มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ (CER) เปรียบเทียบกับช่วง 6 เดือนเดียวกัน สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2561
อัตราการเติบโตที่รายงานคิดจากอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ตามรายละเอียดด้านล่าง
การเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่แข็งแกร่งอย่างมาก
- มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เป็น 2,275 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เป็น 3,443 ล้านเหรียญสหรัฐ
- อัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 6.2 จุด คิดเป็นร้อยละ 65.6
กำไรจากการดำเนินงานและผลตอบแทนเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
- กำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 คิดเป็นมูลค่า 2,898 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มูลค่าธุรกิจในส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (EV operating profit) เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 คิดเป็นมูลค่า 4,523 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ผลตอบแทนจากการดำเนินงานต่อมูลค่าธุรกิจ (operating ROEV) เพิ่มขึ้น 30 bps เป็นร้อยละ 3
กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและสถานะเงินกองทุนที่มั่นคง
- มูลค่าหุ้นตามมูลค่าธุรกิจ (EV Equity) เท่ากับ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีมูลค่าธุรกิจ (EV) เท่ากับ 59.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากวันที่ 31 ธันวาคม 2561
- ส่วนเพิ่มขึ้นของเงินกองทุนส่วนเกิน ( Underlying free surplus generation) คิดเป็นเป็นมูลค่า 2,804 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15
- มีเงินกองทุนส่วนเกิน (Free surplus) มูลค่า 16.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากวันที่ 31 ธันวาคม 2561
- อัตราส่วนของเงินกองทุน (Solvency ratio) ตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลของฮ่องกง เอไอเอ มี อัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 415
เงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
- เงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 คิดเป็นมูลค่า 33.30 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น
นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า เอไอเอ มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราการเติบโตของตัวชี้วัดหลักด้านการเงินที่เพิ่มขึ้นถึงสองหลักในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเอไอเอ โดยกลุ่มบริษัทเอไอเอมีมูลค่าธุรกิจใหม่เติบโตขึ้นร้อยละ 20 คิดเป็น 2,275 ล้านเหรียญสหรัฐ และยังมีการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 และเงินกองทุนส่วนเกินเพิ่มขึ้นร้อยละ 15
คณะกรรมการบริษัทของกลุ่มบริษัทเอไอเอยังได้ประกาศเงินปันผล ระหว่างกาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ในปี 2562 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางการเงินของเอไอเอ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจถึงภาพรวมในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเอไอเอ
ธุรกิจของเอไอเอในประเทศจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่รวดเร็วที่สุด ด้วยอัตราการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 34 ผมมีความยินดีที่ศูนย์ให้บริการการขายในเมืองเทียนจิน และเมืองฉือเจียจวง ในมณฑลเหอเป่ย ได้เริ่มดำเนินงานไปเมื่อสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในขณะที่ธุรกิจของเราในฮ่องกงยังคงดำเนินงานได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการเติบโตร้อยละ 19 ของมูลค่าธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายฐานลูกค้าและช่องทางการขายของเรา
สำหรับการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ในประเทศไทย และประเทศมาเลเซียนั้น เป็นผลมาจากการมุ่งมั่นพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตให้มีความเป็นมืออาชีพ และความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจของเราผ่านช่องทางการขายผ่านธนาคาร ในขณะที่ตลาดอื่นๆ ของเอไอเอ มีการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ ร้อยละ 17 ซึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในประเทศออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
ช่องทางการขายผ่านตัวแทนของเอไอเอ สามารถสร้างการเติบโตร้อยละ 21 ของมูลค่าธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของกลยุทธ์พรีเมียร์ เอเจนซี (Premier Agency) ในการเพิ่มจำนวนตัวแทนที่มีคุณภาพ ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เอไอเอยังคงเป็นอันดับหนึ่งจากทั่วโลกที่มีสมาชิกสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม (MDRT) มากที่สุด ด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 12,000 คน ในขณะเดียวกันมูลค่าธุรกิจใหม่จากพันธมิตรธุรกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของความร่วมมือกับหลากหลายธนาคารทั่วทั้งภูมิภาค
นอกจากนี้ ในเดือนมิถุนายน เอไอเอยังได้รับรางวัล แบรนด์ประกันชีวิต อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia’s Number One Insurance Brand)* ตอกย้ำคำมั่นสัญญาของเอไอเอ ‘Healthier, Longer, Better Lives-เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ในการเดินหน้าเป็นหุ้นส่วนชีวิตแก่ลูกค้าของเรา อีกทั้งความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของเอไอเอ ไวทัลลิตี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยเรามีจำนวนสมาชิกเอไอเอ ไวทัลลิตี้มากกว่า 1.5 ล้านคน สิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน
การดำเนินงานอย่างยอดเยี่ยมในครึ่งปีแรก ประจำปี 2562 ของเอไอเอ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์ พร้อมด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บวกกับรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย มั่นคง และมีคุณภาพ ทำให้เอไอเอสามารถเติบโตในตลาดประกันชีวิตของเอเชียได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน
ในขณะที่เราเฉลิมฉลองการครบรอบ 100 ปีของกลุ่มบริษัทเอไอเอ เรามีความมั่นใจอย่างมากถึงศักยภาพในระยะยาวของเอไอเอ และเราจะเดินหน้าในการสร้างมูลค่าที่เติบโตและยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นของเรา รวมถึงการช่วยให้ผู้คนนับล้านมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น (Healthier, Longer, Better Lives)