เอฟดับบลิวดี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (“กลุ่มเอฟดับบลิวดี” หรือ “เอฟดับบลิวดี”) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ประกาศขยายความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ภายใต้ข้อตกลงระยะเวลา 4 ปี ในการเข้าถึงนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) รุ่นล่าสุด เพื่อเสริมความต่อเนื่องในการดำเนินกลยุทธ์เทคโนโลยีคลาวด์-เฟิร์สของกลุ่มเอฟดับบลิวดี

กลุ่มเอฟดับบลิวดีมีแผนที่จะขับเคลื่อนโครงการ Generative AI  โดยใช้เทคโนโลยี Azure OpenAI Service และนวัตกรรมระดับโลกอื่นๆ ของไมโครซอฟท์ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ เครือข่ายส่วนองค์กร ความสามารถด้านการตรวจสอบและความปลอดภัยของ Microsoft Azure รวมถึงโมเดล AI ขั้นสูง

ไรอัน คิม (Ryan Kim) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานดิจิทัลของกลุ่มเอฟดับบลิวดี กล่าวว่า "นวัตกรรมดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บริษัทบรรลุวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต การทำงานร่วมกันครั้งนี้เป็นการรวมความมุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกของ FWD ในตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดประกันภัยที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้ากับมาตรฐานและทักษะระดับโลกของ Microsoft ในด้านวิศวกรรมและ AI”

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างประโยชน์จากการนำนวัตกรรมรุ่นใหม่ๆ มาพัฒนาสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรม และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นการวางทิศทางด้านการประกันภัยต่อไปในอนาคต"

กลุ่มเอฟดับบลิวดีทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า รวมไปถึงงานในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผู้ใช้งานในส่วนของดิจิทัล การตลาด ประสิทธิภาพของช่องทางจัดจำหน่ายและตัวแทน การรับประกันภัย การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และการบริการลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ถือเป็นผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆในโปรแกรม Copilot ของ Microsoft 365 ซึ่งเป็นการนำ AI มาทำหน้าที่ผู้ช่วยสนับสนุนการทำงานในแต่ละวันของพนักงาน

บิล บอร์เดน (Bill Borden) รองประธานบริษัทฝ่ายบริการทางการเงินของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า "AI กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจเติบโตด้วยความคล่องตัวและขยายตัวมากขึ้น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งด้าน AI กับกลุ่มเอฟดับบลิวดี ผ่านความสามารถของข Azure OpenAI Service และ Copilot for Microsoft 365 เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมสนับสนุนกระบวนการทำงานให้มีความปลอดภัยและรัดกุมยิ่งขึ้น”

“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีบทบาทสำคัญในวงการการเงินระดับโลก และยังมีความโดดเด่นในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับลูกค้าทั่วภูมิภาคโดยนำ Generative AI มาใช้อย่างมีความรับผิดชอบ และด้วยความเป็นผู้นำด้าน AI ในระดับโลกของไมโครซอฟท์ เราเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมสนับสนุน ecosystem ด้านนวัตกรรมให้กับอุตสาหกรรมทางการเงิน  เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า”

ทั้งนี้ กลุ่มเอฟดับบลิวดีได้ริเริ่มนำนวัตกรรม AI มาใช้ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันกลุ่มเอฟดับบลิวดีมีการใช้งานโมเดล AI อยู่เกือบ 200 โมเดล และมีตัวอย่างการใช้งานจริงมากกว่า 600 เคส

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกระดับบริการ Fixed Line (โทรศัพท์บ้าน) ในรูปแบบ Digital Voice ภายใต้แนวคิด “Any Device Anytime Anywhere @ The Same Price” เสนอ Solution ที่น่าสนใจยิ่งและมีประโยชน์เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านโทรคมนาคมให้กับหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เอ็นที กับ ไมโครซอฟท์ ได้ร่วมกันทำกรอบข้อตกลง (MOU) ในการ Co-create Products & Services เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการโทรศัพท์ประจำที่ ให้มีความเป็น Smart Product โดยสามารถเชื่อม ต่อเข้ากับ Digital Connected Workplace Platform ตอบสนองความต้องการของธุรกิจในปัจจุบัน  ได้ทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชน ที่มีการใช้งานโทรศัพท์พื้นฐานกันอยู่แล้ว โดยใช้ชื่อบริการว่า “NT Digital Teams Phone” ที่สามารถใช้งานเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานเดิมร่วมกับ Microsoft Teams Phone ได้จากทุก พื้นที่ทั่วไทย รวมถึงในต่างประเทศ ผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่กระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วโลก

   

นางชนิกานต์ โปรณานันท์ รองกรรมการผู้จัดการธุรกิจภาครัฐและการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกันในครั้งนี้ NT Digital Teams Phone เป็นผลผลิตส่วนหนึ่ง ในการพัฒนาและต่อยอดบริการโทรศัพท์ประจำที่ให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิตอล อย่างเต็มรูปแบบ ผ่าน Application Microsoft Teams ในการนำบริการโทรศัพท์ประจำที่ของ NT มาต่อยอด พัฒนาการให้บริการ ให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้งาน IT ในยุคดิจิทัล เพื่อรองรับ การทำงานแบบ Hybrid Work ที่สมบูรณ์แบบ ให้ทุกธุรกิจได้สัมผัสประสบการณ์การสื่อสาร แบบ All-in-one communication”

บริการ “NT Digital Teams Phone” จะทำงานผ่านบริการ Microsoft Teams ที่มีให้บริการอยู่โดย เสริมประสิทธิภาพการใช้ Voice ผ่าน โทรศัพท์ประจำที่ ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพ ในการใช้งานมากยิ่งขึ้น สามารถตอบสนองลูกค้าในการสื่อสารออนไลน์ การส่งข้อมูลออนไลน์ การประชุม ออนไลน์ได้ แม้แต่การติดต่อกันผ่านโทรศัพท์ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น บริการนี้จะช่วยให้การติดต่องาน หรือการประชุมสะดวกราบรื่นตลอดเวลา โดยไม่ต้องแจ้งเลขหมายใหม่หรือ ใช้เลขหมายมือถือส่วนตัว ในการติดต่อ ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถควบคุมภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบโทรคมนาคมภายในองค์กรได้เป็น อย่างดี นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอื่นๆ อีกมากมายที่เป็น Feature ของบริการที่สามารถ ทำได้อย่างหลากหลาย และมากกว่าตู้สาขาปกติทั่วไป เปรียบเสมือนเป็นการ Upgrade บริการโทรศัพท์บ้านหรือ Fixed Line ให้มีคุณภาพที่สูงขึ้น ในขณะที่ลดค่าใช้จ่ายลงได้อย่างชัดเจน

พันเอกสรรพชัยย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอ็นที มีภารกิจสำคัญในการให้บริการที่ทันสมัยมีคุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเพิ่มศักยภาพขององค์กรในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่ต้องก้าวเป็น Digital Government ในอนาคต โดยบริการ NT Digital Teams Phone ตั้งเป้าหมายกลุ่มลูกค้าในระยะแรก จะเป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ SMEs Corporate , ราชการ และรัฐวิสาหกิจ  ที่มีการใช้โทรศัพท์ ประจำที่ทุกระบบผ่านตู้สาขา PBX ซึ่งอาจมีสาขาอยู่ในคนละพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มลูกค้าที่ได้มี การใช้งาน License Microsoft Office 365 อยู่แล้ว โดยคาดการว่าจะมีองค์กรต่างๆ สนใจใช้บริการ ไม่น้อยกว่า 20% ของฐานลูกค้าในปัจจุบัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท ภายในไตรมาสที่สี่ของปีนี้

Surface Laptop Go 3 เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้

ไมโครซอฟท์พร้อมพาผู้ใช้และองค์กรทั่วโลกเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI ที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำงานและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในแทบทุกด้าน ด้วยระบบแชตและโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) ที่สามารถตอบสนองคำสั่งในรูปของภาษาเขียนและภาษาพูดได้อย่างชาญฉลาด นำไปสร้างสรรค์ชิ้นงานต่อยอดหรือลงมือทำตามคำสั่งได้อย่างแม่นยำ เป็นเสมือนผู้ช่วยหรือ “Copilot” ที่พร้อมสนับสนุนคุณในทุกภารกิจ ต่อยอดจากฟีเจอร์ AI มากมายที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นทางแพลตฟอร์ม GitHub การทำงานใน Microsoft 365 การค้นหาข้อมูลผ่าน Bing และ Edge หรือการทำงานผสานกับหลากหลายแอปในพีซีของคุณด้วย Windows

ไมโครซอฟท์พร้อมแล้วที่จะรวบรวมทุกคุณสมบัติและความสามารถไว้ในประสบการณ์ AI เพียงหนึ่งเดียว ภายใต้ชื่อ Microsoft Copilot โดยผสมผสานทั้งข้อมูลและความรู้จากโลกออนไลน์ ข้อมูลในองค์กรของผู้ใช้งาน และสิ่งที่ผู้ใช้กำลังทำอยู่บนพีซี เพื่อช่วยให้ทุกภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น โดยที่ยังมั่นใจได้ในความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของคุณ และสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ไร้รอยต่อ ทั้งใน Windows 11, Microsoft 365, Edge และ Bing เรียกใช้งานได้ทั้งในรูปของแอปและตัวช่วยในเมนูที่ปรากฎขึ้นเมื่อคลิกเมาส์ปุ่มขวา ทั้งนี้ Microsoft Copilot จะได้รับอัปเดตที่เพิ่มความสามารถใหม่ๆ และเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชันอื่นๆ บนแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ เพื่อมอบประสบการณ์หนึ่งเดียวที่ผสานกับชีวิตของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว

Copilot พร้อมเปิดใช้งานแล้ววันนี้ ผ่านอัปเดตฟรีสำหรับ Windows 11 ก่อนจะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมทั้งใน Bing, Edge และ Microsoft 365 Copilot ในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้เปิดตัวคุณสมบัติและความสามารถใหม่ๆ อีกมากมายเพื่อยกระดับการทำงาน ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของทั้งผู้ใช้ทั่วไปและภาคธุรกิจ

· อัปเดตล่าสุดสำหรับ Windows 11 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ถึง 150 รายการ นับตั้งแต่ผู้ช่วย Copilot ไปจนถึงคุณสมบัติใหม่จาก AI ในแอปอย่าง Paint, Photos, Clipchamp และอื่นๆ อีกมากมาย

· Bing พร้อมรองรับศักยภาพที่เพิ่มขึ้นของโมเดล DALL.E 3 จาก OpenAI และสามารถตอบคำถามอย่างเฉพาะเจาะจง ตรงความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนมากขึ้นด้วยการอ้างอิงจากประวัติการค้นหา พร้อมด้วย

ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่มี AI เป็นตัวช่วย และอัปเดตใหม่สำหรับ Bing Chat Enterprise ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนและการทำงานกับรูปภาพ

· Microsoft 365 Copilot จะเปิดให้ลูกค้าองค์กรได้เริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป โดยมาพร้อมกับ Microsoft 365 Chat ผู้ช่วย AI ตัวใหม่ที่พร้อมเข้ามาพลิกโฉมวิธีการทำงานของคุณ

อัปเดตใหม่ Windows 11 จัดเต็มกว่า 150 ฟีเจอร์ พร้อมแนะนำผู้ช่วยอัจฉริยะ Copilot สำหรับพีซีทุกเครื่อง

Windows จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่พร้อมมอบประสบการณ์ AI ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ด้วยอัปเดตล่าสุดสำหรับ Windows 11 ที่พร้อมให้ติดตั้งและใช้งานแล้ววันนี้

ชมวิดีโอแนะนำ Copilot ใน Windows 11 ได้ที่นี่

สำหรับฟีเจอร์เด่นในอัปเดตนี้ ได้แก่:

· Copilot สำหรับ Windows (รุ่นพรีวิว) พร้อมช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสร้างสรรค์ชิ้นงานและทำภารกิจให้เสร็จสิ้นอย่างสบายใจยิ่งขึ้น ด้วยผู้ช่วย Copilot ที่พร้อมเข้ามาเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย เพียงคลิกเรียกที่ taskbar หรือกดปุ่มลัด Win+C ก็สามารถขอความช่วยเหลือและทำงานคู่กับแอปได้ทันที

· Paint อัปเดตใหม่ เติมพลัง AI ด้วยฟีเจอร์การลบพื้นหลังภาพและการรองรับเลเยอร์ แถมด้วยพรีวิวของ Cocreator ระบบ generative AI ที่จะช่วยสร้างสรรค์งานศิลปะให้กับคุณ

· แอป Photos ก็เติมพลัง AI มาช่วยงานแต่งภาพให้ง่ายยิ่งกว่าเดิม อย่างฟีเจอร์ Background Blur ที่ทำเอฟเฟกต์หน้าชัดหลังเบลอได้ในคลิกเดียว แถมยังหาภาพจากคลังเก็บใน OneDrive ได้ง่ายๆ ด้วยระบบค้นหาที่แยกแยะได้ทั้งสิ่งที่อยู่ในภาพและสถานที่ที่ถ่ายแต่ละภาพ

· เครื่องมือแคปหน้าจอ Snipping Tool สามารถดึงข้อความจากภาพออกมาให้ใช้งานต่อได้ หรือจะสั่งให้ช่วยปิดชื่อและข้อมูลที่เป็นความลับในภาพหน้าจอก็ยังได้ และนอกจากจะแคปภาพได้แล้ว อัปเดตนี้ยังเพิ่มการอัดเสียงทั้งจากตัวเครื่องและผ่านไมโครโฟน จึงอัดหน้าจอเป็นวิดีโอเพื่อทำคอนเทนต์ได้แบบง่ายๆ

· แอปตัดต่อวิดีโอ Clipchamp สามารถเสนอไอเดียการจัดซีน ตัดคลิป หรือลำดับเรื่อง จากภาพและวิดีโอของคุณแบบอัตโนมัติด้วยฟีเจอร์ auto compose ทำให้ตัดคลิปแค่ฉับเดียวก็อัปโหลดและแชร์ได้แล้ว

· Notepad จะเซฟเนื้อหาที่คุณพิมพ์ค้างไว้แบบอัตโนมัติตลอดเวลา จึงสามารถปิดแอปทิ้งแล้วกลับมาเปิดทำต่อได้แบบหายห่วง แถมยังเปิดหลายไฟล์พร้อมกันในแบบแยกแท็บได้อีกด้วย

· Outlook for Windows เวอร์ชั่นใหม่ ที่รวบรวมอีเมลจากทุกบัญชีและแพลตฟอร์มของคุณ (รวมถึง Gmail, Yahoo, iCloud และอื่นๆ ด้วย) มาไว้ในแอปเดียว พร้อมตัวช่วยมากมายสำหรับการเขียนอีเมลให้มีเนื้อหาตรงเป้า กระชับ ฉับไว และแนบไฟล์จาก OneDrive ได้อย่างสะดวกสบาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Outlook ใหม่นี้ สามารถอ่านได้ ที่นี่

· File Explorer ปรับโฉมใหม่ด้วยหน้าจอหลัก ช่องพิมพ์แอดเดรส และช่องค้นหาที่ออกแบบมาให้คุณสามารถเข้าถึงทุกคอนเทนต์ที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ทั้งยังสะดวกสบายกว่าด้วยไฮไลท์การปรับแก้ล่าสุดในไฟล์ต่างๆ และฟีเจอร์ Gallery สำหรับการเปิดอัลบั้มรูปโดยเฉพาะ

· ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการใช้เสียงแทนการพิมพ์ และเสียงพูดที่เป็นธรรมชาติยิ่งกว่าเดิมในแอป Narrator ทื่เข้ามาสานต่อพันธกิจของไมโครซอฟท์ในการพัฒนาให้ Windows 11 เป็น Windows รุ่นที่รองรับผู้ใช้ทุกกลุ่มมากที่สุด

· Windows Backup ช่วยให้การย้ายไฟล์ไปยังพีซี Windows 11 เครื่องใหม่ของคุณง่ายยิ่งกว่าเดิม โดยสามารถถ่ายโอนไปได้หมดทั้งไฟล์ แอปที่ติดตั้งไว้ และการตั้งค่าต่างๆ จึงตามไปให้ใช้งานบนเครื่องใหม่ได้แบบไร้รอยต่อ

Copilot สำหรับ Windows และฟีเจอร์ใหม่อื่นๆ ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของอัปเดตสำหรับ Windows 11 รุ่น 22H2 ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดและติดตั้งใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนเป็นต้นไป

Bing และ Edge ยกระดับประสบการณ์หลากหลายในโลกออนไลน์

ส่วน Bing และ Edge ก็พร้อมเติมความสามารถใหม่ๆ ให้กับทุกวันของคุณด้วยโมเดล AI รุ่นล่าสุด โดยคุณสามารถใช้งาน Bing Chat ได้ผ่าน Microsoft Edge หรือทาง bing.com/chat และจะได้สัมผัสฟีเจอร์ใหม่เร็วๆ นี้

· คำตอบตรงประเด็น ปรับแต่งสำหรับผู้ใช้แต่ละคน ด้วยประวัติการแชตในอดีตที่สามารถนำมาผสมผสานกับคำตอบใหม่ๆ ใน Bing Chat ได้ เช่น ถ้าคุณเคยใช้ Bing ติดตามข่าวคราวของทีมฟุตบอลทีมโปรด เมื่อคุณใช้ Bing วางแผนเดินทางท่องเที่ยวในครั้งต่อไป Bing จะสามารถบอกได้ในทันทีว่าทีมโปรดของคุณมีเกมเตะในเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของคุณหรือไม่ ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกปิดฟีเจอร์นี้ได้ในเมนูการตั้งค่าของ Bing หากไม่ต้องการคำตอบที่อ้างอิงประวัติการแชตในอดีต

· Copilot สำหรับ Microsoft Shopping ให้คุณใช้ Bing หรือ Edge ค้นหาสินค้าที่ต้องการซื้อได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อคุณถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า Bing จะถามคำถามเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้จากข้อมูลนั้น เพื่อให้สามารถแนะนำสินค้าได้ตรงใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยความคุ้มค่าจากการเปรียบเทียบเพื่อหาราคาที่ดีที่สุด โดยตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ผู้ใช้ที่ซื้อสินค้าผ่าน Microsoft Edge ได้พบกับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายที่สามารถประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้กว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 144,880 ล้านบาท) และอีกไม่นาน คุณจะสามารถนำภาพถ่ายหรือไฟล์รูปที่เซฟไว้มาใช้หาสินค้าเพื่อช้อปต่อได้อีกด้วย

· โมเดล DALL.E 3 จาก OpenAI ใน Bing Image Creator มาพร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่าแบบก้าวกระโดดสำหรับการสร้างรูปภาพที่สวยงามยิ่งกว่าเดิม และการลงรายละเอียดที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับส่วนประกอบภาพอย่างนิ้วมือและดวงตา นอกจากนี้ DALL.E 3 ยังเข้าใจคำสั่งของผู้ใช้งานได้ดีขึ้นกว่าที่เคย จึงได้ภาพที่ถูกต้องตามโจทย์มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ไมโครซอฟท์ยังได้ผนวก Microsoft Designer เข้ากับ Bing โดยตรง เพื่อให้คุณสามารถแก้ไขและปรับแต่งภาพหรืองานออกแบบได้ง่ายกว่าเดิม

· แยกแยะภาพที่สร้างโดย AI ด้วย Content Credentials เครื่องมือที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนา Generative AI โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยระบบ Content Credentials นำเทคนิคการเข้ารหัสมาทำการใส่ลายน้ำดิจิทัลที่มองไม่เห็นลงในภาพที่ใช้ AI สร้างขึ้นผ่าน Bing โดยระบุวัน-เวลาที่รูปภาพถูกสร้างขึ้นไว้ด้วย นอกจากนี้ เรายังเตรียมที่จะนำเครื่องมือนี้ไปผนวกไว้ใน Paint และ Microsoft Designer อีกด้วย

· อัปเดตล่าสุดสำหรับ Bing Chat Enterprise ที่เปิดตัวไปเมื่อ 2 เดือนก่อน โดยปัจจุบัน มีผู้ใช้งาน Microsoft 365 กว่า 160 ล้านคนที่สามารถใช้งาน Bing Chat Enterprise ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ท่ามกลางเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้ใช้งานจริง ในโอกาสนี้ เราจึงเปิดให้ Bing Chat Enterprise สามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ ผ่านทางแอป Microsoft Edge และเร็วๆ นี้ คุณจะสามารถค้นหาข้อมูลด้วยภาพและใช้ Image Creator สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ได้ผ่าน Bing Chat Enterprise

สรุปข้อมูลเชิงลึกจากรายงาน Work Trend Index ฉบับปี 2023 ที่เจาะลึกมุมมองพนักงานและผู้บริหาร พร้อมขยายบริการ Microsoft 365 Copilot ให้ลูกค้ามากขึ้น

Page 1 of 5
X

Right Click

No right click