ได้รายงานต่อคณะกรรมการบริหาร ถึงความตั้งใจในการเกษียณอายุจากตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในกลุ่มบริษัทเอไอเอ และบริษัทในเครือ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2563
คณะกรรมการบริษัทประกาศแต่งตั้งให้นายลี หยวน ซอง เป็นว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 โดยจะเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายอึง เค็ง ฮุย ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563
นายลี หยวน ซอง ในวัย 54 ปี มีประสบการณ์การทำงานด้านประกันมายาวนานกว่า 30 ปี โดยตำแหน่งก่อนหน้า คือ กรรมการบริหาร บริษัท ผิงอัน อินชัวรันส์ กรุ๊ป (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2556 และได้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจประกัน ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งที่บริษัท ผิงอัน อินชัวรันส์ กรุ๊ป นายลีได้ดำรงตำแหน่งอาวุโสหลากหลายตำแหน่งในบริษัท พรูเด็นเชียล ของสหราชอาณาจักร รวมถึงตำแหน่งประธานของบริษัท CITIC-พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตร่วมทุนในจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้ นายลี ยังมีประสบการณ์สูงในการดำเนินธุรกิจในตลาดต่างๆ ของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน (จีน) ไทย และเวียดนาม เขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ และจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ อีกทั้งยังเป็นสมาชิกในภาคีของสมาคมนักคณิตศาสตร์ประกันภัย (สหรัฐอเมริกา)
นายเอ็ดมันด์ ซือ ประธานอิสระ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “นายลี หยวน ซอง มีประวัติการทำงานและความเป็นผู้นำในวงการประกันชีวิต และมีความพร้อมที่จะสืบทอดหน้าที่อันยิ่งใหญ่ต่อจาก นายอึง เค็ง ฮุย ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ การแต่งตั้งครั้งนี้ เป็นการคัดเลือกของคณะกรรมการบริหาร ผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะมาเข้ารับตำแหน่งสืบทอดจากนายอึง เค็ง ฮุย”
“ในฐานะตัวแทนของคณะกรรมการบริหาร ผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อนายอึง เค็ง ฮุย ที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อเอไอเอมาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ รวมถึงตำแหน่งก่อนหน้าในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาค”
“ตลอดระยะเวลาการทำงานที่เอไอเอ และมากกว่า 40 ปีในธุรกิจประกัน นายอึง เค็ง ฮุย ได้แสดงความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยม เขาช่วยผลักดันให้เอไอเอประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด เรารู้สึกซาบซึ้งกับการทำงานของเขาและรากฐานที่เขาได้วางไว้ ให้กับผู้บริหารรุ่นต่อ ๆ ไปของเอไอเอ”
“คณะกรรมการบริหาร มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายอึง เค็ง ฮุย ยังคงเป็นที่ปรึกษา และให้การสนับสนุนในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ ผมรู้สึกยินดีที่เขาตกลงจะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสในคณะกรรมการบริหาร และเราทุกคนขอให้เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ”
ตัวชี้วัดหลักทางการเงินของเอไอเอ เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงระยะเวลาที่นายอึง เค็ง ฮุยดำรงตำแหน่ง เห็นได้จากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามจริง มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตขึ้นร้อยละ 42 เป็น 2,275 ล้านเหรีญสหรัฐ และกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษี (OPAT) เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 เป็น 2,898 ล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าหุ้นตามมูลค่าธุรกิจ (EV Equity) เพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เป็น 61.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเงินปันผลของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ในช่วงเวลาเดียวกัน
นายลี หยวน ซอง กล่าวว่า “จากที่ได้เห็นการเติบโตทางธุรกิจอันยอดเยี่ยมของเอไอเอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผมมีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับโอกาสให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่งเอไอเอ มีทีมผู้บริหารที่โดดเด่น และผมเฝ้าคอยที่จะได้ร่วมทำงานกับพวกเขา เพื่อสร้างผลการทำงานที่ยอดเยี่ยมต่อไป ผมมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้เอไอเอสามารถใช้โอกาสที่มีอยู่ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้น และช่วยเหลือผู้คนนับล้านให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น (Healthier, Longer, Better Lives)”
นายอึง เค็ง ฮุย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า “ผมมีความสุขกับชีวิตการทำงานในฐานะผู้บริหารในธุรกิจประกันชีวิต และการได้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัทเอไอเอ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ทรงเกียรติของชีวิตการทำงานของผม ผมมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับทีมงานของพวกเรา และความสำเร็จของกลุ่มบริษัทเอไอเอ ในช่วงระหว่างการทำงานของผมที่นี่ ผมได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากคณะกรรมการบริหาร รวมทั้งความทุ่มเท ความเป็นมืออาชีพ และความร่วมมือจากทีมงานผู้บริหารในกลุ่มบริษัทเอไอเอ และในทุกประเทศที่เอไอเอ ดำเนินธุรกิจอยู่ สิ่งที่ทำให้เอไอเอแตกต่างจากคู่แข่งคือ คุณภาพและศักยภาพของพนักงาน ตัวแทน และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ทำงานอย่างไม่เหน็ด
เหนื่อย และมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งที่จะทำให้เราพัฒนาวิธีการสร้างการมีส่วนร่วม และการบริการแก่ลูกค้าของเราอย่างดีที่สุด”
“ผมรู้จัก นายลี หยวน ซอง มามากกว่า 20 ปี เขาเป็นคนที่มีประสบการณ์การทำงานสูงในธุรกิจประกันชีวิตในตลาดเอเชีย และมีความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาและผลักดันการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ได้สำเร็จ นอกจากประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยม เขาได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผลักดันการใช้นวัตกรรม และสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนในระยะยาวในธุรกิจประกัน ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งต่อตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ให้กับบุคคลที่ผมมอบความไว้วางใจอย่างสูง และผมมั่นใจว่าเอไอเอ จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้นไปภายใต้การนำของเขา”
“เอไอเอ เป็นบริษัทชั้นนำ ที่มีเป้าหมายสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และมีบุคลากรที่เต็มเปี่ยมด้วยความสามารถ ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ากลุ่บบริษัทเอไอเอจะประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไปในอนาคต”
เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเอไอเอ
กลุ่มบริษัทเอไอเอ และบริษัทในเครือ (รวมเรียกว่า “เอไอเอ” หรือ “กลุ่มบริษัทเอไอเอ”) เป็นกลุ่มบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และมีการบริหารจัดการอย่างอิสระ มีบริษัทในเครือและสำนักงานสาขาใน 18 ประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งในประเทศฮ่องกง ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน (จีน) เวียดนาม นิวซีแลนด์ มาเก๊า บรูไน และกัมพูชา และเป็นผู้ถือหุ้น 97% ในบริษัทในเครือในประเทศศรีลังกา และถือหุ้นร่วมทุน 49% ในประเทศอินเดีย ในเดือนเมษายน 2562 เอไอเอได้รับการอนุมัติในการเป็นสำนักงานผู้แทนในประเทศเมียนมา
เอไอเอเริ่มต้นธุรกิจครั้งแรกในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อศตวรรษที่ผ่านมา ในปี 2462 โดยเป็นผู้นำตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในด้านเบี้ยประกันภัยรับจากธุรกิจประกันชีวิต และเป็นผู้นำตลาดโดยส่วนใหญ่ในภูมิภาคโดยมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 ที่ 256 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กลุ่มบริษัทเอไอเอนำเสนอผลิตภัณฑ์ในการออมเงินระยะยาวและความคุ้มครองชีวิตแก่ลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ทั้งการประกันชีวิต การประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ และการวางแผนทางการเงินในวัยเกษียณ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทเอไอเอยังให้บริการลูกค้าองค์กรผ่านผลิตภัณฑ์สวัสดิการพนักงาน ประกันสินเชื่อ และให้บริการเป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านเครือข่ายตัวแทน พันธมิตรและพนักงานทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเอไอเอมีลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตรายบุคคลที่มีผลบังคับมากกว่า 34 ล้านกรมธรรม์ และเป็นสมาชิกกรมธรรม์ประกันกลุ่มมากกว่า 16 ล้านคน
กลุ่มบริษัทเอไอเอจดทะเบียนในกระดานหุ้นหลักของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ภายใต้รหัสหลักทรัพย์ 1299 สำหรับ American Depositary Receipts (ระดับ 1) มีการซื้อขายหลักทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ (Over-the-Counter) ภายใต้สัญลักษณ์ AAGIY