เนื่องจากความแตกต่างด้านโอกาส ทุนทรัพย์ เครื่องมือและทักษะการใช้เทคโนโลยี ทำให้เยาวชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลอาจขาดโอกาสในการเรียนรู้หรือเรียนรู้ได้ไม่เต็มศักยภาพ ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่เกิดเฉพาะในระบอบการศึกษาไทยในปัจจุบันทั่วไป แต่ยังกระทบไปถึงการเรียนการสอนกีฬาด้วย
องค์ความรู้ที่ถูกต้อง ปัจจัยหลักพลักดันเยาวชนสนใจเล่นกีฬา
จากรายงานผลการสำรวจข้อมูลการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาของประชาชน ประจำปี 2563 ซึ่งจัดทำโดย กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แสดงให้เห็นว่า การได้รับความรู้ในการออกกำลังกายถือเป็นแรงจูงใจในการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาที่สำคัญที่สุด การจัดให้มีบุคลากรทางการกีฬามาให้ความรู้ และจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาก็เป็นหนึ่งในความต้องการของประชาชนที่อยากให้ภาครัฐช่วยส่งเสริมมากขึ้น
กีฬาเทเบิลเทนนิสหรือปิงปอง ถือเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมค่อนข้างน้อยในประเทศไทย อนุมานได้จากผลการสำรวจประเภทกิจกรรมในการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาของประชาชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปจากรายงานฉบับเดียวกันพบว่า กีฬาปิงปองไม่ติดอยู่ใน 10 กิจกรรมแรกที่ประชาชนเลือกใช้ในการออกกำลังกาย
การขาดแคลนผู้ฝึกสอนที่มีทักษะ ได้มาตรฐานก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ จากข้อมูลของสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย ในปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้ฝึกสอนที่ผ่านการอบรมเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาปิงปองระดับนานาชาติ (ITTF Coaching Course) เพียง 166 คน รวมถึงผู้ฝึกสอนส่วนใหญ่ยังขาดองค์ความรู้ที่ถูกต้องในการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่จะช่วยเสริมให้ทั้งร่างกายและจิตใจของเยาวชนหรือนักกีฬาพร้อมสำหรับการเล่นกีฬาและการแข่งขันอย่างแท้จริง
นายอาสาฬห์ อมรรัตนสุชาติ หรือโค้ชต้อม หัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูและหนึ่งในคณะผู้ฝึกสอนนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย ให้ความเห็นว่า “ทักษะกีฬาปิงปองในหลาย ๆ พื้นที่ในประเทศไทยยังไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร เนื่องจากเยาวชนและประชาชนทั่วไปไม่ได้มีโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างเท่าเทียม และคุณภาพการสอนทักษะปิงปองที่ได้รับยังไม่ดีเท่าที่ควร การเรียนการสอนส่วนใหญ่ยังคงเน้นการท่องจำทฤษฎี แต่ไม่เน้นการคิดวิเคราะห์และการปฏิบัติจริง”
“ค่ายสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู สร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาทักษะเยาวชนไทย” สะพานเชื่อมองค์ความรู้ทักษะปิงปอง เพื่อพัฒนาวงการเทเบิลเทนนิสไทย
ด้วยตระหนักถึงความสำคัญขององค์ความรู้ที่มีผลต่อการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิส บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ บ้านปู จึงได้จัด “ค่ายสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู สร้างแรงบันดาลใจและพัฒนาทักษะเยาวชนไทย” เพื่อนำทีมผู้ฝึกสอนและนักกีฬาจิตอาสาของสโมสรฯ ที่ผ่านสนามแข่งขันทั้งในระดับประเทศและนานาชาติมาถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะกีฬาปิงปองที่ถูกต้องและเป็นสากลให้กับเยาวชนและผู้ฝึกสอนในพื้นที่ห่างไกลอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี
นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู ย้ำความมุ่งมั่นของค่ายสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูฯ “เพื่อเผยแพร่กีฬาปิงปองให้เป็นที่แพร่หลาย โดยการเข้าไปสนับสนุนการให้ความรู้พื้นฐานและเทคนิคเกี่ยวกับกีฬาปิงปอง รวมถึงช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองให้เล่นกีฬาปิงปองได้อย่างถูกต้องตามทักษะสากล เพื่อเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการพัฒนาวงการกีฬาปิงปองให้เติบโต”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สโมสรฯ ได้ร่วมกับชมรมเทเบิลเทนนิสบุรีรัมย์จัด “ค่ายสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูฯ” ณ โรงเรียนบุรีรัมย์พิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ฝึกสอนและเยาวชนในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงที่สนใจกีฬาปิงปอง ได้เข้าฝึกอบรมด้านทฤษฎีและปฏิบัติจริงจากผู้มีประสบการณ์โดยตรง โดยมีเยาวชนและผู้ฝึกสอนทั้งจากบุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี และนครปฐม เข้าร่วมอบรมกว่า 100 คน
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูได้เพิ่มหลักสูตรการอบรมผู้ฝึกสอนเข้าไปในกิจกรรม “ค่ายสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูฯ” ซึ่งเราใช้หลักสูตรการอบรมผู้ฝึกสอนนานาชาติ (ITTF Coaching Course) ของสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยมาเป็นเครื่องมือในการฝึกอบรมนี้ เพื่อร่วมพัฒนาคุณภาพการสอนและเพิ่มศักยภาพให้กับวงการปิงปองไทย” โค้ชต้อม กล่าวเสริม
ด้าน นายบุญญารัตน์ หลาบมาลา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนวัดบ้านตาเสา อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ หนึ่งในผู้เข้าร่วมการอบรมผู้ฝึกสอนได้ให้ความเห็นว่า “ส่วนใหญ่การอบรมกีฬามักมุ่งเน้นไปที่กีฬามหาชน เช่น ฟุตบอล ทำให้เด็ก ๆ มีโอกาสเข้าถึงกีฬาปิงปองซึ่งเป็นที่นิยมน้อยกว่าได้ยากขึ้น ค่ายสโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูฯ จึงเป็นกิจกรรมที่ให้โอกาสเยาวชนในบุรีรัมย์ที่มีความสนใจปิงปองได้พัฒนาทักษะตัวเองอย่างแท้จริง การมีโค้ชนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทยมาฝึกอบรมให้ถึงที่ ทำให้ผมและผู้ฝึกสอนท่านอื่น ๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้หลักการสอนที่มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีเทคนิคการสอนใหม่ ๆ และหลากหลายสำหรับนำไปปรับใช้กับการสอนเยาวชนในจังหวัดได้”
สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูยังมุ่งส่งเสริมระบบนิเวศของกีฬาปิงปอง โดยนอกจากจะพัฒนาเยาวชนแล้ว ยังพัฒนาศักยภาพผู้ฝึกสอนกีฬาปิงปองในจังหวัดต่าง ๆ ให้ได้เรียนรู้วิธีการสอนแบบถูกต้องตามมาตรฐานสากล รู้จักการวางแผนระยะยาวสำหรับพัฒนานักกีฬาปิงปองของตัวเองโดยใช้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์การกีฬา อันนำไปสู่การพัฒนาเยาวชนและนักกีฬาในระดับสูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป พร้อมกับขยายเครือข่ายและเพิ่มจำนวนผู้ฝึกสอนกีฬาปิงปองที่มีศักยภาพ เพื่อเสริมระบบนิเวศของกีฬาปิงปองไทยให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ปลูกฝังนักกีฬาต้องไม่ใช่แค่เก่ง แต่ต้องเป็นคนดี นึกถึงส่วนรวม
กว่า 14 ปีแล้วที่ บ้านปู ได้ก่อตั้ง “สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปู” เพื่อสนับสนุนเยาวชนไทยที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬาปิงปองในฐานะที่เป็นอนาคตของชาติ ตั้งแต่นักกีฬารุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ โดยการนำความเชี่ยวชาญและทักษะต่าง ๆ ทางด้านกีฬาปิงปองระดับสูงมาถ่ายทอดให้แก่เยาวชนไทยผ่านการเรียนรู้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การสนับสนุนการฝึกซ้อม การแข่งขัน และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต่อยอดและยกระดับกีฬาปิงปองไทยให้มีมาตรฐานสูงทัดเทียมกับนานาประเทศ รวมถึงการพัฒนานักกีฬารุ่นใหม่เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการกีฬาปิงปองไทย และที่สำคัญยังเน้นการบ่มเพาะนักกีฬาให้นอกจากจะเก่งทางด้านกีฬาแล้ว ยังต้องเป็นคนดีของสังคม
“สโมสรเทเบิลเทนนิสบ้านปูไม่ได้เน้นให้นักกีฬามุ่งพัฒนาทักษะปิงปองให้มีมาตรฐานที่ทัดเทียมระดับประเทศและระดับนานาชาติเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญ คือ เรามุ่งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความมีวินัย ความสามัคคี ทักษะการใช้ชีวิตต่าง ๆ ตลอดจนการมีจิตอาสา เพื่อให้นักกีฬาของสโมสรฯ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ ตามหลักปรัชญาของบ้านปูที่สนับสนุนเยาวชนให้เป็นทั้ง “คนเก่ง” และ “คนดี” เปรียบเหมือนกับองค์กรที่นอกจากจะต้องเก่งในเรื่องการดำเนินธุรกิจแล้ว ยังต้องเป็นองค์กรพลเมืองดี หรือ Good Corporate Citizenship ด้วย” นายรัฐพล กล่าวเสริม
การจัดค่ายในครั้งนี้นี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สโมสรฯ ได้ปลูกฝังนักกีฬาในสโมสรฯ ให้เป็นผู้มีจิตอาสา รู้จักการแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น และเป็นคนดีควบคู่ไปกับการพัฒนาความสามารถทางด้านกีฬา ซึ่งนอกจากกิจกรรมค่าย สโมสรฯ ยังได้สนับสนุนอุปกรณ์กีฬา เช่น โต๊ะและลูกปิงปองให้กับชมรมกีฬาเทเบิลเทนนิสจังหวัดชัยภูมิ เพื่อช่วยเหลือให้ชมรมมีอุปกรณ์ที่มีคุณภาพใช้งาน หลังจากที่อุปกรณ์เดิมเสียหายจากเหตุอุทกภัย รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาทักษะกีฬาปิงปองให้กับเยาวชนในจังหวัดชัยภูมิอีกด้วย