December 28, 2024

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) ร่วมลงนามในสัญญาให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งครอบคลุมการค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของกลุ่ม SSP ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

นับเป็นครั้งแรกของการเปิดตัวบริการด้านวาณิชธนกิจของ EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ภายใต้บทบาท Green Development Bank โดยแตกต่างจากสถาบันการเงินอื่น กล่าวคือ EXIM BANK มุ่งเน้นให้คำปรึกษาทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ จัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ รวมถึงค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) โดยใช้จุดแข็งของธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการทางการเงินเพื่อขับเคลื่อนการค้าการลงทุนที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและภาคการส่งออกของไทย ทั้งนี้ ในปี 2567 EXIM BANK ได้รับจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha) แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ขณะที่กลุ่มเสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ประกอบการพลังงานทดแทนชั้นนำของไทยที่มีศักยภาพและมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากลุ่ม SSP ประสบความสำเร็จในการลงทุนด้านโครงการพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ กำลังผลิตรวมกว่า 280 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตรวมเติบโตกว่า 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2575 สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกของไทย

 

“EXIM BANK เปิดตัวบริการใหม่ด้านวาณิชธนกิจ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจและบริการตอบสนองความคาดหวังและความต้องการของผู้ประกอบการไทย รวมทั้งสนับสนุนให้ธุรกิจไทยทุกขนาดมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศมาอย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การดำเนินกิจการโดยคำนึงถึง ESG อันจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจไทยและเสริมสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมคู่ขนานกันไปอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์ กล่าว

นางสาวรุจิกร แสงจันทร์ ประธานกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการพัฒนาอย่างยั่งยืน (CG & SD) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) พร้อมด้วย ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK นำคณะผู้บริหารและพนักงาน EXIM BANK มอบพันธุ์ผักสวนครัวให้กับ นายสิทธิพล พรมมินทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนภูคาวิทยาคม เพื่อนำไปปลูกเป็นแหล่งอาหารปลอดภัย ลดรายจ่าย และส่งเสริมโภชนาการสำหรับอาหารกลางวันเด็กนักเรียน พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเกษตร และแนวทางประกอบอาชีพในอนาคตให้แก่นักเรียน ภายใต้โครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility : CSR) “EXIM เพื่อสุขภาพชุมชน” ซึ่ง EXIM BANK ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่และปลูกผักสวนครัวเพื่ออาหารกลางวันนักเรียน โครงการน้ำดื่มสะอาดเพื่อสุขภาพที่ดีของนักเรียน โครงการปรับปรุงสนามเด็กเล่นและห้องสมุด ตามนโยบาย CSR เพื่อพัฒนาชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความเข้มแข็ง ต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของท้องถิ่นและประเทศชาติ ณ โรงเรียนภูคาวิทยาคม อำเภอปัว จังหวัดน่าน เมื่อเร็ว นี้

 

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ร่วมลงนามกับ ดร.ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK จำนวน 900 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจให้ บวท. นำไปขยายการให้บริการ ยกระดับศักยภาพเพื่อรองรับจำนวนเที่ยวบินในประเทศที่กำลังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ณ บวท. สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า การสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK ในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ บวท. มีแผนจะยกระดับขีดความสามารถและศักยภาพในการให้บริการจราจรทางอากาศ อันเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจการบิน การท่องเที่ยว การค้าและการลงทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางอากาศและการพัฒนาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) รับรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น ประจำปี 2567” ประเภทองค์กรรัฐวิสาหกิจ จากพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในงานประกาศรางวัลองค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2567 จัดโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เน้นย้ำการดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชนของ EXIM BANK อย่างต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567

ในงานดังกล่าว EXIM BANK ร่วมแสดงนิทรรศการความสำเร็จในการดำเนินงานที่นำหลักสิทธิมนุษยชนมาเป็นพื้นฐานในการบริหารจัดการองค์กรและปฏิบัติงานในทุกระดับ สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างในทุกมิติ ไม่แบ่งแยกเพศ สถานะ และศาสนา ดูแลอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ มุ่งดำเนินบทบาทขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าการลงทุนของไทยให้เติบโตในเวทีโลกอย่างยั่งยืน เช่น การสนับสนุน Development Project ให้ผู้ประกอบการไทยดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) บนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน ผ่านการให้สินเชื่อสีเขียว การออกพันธบัตรสีเขียว (Green Bond) และพันธบัตรสีน้ำเงิน (Blue Bond) รวมทั้ง Blue Financing ซึ่งเป็นการสนับสนุนเงินทุนแก่ธุรกิจที่สร้างความยั่งยืนทางทะเล ตามกรอบการระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance Framework) อันมีส่วนช่วยสร้างระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่ดีอันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยและโลกโดยรวมไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน และความเป็นอยู่ของประชาชน EXIM BANK พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการไทย โดยออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาผลกระทบและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

  1. เพิ่มทุนและโอกาสฟื้นฟูกิจการ
  • เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว สูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม ทั้งนี้ ไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยใช้ อัตราดอกเบี้ยเดิม
  • แปลงภาระหนี้ระยะสั้น เป็นภาระหนี้ระยะยาว ผ่อนชำระสูงสุด 3 ปี
  1. ลดภาระ
  • พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน
  • ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ปีแรกลง 0.50% หรือ จ่ายดอกเบี้ยเพียง 50% ในช่วง 6 เดือนแรก
  1. ขยายระยะเวลา
  • ขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงิน สูงสุด 180 วัน
  • ขยายระยะเวลาเงินกู้ สูงสุด 7 ปี

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย Prime Rate ปัจจุบันเท่ากับ 6.35% ต่อปี

ลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือได้โดยลงทะเบียนผ่าน www.exim.go.th สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ EXIM Contact Center โทร. 0 2169 9999

“EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ขอแสดงความห่วงใยผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ และยินดีช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการด้วยมาตรการเพิ่มทุนและโอกาส เพื่อให้มีสภาพคล่องหมุนเวียนหรือมีเงินทุนสำหรับฟื้นฟูกิจการ ลดภาระการชำระหนี้ โดยพักการชำระเงินต้นและแปลงหนี้เป็นระยะยาว ตลอดจนขยายระยะเวลาตั๋วสัญญาใช้เงินหรือเงินกู้ ทั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างไม่สะดุดและต่อเนื่องท่ามกลางปัญหาและปัจจัยท้าทายต่าง ๆ” ดร.รักษ์ กล่าว

Page 1 of 46
X

Right Click

No right click