

ดีป้า ยกเลิกประกาศการรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานฯ และทบทวนการดำเนินการสรรหาการประชุมคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ครั้งที่ 6/2568 วานนี้ (19 พ.ย. 2568)
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ร่วมหารือนัดพิเศษกับเครือข่ายพันธมิตรในแวดวงอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น สมาคมไทยไอโอที สมาคมการค้าผู้ประกอบการเทคโนโลยี สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย สมาคมดิจิทัลคอนคอนเทนต์ไทย สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย สมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สมาคมระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด สมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย เพื่อรวบรวมความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ก่อนนำมาปรับใช้เพื่อเป็นแนวทางการทำงานของ ดีป้า ในการส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมดิจิทัล อีกทั้งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศต่อไป โดยมี ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูง ร่วมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียง ณ อาคารสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (สำนักงานใหญ่) ซอยลาดพร้าว 10 เขตจตุจักร

ทั้งนี้ ผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้เสนอความคิดเห็นและมุมมองด้านการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น
ภาคอุตสาหกรรมเห็นพ้องว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องยกระดับตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานด้าน Cloud, Data Center รวมถึงมาตรฐาน IoT ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้านอื่น ๆ เพื่อรองรับการลงทุนจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการดึงดูดงานสร้างสรรค์ เช่น ภาพยนตร์หรือดิจิทัลคอนเทนต์ให้อยู่ในประเทศแบบครบวงจร
ที่ประชุมสะท้อนว่า ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะสาย AI, MarTech และดิจิทัลคอนเทนต์ ต้องการการสนับสนุนที่ช่วยสร้างความได้เปรียบ เช่น การลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย การสนับสนุนให้เกิด IP ไทย การสร้างความเชื่อมโยงกับต่างประเทศ การเปิดพื้นที่ทดสอบ (POC) โดยมีรัฐช่วยเป็นผู้รับรองความน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกัน SMEs ต้องเผชิญแรงกดดันให้ปรับตัวสู่เทคโนโลยีใหม่อย่างรวดเร็ว แต่ยังขาดความพร้อม ทำให้เกิดช่องว่างระหว่าง Demand-Supply ที่ต้องเร่งแก้ไข

ภาคอุตสาหกรรมระบุว่า ไทยยังมีจำนวนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยี เช่น AI ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง อีกทั้งบัณฑิตจบใหม่จำนวนมากยังไม่มีงานทำ เพราะทักษะไม่ตรงตามความต้องการของตลาด จึงเสนอให้มีการพัฒนาทักษะเชิงลึก การสร้างแรงงานฝีมือ และการกระจายโอกาสให้เยาวชนจากต่างจังหวัดเข้าถึงอุตสาหกรรมได้มากขึ้น
ผู้ประกอบการและกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ต้องการพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยน และสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น Meet up เวิร์กชอป หรือกิจกรรมสร้างความร่วมมือ โดยเสนอให้ ดีป้า ทำให้พื้นที่ขององค์กรเป็น Digital Hub ที่เปิดกว้างให้ชุมชนดิจิทัลเข้ามาใช้ได้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือใหม่ ๆ

เสียงส่วนใหญ่สะท้อนว่า ภาครัฐยังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก การยื่นข้อเสนอช้า และการพิจารณาเอกสารใช้เวลานาน ทำให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายเล็กเข้าถึงได้ยาก พร้อมกันนี้ ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐยอมรับความเสี่ยงในการล้มเหลวของนวัตกรรม ไม่ใช่มองว่าการสนับสนุนทุกโครงการต้องประสบความสำเร็จเสมอ เพราะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีต้องมีพื้นที่สำหรับความผิดพลาดเพื่อเติบโต
หลายภาคส่วนต้องการให้หน่วยงานรัฐทำงานร่วมกับสมาคมมากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ เช่น งานระดับนานาชาติ เพื่อให้สมาคมมีบทบาทตัดสินใจอย่างแท้จริงและสะท้อนความต้องการของอุตสาหกรรมได้ชัดเจน
ผู้ประกอบการจำนวนมากสะท้อนว่าปัญหา Credit Term ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ แม้กฎหมายกำหนด 45 วัน แต่หลายธุรกิจยังปฏิบัติไม่ได้จริง ส่งผลต่อสภาพคล่องของ SMEs จึงเสนอให้มีมาตรการช่วยเหลือ หรือแนวทางเพื่อให้ระบบการชำระเงินเป็นธรรมและสอดคล้องกับความเป็นจริงของอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมเกมสะท้อนว่า ไทยยังมีศักยภาพสูง สามารถดึงงานและการลงทุนจากต่างชาติได้ หากมีการผลักดันเชิงระบบ โดยที่ประชุมมีการเสนอว่าไทยควรใช้ความสำเร็จของงาน gamescom x Thailand Game Show 2025 ที่จัดในไทยเป็นจุดเริ่มต้นในการดึงดูดนักลงทุน ครีเอเตอร์ และแรงงานต่างชาติให้เข้ามาทำงานในประเทศ นอกจากนี้ รัฐควรกระจายกิจกรรมและโอกาสไปยังภูมิภาค เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนในต่างจังหวัดเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมมากขึ้น พร้อมเปิดให้สมาคมและภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทตัดสินใจร่วมกับภาครัฐในการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ เพื่อให้การขับเคลื่อนสอดคล้องกับความต้องการจริงของอุตสาหกรรม อันสะท้อนความต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคอนเทนต์–เกมของภูมิภาคในอนาคต

“เสียงสะท้อนทั้งหมดชี้ชัดว่า หากประเทศไทยต้องการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภาครัฐต้องมีบทบาทสำคัญในการปรับกฎเกณฑ์ให้ทันสมัย เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาคน ไปจนถึงการสนับสนุนความเสี่ยงของนวัตกรรมใหม่” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
“ผศ.ดร.ณัฐพล” ชี้แจงประเด็นการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่สังคมกำลังให้ความสนใจ โดยยืนยันชัดเจนว่า กระบวนการทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ อยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และขอบคุณกระทรวงดีอี ประชาชน หน่วยงานพันธมิตรที่แสดงความห่วงใย ขณะที่คณะกรรมการกำกับ ดีป้า พร้อมพิจารณาทบทวนกระบวนการดังกล่าวตามข้อกังวลของกระทรวงดีอี ก่อนประกาศขยายระยะเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นระหว่างวันที่ 3 - 21 พฤศจิกายน 2568
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) มีคำสั่งให้คณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลทบทวนกระบวนการดังกล่าวนั้น เกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่ง ดีป้า ได้ชี้แจงไปทางผู้บริหารกระทรวงแล้ว และอยู่ระหว่างทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยหลักฐานประกอบเพื่อส่งไปยังกระทรวงต่อไป โดยขณะนี้ ดีป้า เตรียมความพร้อมในทุกมิติเพื่อให้กระบวนการเป็นไปตามกฎหมายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม
ผศ.ดร.ณัฐพล อธิบายเพิ่มเติมว่า ดีป้า จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติฉบับเฉพาะ แตกต่างจากองค์การมหาชนที่จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา พร้อมกล่าวต่อว่า ก่อนเริ่มกระบวนการสรรหา คณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลได้กำหนด ข้อกำหนดว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด ผลผลิต ผลลัพธ์ และกรอบวงเงินค่าตอบแทนของผู้อำนวยการ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งได้ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ก่อนที่รัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 จากนั้น ดีป้า ได้แจ้งผลต่อคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) เพื่อทราบเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ซึ่งได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาและค่าตอบแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นการเริ่มต้นกระบวนการสรรหา
อย่างเป็นทางการภายใต้กรอบระยะเวลา 90 วัน และได้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างวันที่ 3 – 17 พฤศจิกายน 2568 ก่อนขยายระยะเวลาเป็นระหว่างวันที่ 3 – 21 พฤศจิกายน 2568
“ประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ เราพร้อมชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่า กระบวนการทั้งหมดดำเนินการถูกต้องตามกรอบระยะเวลา ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นถึงความโปร่งใสในทุกขั้นตอน โดย ดีป้า ยังมีแผนที่จะถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดีป้า ขอขอบคุณกระทรวงดีอี และพี่น้องประชาชน รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรที่แสดงความห่วงใย และเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเราตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการกำกับฯ พร้อมพิจารณาทบทวนกระบวนการดังกล่าวตามข้อกังวลของกระทรวงดีอี และยืนยันอีกครั้งว่า ทุกขั้นตอนของกระบวนการสรรหาดำเนินการตามกฎหมาย ข้อบังคับ และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวทิ้งท้าย
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2568, กรุงเทพฯ – “ผศ.ดร.ณัฐพล” ชี้แจงประเด็นการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่สังคมกำลังให้ความสนใจ โดยยืนยันชัดเจนว่า กระบวนการทั้งหมดดำเนินการตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ อยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และขอบคุณกระทรวงดีอี ประชาชน หน่วยงานพันธมิตรที่แสดงความห่วงใย ขณะที่คณะกรรมการกำกับ ดีป้า พร้อมพิจารณาทบทวนกระบวนการดังกล่าวตามข้อกังวลของกระทรวงดีอี ก่อนประกาศขยายระยะเวลาการรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นระหว่างวันที่ 3 - 21 พฤศจิกายน 2568
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในกระบวนการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) มีคำสั่งให้คณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลทบทวนกระบวนการดังกล่าวนั้น เกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ซึ่ง ดีป้า ได้ชี้แจงไปทางผู้บริหารกระทรวงแล้ว และอยู่ระหว่างทำหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยหลักฐานประกอบเพื่อส่งไปยังกระทรวงต่อไป โดยขณะนี้ ดีป้า เตรียมความพร้อมในทุกมิติเพื่อให้กระบวนการเป็นไปตามกฎหมายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม
ผศ.ดร.ณัฐพล อธิบายเพิ่มเติมว่า ดีป้า จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติฉบับเฉพาะ แตกต่างจากองค์การมหาชนที่จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา พร้อมกล่าวต่อว่า ก่อนเริ่มกระบวนการสรรหา คณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลได้กำหนด ข้อกำหนดว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด ผลผลิต ผลลัพธ์ และกรอบวงเงินค่าตอบแทนของผู้อำนวยการ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเพื่อขอความเห็นชอบ ซึ่งได้ดำเนินการไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ก่อนที่รัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นชอบเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 จากนั้น ดีป้า ได้แจ้งผลต่อคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน (กพม.) เพื่อทราบเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ซึ่งได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาและค่าตอบแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล โดยขั้นตอนนี้ถือเป็นการเริ่มต้นกระบวนการสรรหา
อย่างเป็นทางการภายใต้กรอบระยะเวลา 90 วัน และได้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ระหว่างวันที่ 3 – 17 พฤศจิกายน 2568 ก่อนขยายระยะเวลาเป็นระหว่างวันที่ 3 – 21 พฤศจิกายน 2568
“ประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ เราพร้อมชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่า กระบวนการทั้งหมดดำเนินการถูกต้องตามกรอบระยะเวลา ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจและเห็นถึงความโปร่งใสในทุกขั้นตอน โดย ดีป้า ยังมีแผนที่จะถ่ายทอดสดการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดีป้า ขอขอบคุณกระทรวงดีอี และพี่น้องประชาชน รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรที่แสดงความห่วงใย และเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเราตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการกำกับฯ พร้อมพิจารณาทบทวนกระบวนการดังกล่าวตามข้อกังวลของกระทรวงดีอี และยืนยันอีกครั้งว่า ทุกขั้นตอนของกระบวนการสรรหาดำเนินการตามกฎหมาย ข้อบังคับ และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวทิ้งท้าย
‘ดีป้า’ เผยความสำเร็จงาน gamescom asia x Thailand Game Show 2025 สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมเกมระดับภูมิภาคเอเชีย ด้วยผู้เข้าร่วมงานในโซน Entertainment Area กว่า 206,159 คน และนักธุรกิจ นักสร้างสรรค์และพัฒนาเกม รวมถึงผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกม เข้าร่วมงานในโซน Business Area กว่า 5,590 คน จาก 81 ประเทศทั่วโลก