ด้วยการได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยยังคงรักษาสถานะผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานถ่านหินและพลังงานเพื่อการใช้งาน (Coal and Consumable Fuels) ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งได้รับคะแนนประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงสุด เดินหน้านำเสนอ “อนาคตพลังงานเพื่อความยั่งยืน” ตามนโยบายและกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่อง
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนตามหลัก ESG ของบ้านปูฯ ตลอดระยะเวลาเกือบ 4 ทศวรรษ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มใน 10 ประเทศที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ นั้นทำให้เราได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียรวมทั้งสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศมากมาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บ้านปูฯ ยังคงสร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน (Energy Sustainability) ให้กับโลกตามกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างสมดุล โดยส่งมอบพลังงานที่ราคาสมเหตุสมผลและสามารถเข้าถึงได้ (Affordable) มีเสถียรภาพในการผลิตพลังงานเพื่อสร้างความต่อเนื่องในการส่งมอบพลังงาน (Reliable) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ผ่านการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานที่ครบวงจรใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน (Energy Resources) กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน (Energy Generation) และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (Energy Technology) ดังนั้น การได้เป็นสมาชิก DJSI ติดต่อกันเป็นปีที่ 7 นอกจากจะสะท้อนความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งกำลังใจสำคัญให้กับพนักงานของเราในการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายและกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องต่อไป”
ในปีนี้ บ้านปูฯ ได้รับคะแนนประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนสูงสุดทั้งในด้านคะแนนรวม และคะแนนในทั้ง 3 มิติ ที่ใช้ในการพิจารณา ประกอบด้วยมิติด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม ด้านการกำกับดูแลกิจการและเศรษฐกิจ (Environment, Social and Governance & Economic) ที่ชี้ให้เห็นความมุ่งมั่นและความสำเร็จของบ้านปูฯ ในการดำเนินงานซึ่งคำนึงถึงความยั่งยืนใน 3 มิตินี้ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นในด้านสิทธิมนุษยชนและการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับคะแนนดีขึ้นจากปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ
Manjit Jus หัวหน้าหน่วยงาน อีเอสจี รีเสิร์ช แอนด์ ดาตา ระดับโลกของเอสแอนด์พี โกลบอล กล่าวว่า “เราขอแสดงความยินดีกับบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นภาพสะท้อนของความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (Corporate Sustainability Assessment) ในปี 2563 ที่มากขึ้นกว่าที่เคย และด้วยข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับปีนี้ ทำให้เห็นถึงความโดดเด่นของบ้านปูฯ ที่มีความแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ และสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของบ้านปูฯ ที่คำนึงถึงทั้งผู้คนและโลกของเราอย่างแท้จริง”
ดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ DJSI จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือของ S&P Global และ SAM ถือเป็นดัชนีที่ใช้ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่า บริษัทมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล รวมทั้งเป็นดัชนีที่กองทุนต่าง ๆ จากทั่วโลกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการพิจารณาการลงทุน โดยบริษัทที่ได้รับการรับรอง DJSI จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้แก่นักลงทุน รวมถึงการสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย