภาพและเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการเดินทางไปโรงพยาบาล ปรึกษาเรื่องสุขภาพเบื้องต้นผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกที่ กับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากชีวีบริรักษ์คลินิกเวชกรรม ซึ่งให้บริการครอบคลุมกว่า 20 สาขา ทั้งสุขภาพกายและใจ ล่าสุด เราได้มีการขยายความร่วมมือกับเอไอเอ ประเทศไทย ร่วมดูแลสุขภาพใจของคนไทย เนื่องในวันสุขภาพจิตโลก โดยมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเอไอเอที่มีกรมธรรม์ประกันชีวิตรายเดี่ยว และสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้ ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าจากการทำแบบประเมินฯ เข้ารับบริการปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพใจผ่านแอปพลิเคชัน True HEALTH ฟรีตามเงื่อนไขที่เอไอเอกำหนด โดยลูกค้าเอไอเอสามารถใช้บริการได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน True HEALTH แล้วเลือกแพทย์ในแผนกสุขภาพใจและนัดหมายขอรับคำปรึกษาได้ตามวันและเวลาที่สะดวก พูดคุยกับแพทย์แบบเรียลไทม์ได้หลายรูปแบบทั้ง แชต โทร หรือ วิดีโอ คอล (VDO Call) พร้อมบริการส่งยาตามที่แพทย์สั่งถึงหน้าบ้านทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ[4] เราเชื่อมั่นว่า “ทรู เฮลท์” จะเป็นอีกหนึ่งบริการที่ช่วยให้คนไทยมีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง เพื่อก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน”
นพ.ณัฐพล พิพัฒฐาดร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านจิตเวช จากทรู เฮลท์ กล่าวว่า “การดูแลสุขภาพใจให้แข็งแรงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะสุขภาพใจมีผลต่อความรู้สึก ความคิดและการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น การมีสุขภาพใจที่ดีจะช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ส่งผลให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างและครอบครัว ซึ่งการดูแลสุขภาพใจให้ดีสามารถทำได้หลายวิธี การปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพทางใจได้ หลายคนอาจจะคิดว่าการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพใจเป็นเรื่องน่าอาย แต่ในปัจจุบันเราสามารถปรึกษาแพทย์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ซึ่งเป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล สามารถนัดหมายขอรับคำปรึกษา พูดคุยได้แบบเรียลไทม์ตามวันและเวลาที่สะดวก ยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกคนมีความเครียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ เด็ก หรือวัยรุ่น ไม่ว่าจะเจอความเครียดอะไร มากน้อยแค่ไหน ก็ไม่ควรมองข้าม สามารถเข้ามาปรึกษากับทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพใจของ True HEALTH ได้ตลอด การได้รับคำแนะนำที่ดี แก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดจะช่วยให้มองเห็นทางออกของปัญหาได้ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้อาการที่เป็นอยู่ทวีความรุนแรงขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงการปรึกษาแพทย์ได้เมื่อต้องการ และมีความต่อเนื่องของการรักษา”
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถทำแบบประเมินผ่านลิงค์ https://bit.ly/3Dou0gj หรือแอปพลิเคชัน AIA iService ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2564 และสามารถศึกษารายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ www.aia.co.th/vitality หรือติดต่อ AIA Call Center 1581 และหากสนใจผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงบริการต่างๆ จากเอไอเอ สามารถติดต่อตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ ประเทศไทย กว่า 55,000 คนทั่วประเทศ
เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้ามอบเงินจำนวน 1,000,000 บาท สมทบทุนโครงการ “ประกันภัยรวมใจมอบวัคซีนต้านโควิดสู่ประชาชน” เพื่อร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยมี ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นผู้รับมอบ เพื่อสนับสนุนในการจัดหาวัคซีนต้าน โควิด19 ‘ซิโนฟาร์ม’ จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 20,000 โดส ให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง เพื่อให้ได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง พร้อมสานต่อคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ ที่มุ่งสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการให้ความสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการเร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยงานจัดขึ้น ณ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เมื่อเร็ว ๆ นี้
-จบ-