ธนาคารกรุงไทย เตรียมเปิดขายพันธบัตรออมทรัพย์ วอลเล็ต สบม. ครั้งที่ 7 รุ่น “สุขใจให้ออม” วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท บนแอปฯ เป๋าตัง เพื่อกระตุ้นการออมอย่างทั่วถึง และการลงทุนเป็นเรื่องง่าย ทำรายการได้ทุกที่ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท รับดอกเบี้ยสูงสุด 3% ต่อปี ตั้งแต่ 7-20 ธันวาคมนี้
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเปิดจําหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์วอลเล็ต สบม. ครั้งที่ 7 รุ่น “สุขใจให้ออม” บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง จำนวน 2 รุ่น คือ รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2.3% ต่อปี และอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.0% ต่อปี วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท สูงสุด 20 ล้านบาทต่อคน จําหน่ายให้บุคคลธรรมดา สัญชาติไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 7-20 ธันวาคม 2565
พันธบัตรวอลเล็ต สบม. รุ่น “สุขใจให้ออม” เป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์เรื่องการออมเงิน เพราะความเสี่ยงต่ำและได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ หลังจากรับดอกเบี้ยงวดที่สอง และถือพันธบัตรมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน สามารถขายต่อในตลาดรอง ผ่านแอปฯ เป๋าตังได้ทุกวัน 24 ชั่วโมง รับเงินทันที ไม่มีค่าธรรมเนียม
โดยธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบโจทย์การออมและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นการออมอย่างทั่วถึงและยั่งยืน (Encourage Investment) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเยาวชนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป เข้าถึงการลงทุนพันธบัตรได้ง่ายและเท่าเทียมผ่านช่องทางดิจิทัล
ธนาคารยังได้ร่วมจําหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์รุ่น “สุขใจให้ออม” โดยเปิดขายให้นักลงทุนทั่วไปอีก 2 รุ่น อายุ 3 ปี และ 7 ปี วงเงินรวม 40,000 ล้านบาท เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจําหน่ายระหว่างวันที่ 13-14 ธันวาคม 2565 (ไม่จำกัดวงเงินซื้อสูงสุด) รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2.3% ต่อปี และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 3.0% ต่อปี เปิดจำหน่ายผ่าน Krungthai NEXT และธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนวงเงินอีก 5,000 ล้านบาท เป็นรุ่นอายุ 10 ปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน จําหน่ายให้กับสภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ และองค์กรอื่นที่ไม่แสวงหากําไร จ่ายอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ 2.9% ต่อปี
ขั้นตอนการลงทุนพันธบัตรวอลเล็ตสบม. สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยขั้นตอนคือ
-ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง
-เปิดใช้งานวอลเล็ต สบม.
-โอนเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ด้วย Wallet ID หรือ QR PromptPay ผ่าน Mobile Banking ของทุกธนาคาร
-เลือกรุ่นพันธบัตรที่ต้องการซื้อ
-ระบุจํานวนเงิน
-กดยืนยันการชําระเงิน ด้วยรหัส 6 หลัก (PIN)
------จะได้รับหลักฐานป็น E-Slip Payment ที่จัดเก็บในมือถือโดยอัตโนมัติ
สําหรับลูกค้าแอปฯ Krungthai NEXT ที่ต้องการปรับวงเงินเพื่อโอนเข้าวอลเล็ต สบม. เพื่อซื้อพันธบัตร สามารถทํารายการผ่านแอปฯ Krungthai NEXT ได้ทันที ขณะที่ลูกค้าที่มีบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทยสามารถผูกบัญชีกับวอลเล็ตสบม. โดยระบบจะตัดยอดเงินบัญชีอัตโนมัติ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.krungthai.com หรือติดต่อ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111
“ธนาคารกรุงไทย" ขยายพันธมิตร สร้างตลาดทองออนไลน์ โดยเปิดตัว “ARR Gold Trading” ร้านทองแห่งที่ 3 ใน Gold Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง เพิ่มทางเลือกผู้ลงทุน เริ่มให้บริการตั้งแต่ 22 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า การลงทุนทองคำออนไลน์ผ่านบริการ Gold Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้รับกระแสตอบรับดีอย่างต่อเนื่องจากผู้ลงทุน ด้วยบริการที่ครอบคลุมทั้งการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย-ถอนทองออนไลน์อย่างครบวงจร พร้อมบริการรายงานความเคลื่อนไหวราคาทองและอัตราแลกเปลี่ยนผ่าน Krungthai Connext สะท้อนจากปริมาณการเปิดบัญชีและจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด มีจำนวนบัญชี Gold Wallet มากกว่า 140,000 บัญชี
ธนาคารเดินหน้าขยายพันธมิตรร้านทองใน Gold Wallet อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ได้จับมือกับ บริษัท ออโรร่า เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ให้บริการ ARR Gold Trading ซึ่งเป็น บริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ความน่าเชื่อถือ ทำธุรกิจมายาวนาน และเป็นที่รู้จักของนักลงทุนทั่วไป โดยเป็นพันธมิตรรายที่ 3 ของ Gold Wallet พร้อมเปิดให้ซื้อ-ขายทองกับ ออโรร่า โกลด์ เทรดดิ้ง (ARR Gold Trading) ผ่าน Gold Wallet ในแอปเป๋าตัง ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป
บนเป้าหมายเพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ผ่านช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform เปิดกว้างให้ทุกคนเข้ามาใช้งาน แม้ไม่มีบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย พร้อมจับมือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ ทำให้ธนาคารก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำการลงทุนดิจิทัล ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”
การลงทุนทองผ่าน Gold Wallet มีจุดเด่นด้วยบริการที่ครบวงจร ซื้อ-ขายทองขั้นต่ำเพียง 0.1 ออนซ์ หรือเท่ากับ 6,000 บาท (ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลาซื้อ-ขาย) สามารถส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย ผ่านแอปฯ เป๋าตัง โดยไม่มีค่าธรรมเนียม สามารถเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ซื้อ-ขายทองผ่านแอปฯ ด้วยสกุลดอลลาร์สหรัฐ USD อ้างอิงราคาตลาดโลก ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ธนาคารกรุงไทย” เดินหน้าตอบโจทย์ผู้ลงทุน เปิดเทรดทองออนไลน์ครบวงจรกับ “วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล” ร้านทองชั้นนำของไทย ผ่าน Gold Wallet บนแอปฯเป๋าตัง นับเป็นพันธมิตรรายที่ 2 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.65 เป็นต้นไป
นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการลงทุน เพื่อตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกกลุ่มผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างครบวงจร ครอบคลุมทั้งพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ดิจิทัล และการลงทุนทองคำออนไลน์ ล่าสุด ธนาคารจับมือกับ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร้านค้าทองชั้นนำของไทย เปิดซื้อขายทองออนไลน์ครบวงจร ผ่านบริการ Gold Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งนับเป็นพันธมิตรรายที่ 2 เพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับผู้ลงทุน ในการซื้อ-ขาย-ถอนทองออนไลน์ 99.99% ได้แบบเรียลไทม์ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และทันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป
ธนาคารมีเป้าหมายพัฒนา Gold Wallet บนแอปฯเป๋าตัง ให้เป็นตลาดซื้อ-ขาย-ถอนทองคำออนไลน์แบบครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน จากการเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยบริการที่ครอบคลุม ทั้งการส่งคำสั่งซื้อ-ขาย-ถอนทองออนไลน์ พร้อมบริการรายงานความเคลื่อนไหวของราคาทอง และอัตราแลกเปลี่ยน ผ่านช่องทาง Krungthai Connext ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณการเปิดบัญชี Gold Wallet รวมจำนวน 140,000 บัญชี
“ทิศทางการลงทุนทองคำ มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดบัญชีและปริมาณการซื้อ-ขายที่เพิ่มขึ้นมาก ธนาคารจึงขยายความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อเพิ่มจำนวนร้านค้าทองใน Gold Wallet และมีแผนขยายความร่วมมือเพิ่มขึ้นอีกเร็วๆนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุน และสร้างผลตอบแทนการลงทุนกับร้านทองชั้นนำในประเทศ ที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานทั้งด้านราคา และคุณภาพเพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ การลงทุนทองคำออนไลน์ผ่าน Gold Wallet มีความสะดวก ง่าย และปลอดภัย ด้วยจุดเด่น ซื้อ-ขายทองขั้นต่ำ 0.1 ออนซ์ หรือเท่ากับ 6,000 บาท (ขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลาซื้อ-ขาย) สามารถส่งคำสั่ง ซื้อ-ขาย ผ่านแอปฯเป๋าตัง โดยไม่มีค่าธรรมเนียม สามารถเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่กำหนดวงเงินขั้นต่ำ ซื้อ-ขายทองผ่านแอปฯด้วยสกุลดอลลาร์สหรัฐ USD โดยอ้างอิงราคาตลาดโลก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา และ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111