ทั้งการนำเงินออมไปลงทุนกับหุ้น ลงทุนในกองทุนรวม หรือแม้แต่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นการออมเงินในรูปแบบของการลงทุนที่จะช่วยเพิ่มพูนเงินออมในวันนี้ให้งอกเงยขึ้นเป็นผลกำไรในอนาคต ในขณะเดียวกัน เราต่างทราบกันดีว่าโรคภัยอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่เราคิด ฉะนั้นอีกหนึ่งการลงทุนที่ชาญฉลาดในยุคนี้ก็คือการทำประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพราะในปัจจุบันการเข้าถึงการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยในเวลาอันรวดเร็วมักตามมาด้วยค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูง ประกันสุขภาพจะให้ความคุ้มครองด้านค่ารักษาพยาบาล ถือเป็นการลดความเสี่ยงของค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่กระทบต่อสุขภาพหรือชีวิต แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) ขอแชร์ 4 เทคนิคที่จะช่วยคุณวางแผนและจัดการการลงทุนสำหรับสุขภาพเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพ สร้างความมั่งคั่งทางการเงิน และเสริมความมั่นใจให้กับชีวิต
1) ประกันกลุ่มหรือประกันสังคมอาจไม่ครอบคลุมค่ารักษาทั้งหมด ทำประกันสุขภาพเสริมความคุ้มครอง เพิ่มความครอบคลุมค่าใช้จ่าย เสริมความมั่นคงทางการเงิน แม้ว่าคุณจะมีประกันกลุ่ม ประกันสังคม หรือกองทุนประกันชีวิตแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ามูลค่าความคุ้มครองจากประกันเหล่านี้เป็นเพียงการให้การรักษาที่ครอบคลุมขั้นพื้นฐาน ซึ่งการซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเติมนับว่าเป็นการเพิ่มความอุ่นใจและคุ้มค่า เพราะเป็นการจ่ายเพิ่มเติมเพื่อสิทธิ ประโยชน์ความคุ้มครองที่มากขึ้น คุ้มครองอย่างต่อเนื่อง และยังมีสิทธิพิเศษในการรักษาพยาบาลในทุกรูปแบบ ทำให้คุณมีตัวเลือกในการเข้ารักษาพยาบาล ทั้งในกลุ่มโรงพยาบาลรัฐบาลหรือเอกชน ยิ่งในช่วงของการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลที่ทำให้โรคหลายชนิดแพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น ซื้อประกันสุขภาพไว้ก่อนอุ่นใจมากกว่า เช่น ประกันสุขภาพยูนิเวอร์แซลพลัส จาก LMG Insurance ที่คุ้มครองครอบคลุมการเจ็บป่วยจากทั่วโลกไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุ้มครองค่ารักษาสูงสุดถึง 2 ล้านบาทต่อการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลครั้งใดครั้งหนึ่ง และคุ้มครองค่าห้องสูงสุด 8,000 บาทต่อวัน สูงสุดถึง 365 วัน โดยไม่ต้องสำรองจ่ายกับโรงพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 300 แห่งทั่วประเทศ
อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อความคุ้มค่าคือการทำประกันสุขภาพแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) โดยเมื่อคุณเจ็บป่วย จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลส่วนแรกเองตามจำนวนความรับผิดส่วนแรกที่คุณเลือกไว้ตอนสมัครประกัน หากมีค่ารักษาพยาบาลที่เกินมาจากจำนวนความรับผิดส่วนแรก กรมธรรม์ประกันสุขภาพนี้จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่ระบุไว้ เหมาะสำหรับคนที่มีสวัสดิการประกันสุขภาพกลุ่มอยู่แล้ว เพราะเมื่อเจ็บป่วยคุณสามารถใช้สิทธิ์รักษาจากประกันกลุ่มก่อน และเบิกค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากแผนประกันสุขภาพที่คุณได้เลือกซื้อเพิ่มเติม ซึ่งประกันรูปแบบนี้จะมีเบี้ยประกันถูกกว่าประกันสุขภาพทั่วไป เช่น แผนประกันสุขภาพ V-Better Care จากวิริยะประกันภัย คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลด้วยเบี้ยประกันแบบสบายกระเป๋า คุณสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองรูปแบบความรับผิดส่วนแรก เพื่อรับส่วนลดเบี้ยประกันต่อปีสูงสุดถึง 50% จากเบี้ยประกันปกติหากคุณประกอบอาชีพอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์ หรือค้าขาย ก็อุ่นใจได้แม้ต้องหยุดงานไปรักษาอาการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ประกันชดเชยรายได้จะช่วยให้คุณได้รับเงินชดเชยรายวันขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล เราขอแนะนำประกันชดเชยรายได้จาก FWD กรณีเป็นผู้ป่วยใน คุณจะได้รับเงินค่าสินไหมเพื่อชดเชยรายได้ขณะหยุดงานและเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลตามวงเงินที่เลือกไว้ ด้วยวงเงินชดเชยรายได้รายวันสำหรับห้องผู้ป่วยปกติสูงสุด 4,000 บาทต่อวัน และสำหรับห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) สูงสุด 8,000 บาทต่อวัน โดยสามารถแจ้งและส่งเอกสารการเคลมเพื่อเบิกค่าสินไหมทดแทนผ่านช่องทางออนไลน์ได้
นอกจากนี้ ประกันสุขภาพยังสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 25,000 บาท การทำประกันสุขภาพจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือเป็นการวางแผนการเงิน
ที่รอบคอบและช่วยเสริมความมั่นคงด้านการเงินของคุณ
2) คิดเผื่อวันข้างหน้าด้วยการทำประกันชีวิต เพิ่มอิสระทางการเงิน พร้อมลดหย่อนภาษี เสริมความมั่นใจแม้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพราะความไม่แน่นอนของชีวิตเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้บาดเจ็บหรือถึงแก่ชีวิต ฉะนั้นการวางแผนทางการเงินด้วยการทำประกันชีวิตจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามและควรเริ่มทำตั้งแต่เนิ่น ๆ ในตอนที่อายุยังน้อย เพื่อให้เงินออมของเราเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มอิสระทางการเงินเมื่อมีอายุมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท เช่นเดียวกันกับการทำประกันสุขภาพ ทำให้มั่นใจตั้งแต่วันนี้ว่าคุณจะมีความมั่นคงทางการเงินเมื่อถึงวัยเกษียณ และคนที่คุณรักจะได้รับมรดกหรือเงินทุนเพื่อนำไปใช้จ่ายหรือต่อยอดเรื่องอื่น ๆ ต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อประกันภัยเพิ่มเติมที่คุ้มครองโรคร้ายแรงให้ตรงกับความเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตหรือความเสี่ยงทางพันธุกรรม เพื่อเสริมทางเลือกความคุ้มครองที่ครอบคลุมตามความต้องการส่วนบุคคลของคุณ
3) ให้ทุกการใช้จ่ายคล่องตัวและคุ้มค่ากว่าที่เคยด้วยบัตรเครดิต เสริมให้คุณบริหารการเงินได้ดียิ่งขึ้น บัตรเครดิตนั้นเป็นตัวช่วยที่เอื้อให้เราสามารถจัดการด้านการเงินได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่สามารถใช้จ่ายแทนเงินสดและผ่อนชำระแบบดอกเบี้ย 0% ภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมทั้งสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย เช่นสะสมคะแนนเพื่อแลกรับส่วนลดในการซื้อสินค้าหรือบริการ หรือรับเครดิตเงินคืนสำหรับการใช้จ่ายครั้งต่อไป และยังสามารถใช้เงินแบบเร่งด่วนหรือฉุกเฉินเมื่อมีความจำเป็น ประโยชน์ของการมีบัตรเครดิตที่ดีจะช่วยให้คุณวางแผนด้านการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้คุณบริหารการเงินและเสริมความมั่งคั่งให้กับเจ้าของบัตรได้อีกด้วย
4) ให้คุณได้ใช้ชีวิตตามที่ใฝ่ฝัน ให้สินเชื่อเติมเต็มทุกเป้าหมายในชีวิตคุณ บางเหตุการณ์ในชีวิตอาจนำเราไปสู่จุดที่ต้องใช้เงินสดเพื่อนำไปหมุนเวียนเมื่อมีเหตุจำเป็น หรือเพื่อต่อยอดความฝันให้กลายเป็นจริง สินเชื่อจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ สินเชื่อมีหลายประเภท ทั้งสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถ และสินเชื่อบ้าน เป็นต้น หนึ่งเทคนิคที่ช่วยให้คุณจัดสรรการเงินได้ดียิ่งขึ้นนั่นคือการรวมหนี้ไว้เป็นก้อนเดียว ในกรณีที่คุณมีหนี้สินจากหลายช่องทาง การกู้ยืมเงินก้อนมาปิดหนี้ทุกช่องทางเพื่อจ่ายดอกเบี้ยเพียงช่องทางเดียว จะช่วยให้คุณสามารถลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนลงได้ อีกทั้งบางธนาคารยังให้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและให้ระยะเวลาการผ่อนที่นานกว่า ทำให้คุณสามารถบริหารเงินและหมุนเวียนเงินได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนั้น การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมกับคุณจึงเป็นการวางแผนที่ช่วยให้คุณบริหารทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ช่วยให้คุณมีเงินก้อนสำรองสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉินโดยไม่ต้องใช้คนหรือทรัพย์สินค้ำประกัน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือน นอกจากนี้ ดอกเบี้ยจากสินเชื่อบ้านยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน สินเชื่อจึงช่วยเสริมความมั่งคั่งและสภาพคล่องทางการเงินเมื่อควบคู่ไปกับการบริหารจัดการอย่างมีวินัย
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ทางการเงินและแผนประกันนั้นมีจำนวนมาก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป การพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินและแผนประกันที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์อาจต้องใช้เวลานานในการศึกษาและเปรียบเทียบข้อมูลและเงื่อนไขต่าง ๆ แต่ด้วยระบบปฏิบัติการความแคร์ หรือ “CareOS” ของ แรบบิท แคร์ กับครั้งแรกในประเทศไทยที่รวบรวมและคัดเลือกผลิตภัณฑ์จากแผนประกันมากกว่า 40,000 แผนประกัน และผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อมากกว่า 50 ตัวเลือก จากพาร์ทเนอร์ชั้นนำกว่า 50 ราย มานำเสนอตามข้อมูลความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ โดยระบบปฏิบัติการนี้จะเข้ามาช่วยให้กลุ่ม Chief Family Officer (CFO) หรือผู้ที่มีบทบาทหน้าที่ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดให้กับครอบครัว สามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินและแผนประกันที่ความคุ้มครองครอบคลุมถึงความต้องการภายใน 30 วินาที ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคลได้ดียิ่งกว่าที่เคย เริ่มลงทุนวันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเดิม สามารถตรวจสอบโปรโมชั่นมากมายได้ที่แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) (คลิก)