นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงมุมมองของหอการค้าไทยกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) โดยประเมินว่าภาครัฐจะมีการลงทุนใน EEC เฉลี่ยปีละ 3 แสนล้านบาท
ซึ่งภายในระยะเวลา 5 ปี เมื่อรวมการลงทุนกับภาคเอกชนแล้วจะสามารถเพิ่มสัดส่วน GDP ได้ร้อยละ 1-1.5 ต่อปี ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตดีขึ้น
อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ของนักลงทุนญี่ปุ่นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ได้แสดงความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ EEC อย่างมาก ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกญี่ปุ่นมีเงินลงทุนโดยตรงไปแล้วกว่า 4.73 หมื่นล้านบาท มีการขอรับการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ การผลิตรถยนต์ไฮบริด มูลค่า 19,547 ล้านบาท และการผลิตผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ชนิดพิเศษ 15,182 ล้านบาท
ขณะที่นายโซจิ ซาคาอิ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ กล่าวว่า จากการสำรวจของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ พบว่าร้อยละ 40 ของ 1,750 บริษัทที่เป็นสมาชิกแสดงความสนใจที่จะลงทุนในอีอีซี และเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมโรบอตและไฮเทคโนโลยี
ส่วนการลงทุนนอกพื้นที่อีอีซี นักลงทุนสนใจธุรกิจ Health care เนื่องจากมองว่าไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้หากมีโครงการลงทุนที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการพัฒนารถไฟความเร็วสูง จะทำให้การตัดสินใจลงทุนมีมากขึ้น