

เดินหน้าต่อยอด สร้างมูลค่า เสริมความแกร่งผู้ประกอบการไทย 4 ภาคสู่ระดับสากลด้วยชุดแบรนด์ดิ้งสำเร็จรูป ผสานอัตลักษณ์ท้องถิ่นไทยร่วมสมัย เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี !
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ต่อยอดความสำเร็จ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดตัว “โครงการแบรนดิ้งผลิตภัณฑ์ 4 ภูมิภาค ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย” (Branding 4 Regions) สำหรับผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศ ทั้ง กลาง อีสาน เหนือ ใต้ วางรากฐาน ยกระดับสินค้า สร้างมูลค่าเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก ด้วยกลยุทธ์ Creative Ecosystem อย่างเป็นระบบ พร้อมมอบองค์ความรู้ในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจ ด้วยชุดสร้างแบรนดิ้งสำเร็จรูปพร้อมใช้งาน (Regional Branding Kit) สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นร่วมสมัย ประกอบไปด้วย ธีมและคอนเซ็ปต์ บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในแต่ละภูมิภาค รวมไปถึงแนวทางการสร้างสรรค์โลโก้ โทนสีหลัก ฟ้อนต์ และมีเทมเพลตพื้นฐาน สำหรับนำไปพัฒนา ประยุกต์ใช้กับสินค้า การบริการ และการสื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ บรรจุภัณฑ์ แผ่นรองแก้ว ถุงกระดาษ เทปกาว ปลอกหุ้มแก้ว ซองตะเกียบ เป็นต้น ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

คุณอาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม จาก CEA กล่าวว่า ปัจจุบัน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และมีแนวโน้มที่จะทวีความสำคัญขึ้นเรื่อย ๆ ตัวเลขมูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ยังสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2566 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 15 สาขาของไทยมีมูลค่ารวมสูงถึง 1.44 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 8.01% ของ GDP ประเทศ และก่อให้เกิดการจ้างงานเกือบ 1 ล้านคน โดยในปี 2567 ผู้ประกอบที่เข้าร่วมโครงการของ CEA มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30% จากการเข้าร่วมอบรมกิจกรรมเพื่อยกระดับธุรกิจสร้างสรรค์ พร้อมตั้งเป้าผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตขึ้นอีก 5% ภายในปี 2570 มุ่งเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก

“มูลค่าของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เติบโตขึ้น ปัจจัยหลักมาจากกลยุทธ์การขับเคลื่อน Creative Ecosystem ที่เกิดขึ้นอย่างมีระบบและเป็นรูปธรรม ทั้งการพัฒนา ‘คน’ (Creative Professional), ‘อุตสาหกรรมและธุรกิจสร้างสรรค์’ (Creative Industry & Creative Business) และ ‘พื้นที่’ (Creative Place) โดย CEA ให้ความสำคัญกับการลงทุนในคน ให้มีทักษะและมุมมองเชิงกลยุทธ์ที่ทันต่อเทรนด์ การตลาด มี know-how หรือรู้วิธีการนำความคิดสร้างสรรค์ไปต่อยอดให้กับธุรกิจ ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการยกระดับศักยภาพธุรกิจสร้างสรรค์ไทยให้ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ทั้งภาคการผลิตและบริการ มีการเชื่อมโยงโอกาสใหม่ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกันนี้ต้องเสริมทางด้านกายภาพให้กับเมืองต่าง ๆ สามารถรองรับการมาถึงของโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้พลังของทุนวัฒนธรรมขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์เติบโตอย่างมีทิศทาง ซึ่ง CEA ขับเคลื่อน 3 องค์ประกอบนี้ ก่อให้เกิดการเติบโตที่ส่งเสริมกัน”
ด้านคุณภควัต วงศ์ไทย นักพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจและนวัตกรรมอาวุโส เผยว่า ชุดแบรนดิ้งสำเร็จรูป(Regional Branding Kit) เปรียบเสมือนชุดเครื่องมือพร้อมใช้ สำหรับการเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ที่ผ่านกระบวนการสร้างสรรค์โดยนักออกแบบที่ทำงานร่วมกับพื้นที่ สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่นอย่างร่วมสมัย ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ พร้อมให้ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และภาคธุรกิจนำไปต่อยอดพัฒนาแบรนดิ้งให้กับสินค้าและบริการได้อย่างสะดวกมากขึ้น

“CEA เข้าใจว่าการทำแบรนดิ้งไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกท่านที่มีความพร้อมในการทำแบรนดิ้ง ไม่ว่าจะเป็น ข้อจำกัดเรื่องทุน เวลา หรือความรู้ความเข้าใจ ดังนั้นโครงการ Branding 4 Regions จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยวางรากฐาน ทำให้ผู้ประกอบการเข้าใจและกล้าที่จะเริ่มต้นสร้างแบรนด์ด้วยการหยิบจับเทมเพลตนี้มาปรับให้เข้ากับธุรกิจ สินค้า หรือบริการของตนให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และยังช่วยสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค ให้เด่นชัดขึ้นอีกด้วย”
คุณภควัต ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความสะดวกในการใช้งานอีกว่า “ชุดแบรนดิ้งดังกล่าวนี้ถูกออกแบบมาให้นำไปประยุกต์ใช้ได้ง่าย ไม่ซับซ้อน โดยผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลในชุดแบรนดิ้งสำเร็จรูปนี้ไปช่วยพัฒนาโลโก้, รูปภาพการสื่อสารต่าง ๆ เพื่อการขาย การพัฒนาสินค้าและบริการ รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ อีกมากมายในการสร้างแบรนด์ ช่วยให้ผู้ประกอบการที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องดีไซน์ ไม่มีทุนที่จะไปจ้างดีไซเนอร์ สามารถทดลอง และนำเอาชุดแบรนดิ้งสำเร็จรูปนี้ไปใช้ได้อย่างง่ายดายและเกิดประโยชน์จริง”
แบรนดิ้งผลิตภัณฑ์ 4 ภูมิภาค : สะพานเชื่อมทุนวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่นกับความคิดสร้างสรรค์ระดับโลก ถ่ายทอดรากวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นแบบร่วมสมัย เหมาะสำหรับการต่อยอดสู่สินค้า บริการ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการ ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้สนใจดาวน์โหลดได้ฟรี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสร้างแบรนดิ้งพร้อมใช้ ให้คุณได้มีคู่มือในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจ และร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ ….
Regional Branding Kit :
https://www.cea.or.th/storage/app/media/Project-pdf/FINAL_E-book_Regional_branding_kit.pdf
--
รายละเอียดโครงการเพิ่มเติม
เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 (Bangkok Design Week 2025) ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการออกแบบไทยอีกครั้ง เมื่อ 4 ผลงานสร้างสรรค์ภายในเทศกาลฯ ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ 'The Best of Bangkok Design Week 2025' จาก European Product Design Award (EPDA) ซึ่งเป็นรางวัลที่ยกย่องความเป็นเลิศด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์และส่งผลกระทบในเชิงบวกโดยผลงานที่คว้ารางวัล ได้แก่
1) Sansiri Good Mood Pavilion จาก แสนสิริ

พาวิลเลียนที่จำลองแนวคิดการออกแบบของแสนสิริ ผ่านดีไซน์ที่สะท้อนความใส่ใจในทุกมิติของชีวิต Pavilion แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจและพลังบวก ผ่านการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และผลงานของผู้ชนะโครงการ Artizen ที่รวบรวม 40 นักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ใน 4 สาขาดีไซน์ ได้แก่ Photography, Illustration, Music Composition และ Product Design
2) Tyvek® สร้างความเป็นไปได้อย่างไม่สิ้นสุด จาก DuPont™ Tyvek®

DuPont™ Tyvek® วัสดุสิ่งทอจากเส้นใย HDPE ที่เป็นตัวเลือกใหม่สำหรับวงการออกแบบไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องความเหนียว ทนทาน น้ำหนักเบา และสามารถรีไซเคิลได้ 100% Tyvek® ไม่เพียงช่วยลดขยะหลังจบเทศกาล แต่ยังเปิดโอกาสให้เหล่านักสร้างสรรค์นำไปต่อยอดในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่แฟชั่น บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงงานศิลปะ
3) 500 Cubic Meters of Wind: The Art and Power of Designจาก HATARI x HABITS

นิทรรศการที่มอบประสบการณ์แบบ immersive โดยความร่วมมือระหว่าง Hatari และ Habits Design Studio ที่นำเสนอแนวคิดการออกแบบที่ผสานฟังก์ชันและอารมณ์ ผ่านพลังของลมที่กระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการออกแบบที่ไม่เพียงแค่สร้างความงาม แต่ยังมอบประสบการณ์เชิงลึกที่เชื่อมโยงกับผู้ชมในทุกมิติ
4) หย่อมป่า: เชื่อมพื้นที่ชีวิตดีๆ ที่ยั่งยืน จาก AP Thailand

AP Thailand นำเสนอโครงการ "หย่อมป่า" เพื่อคืนความสมดุลให้ธรรมชาติในกรุงเทพฯ พร้อมสร้างพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมโยงนกและสัตว์นานาพันธุ์ให้กลับคืนมาอย่างยั่งยืน โครงการนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความหลากหลายทางชีวภาพและการพัฒนาพื้นที่สีเขียวที่ส่งเสริมชีวิตที่ดีกว่า
ทั้งนี้ รางวัล ‘The Best of Bangkok Design Week 2025’ มีขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดย European Product Design Award (EPDA) ซึ่งเป็นรางวัลระดับนานาชาติ เพื่อยกย่องบุคคลหรือองค์กรที่รังสรรค์ผลงานการออกแบบที่โดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม พร้อมถ่ายทอดแนวคิดที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมได้อย่างน่าสนใจ
รางวัลนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ ในการเป็นผู้นำจัดเทศกาลสร้างสรรค์นานาชาติประภูมิภาคที่ใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งรางวัลดังกล่าวคัดเลือกจากองค์กรที่ร่วมแสดงผลงานกว่า 200 แห่ง นับเป็นเกียรติยศอันทรงคุณค่า ที่ช่วยขับเคลื่อนวงการออกแบบไทยให้เติบโตและขยายไปสู่วงกว้าง พร้อมเปิดโอกาสให้นักออกแบบทั้งรุ่นใหม่และผู้มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมได้แสดงศักยภาพในระดับโลก
เทศกาลออกแบบกรุงเทพ 2568 (Bangkok Design Week 2025) จัดขึ้นเป็นปีที่ 8 ภายใต้แนวคิด “Design Up+Rising: ออกแบบพร้อมบวก+” มุ่งเน้นการสร้างพลังบวกผ่านงานออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อขับเคลื่อนเมืองและเปิดโอกาสใหม่ในทุกมิติอย่างไร้ขีดจำกัด ตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพในด้านสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตให้พร้อมรับมือกับความท้าทายในโลกปัจจุบัน โดยในปีนี้เทศกาลฯ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 23 กุมภาพันธ์ 2568 ครอบคลุมพื้นที่สร้างสรรค์กว่า 7 ย่านหลัก ได้แก่ เจริญกรุง - ตลาดน้อย, เยาวราช - ทรงวาด, ปากคลองตลาด, พระนคร, ข้าวสาร - บางลำพู, บางโพ และหัวลำโพง รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และดึงดูดผู้เข้าชมจากทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ไม่น้อยกว่า 300,000 คน ตลอดระยะเวลา 16 วันของการจัดเทศกาลฯ
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ Website: www.bangkkokdesignweek.com
Facebook/Instagram: bangkokdesignweek, Twitter: @BKKDesignWeek, Line: @bangkokdesignweek
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยามฯ (ASA) ประกาศผลการประกวดการออกแบบ "ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด" โดยคัดเลือก 10 ทีมนักออกแบบที่มีผลงานโดดเด่นและสร้างสรรค์ ที่จะเป็นผู้ปรับปรุงและออกแบบพื้นที่ New TCDC สถานที่รวบรวมและบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ใน 10 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ 1) เชียงราย 2) นครราชสีมา 3) ปัตตานี 4) พิษณุโลก 5) แพร่ 6) ภูเก็ต 7) ศรีสะเกษ 8) สุรินทร์ 9) อุตรดิตถ์ และ 10) อุบลราชธานี
การประกวดครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยมีทีมผู้เข้าร่วมประกวดถึง 113 ทีม และมีการส่งผลงานเข้ามาถึง 173 ผลงาน สะท้อนให้เห็นถึงความตื่นตัวและความมุ่งมั่นในการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ของประเทศ โดยผลงานที่ชนะการประกวดในครั้งนี้จะถูนำไปพัฒนาเป็นศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ที่จะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของเมือง เป็นแหล่งบ่มเพาะผู้ประกอบการท้องถิ่น และศูนย์รวมองค์ความรู้ในการพัฒนาและต่อยอดสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น เพื่อยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน นับว่าเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในรอบ 20 ปีของ TCDC
สำหรับผู้ชนะการออกแบบ “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ทั้ง 10 จังหวัด” ที่มีผลงานโดดเด่นทั้งในแง่ของความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นไปได้ทางกายภาพ และความสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ จำนวน 10 ทีม ได้แก่
1.TCDC เชียงราย
"TCDC เชียงราย มากับความเชื่อที่ว่า "การออกแบบเชิงสร้างสรรค์สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของคนได้" ออกแบบโดย 1922 Architects (D098) ด้วยแนวคิดหลัก คือ ‘Creative Space for All’ พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อทุกคน โดยการออกแบบศูนย์ฯนี้ มุ่งสอดแทรกความคิดสร้างสรรค์เข้าสู่วิถีชีวิตประจำวันของผู้คน ชุมชน และเมือง
ตัวอาคารถูกออกแบบให้สามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน กระตุ้นการแลกเปลี่ยนไอเดีย และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ลานหน้าศาลากลางหลังเก่าที่มีศักยภาพอยู่แล้ว TCDC เชียงรายจึงไม่เพียงแต่เป็นศูนย์การออกแบบ แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และแรงบันดาลใจสำหรับทุกคนในชุมชน"
2.TCDC นครราชสีมา
TCDC นครราชสีมา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเก่า บนแนวแกนสำคัญที่เชื่อมโยงกับจุดหลัก ของเมือง ออกแบบโดย บริษัท จั่นอาร์คิเทค จำกัด (D132) ภายใต้แนวคิด "CREATIVE URBAN ROOM" เปิดมุมมองของตัวอาคารด้วยวัสดุโปร่งใส สร้างการเชื่อมต่อ Urban Visual Connect ระหว่างพื้นที่ภายใน-นอก และในช่วงเทศกาล อาคารยังถูกออกแบบให้สามารถเปิดประตูบานใหญ่ด้านหน้า เชื่อมต่อพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องและไร้ขอบเขต (Borderless Space) นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยการผสมผสานวัสดุท้องถิ่นอย่างสร้างสรรค์ เช่น ไม้จากเรือนโคราช-เฉลิมวัฒนา เทคนิคก่อสร้างแบบปราสาทหินทราย ลวดลายเส้นพุ่ง เส้นยืนจากการถักทอผ้าไหมโคราช และอิฐดินเผาด่านเกวียนรวมถึงสีดินและลวดลาย โดยนำมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบ Composited Material ที่ผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมกับปัจจุบัน ทั้งยังคำนึงถึงความยั่งยืน(Sustainability)และการนำวัสดุเหลือใช้ (Waste Material) กลับมาใช้ใหม่ ส่งผลให้ TCDC นครราชสีมาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ใจกลางเมืองที่เชื่อมโยงวิถีชีวิตท้องถิ่นสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
3.TCDC ปัตตานี
TCDC ปัตตานี ออกแบบภายใต้แนวคิด ‘Glory to Distribution Days’ โดย บริษัท ทรัพย์เปอร์ จำกัด (D010) ซึ่งสะท้อนถึงวิวัฒนาการของอาคารห้องแถวจีนริมน้ำที่เปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจมาหลายยุคสมัย จากการเป็นพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า ด่านเก็บภาษีในอดีต สู่ปัจจุบันซึ่งเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของกลุ่ม Melayu Living และในอนาคตจะเป็นศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ TCDC ปัตตานี อาคารนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ แต่ยังถูกออกแบบให้มีบรรยากาศเป็นกันเอง เข้าถึงง่าย และเชื่อมโยงผู้คนทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านจากศูนย์กระจายสินค้าในอดีตสู่พื้นที่สร้างสรรค์ที่มีชีวิตชีวาในปัจจุบันและอนาคต
4.TCDC พิษณุโลก
TCDC พิษณุโลก ออกแบบโดย สถา ณ สถาปนิก (D017) ผ่านแนวคิด เมืองสองแคว l สายน้ำ l วิถีชีวิต พื้นที่เชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์กับภูมิปัญญาท้องถิ่นในบรรยากาศอบอุ่นและเป็นมิตรพร้อมเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในพื้นที่ โดย จังหวัดพิษณุโลกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่บนจุดบรรจบของแม่น้ำน่านและแม่น้ำแควน้อยจึง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตของชาวเมือง และมีบทบาทในการพัฒนาเมืองมาตั้งแต่อดีต ตัวอาคารจึงได้แรงบันดาลใจจากวิถีชีวิตริมน้ำ โดยใช้ "อิฐ" เป็นวัสดุหลักสื่อถึงความแข็งแรงและการเติบโตของเมือง พื้นที่ภายในแบ่งตามเส้นทางน้ำ เน้นทั้งความสร้างสรรค์ การร่วมมือ การพักผ่อน และการเรียนรู้ ส่วนด้านนอกอาคารออกแบบให้เชื่อมโยงกับบรรยากาศริมน้ำ สร้างความกลมกลืนระหว่างสถาปัตยกรรมและธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงการนำเอาวิถีชีวิตริมน้ำและวัฒนธรรมของพิษณุโลกมาผสมผสานอย่างลงตัว พร้อมเป็นแหล่งบ่มเพาะนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดจากการใช้ทรัพยากรและภูมิปัญญาในพื้นที่
5.TCDC แพร่
TCDC แพร่ ออกแบบโดย บริษัท เค ทู ดีไซน์ จำกัด (D011) ภายใต้แนวคิด 'เผยแพร่ภูมิปัญญาอย่างเรียบง่าย โดยนำเสนอมรดกล้ำค่าของเมืองแพร่ ผ่านคำขวัญประจำ คือ "ม่อฮ่อม และ ไม้สัก" จึงกลายมาเป็นแรงบันดาลใจหลักในการออกแบบอาคารให้ดูราวกับ "ท่อนไม้สักย้อมสีฮ่อม (Indigo)" ด้วยแนวคิด Form & Function ที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นด้วยสีและวัสดุ สะท้อนเอกลักษณ์ของเมืองแพร่อย่างชัดเจน การจัดพื้นที่และการใช้งานมีความตรงไปตรงมา สะดวกสบาย รองรับทุกกิจกรรมของชุมชนและ TCDC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาของเมืองแพร่สู่อนาคต
6.TCDC ภูเก็ต
ตัวตนของ "เมืองภูเก็ต" ที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจากอุตสาหกรรมดีบุก ได้ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านผลงานการออกแบบของ TCDC ภูเก็ต ผ่านแนวคิด ‘เล่นแร่-แปรเมือง’ ที่ได้รับการวางแผนและออกแบบโดย บริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน(ประเทศไทย) จำกัด โดยสถาปัตยกรรมของอาคารได้สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบัน ด้วยหารใช้วัสดุและรูปแบบการใช้งานสมัยใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ภายใน แม้จะมีข้อจำกัดด้านขนาด แต่ TCDC ภูเก็ต มุ่งมั่นที่จะเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในจังหวัดภูเก็ต โดยใช้แรงบันดาลใจจากความรุ่งเรืองในอดีตของอุตสาหกรรมดีบุก ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเมืองนี้ ทำให้อาคารนี้ไม่เพียงเป็นศูนย์ออกแบบ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์และนวัตกรรมของภูเก็ตเข้าด้วยกัน
7.TCDC ศรีสะเกษ
TCDC ศรีสะเกษ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดอย่างลงตัว ออกแบบโดยทีมสถาปนิก นายปิติพงศ์ อมรวิรัตนสกุล, นายณรงค์วิทย์ อารีมิตร และนายวรนล สัตยวินิจ (D084) ภายใต้แนวคิด 'Sisaket Code' มุ่งตีแผ่ประเด็นสำคัญของท้องถิ่น โดยออกแบบให้ศูนย์แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกับกิจกรรมทางวัฒนธรรม ดนตรี และภาพยนตร์ในบริบทของศรีสะเกษอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในท้องถิ่นผ่านการใช้ทรัพยากรของจังหวัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำให้ TCDC ศรีสะเกษไม่เพียงเป็นศูนย์ออกแบบ แต่ยังเป็นแหล่งรวมจิตวิญญาณและอัตลักษณ์ของชาวศรีสะเกษอีกด้วย
8.TCDC สุรินทร์
TCDC สุรินทร์ ออกแบบโดย บริษัท แปลน อาคิเต็ค จำกัด (D064) ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'โฮล สาน สร้างสรรค์' โดยตีความเอกลักษณ์อันงดงามของผ้าโฮล ลายผ้าไหมประจำถิ่นที่ผูกพันกับชาวสุรินทร์มาอย่างยาวนาน แนวคิดนี้เปลี่ยนผ้าสานให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงระหว่างเมืองและผู้คน ก่อให้เกิดศูนย์กลางสร้างสรรค์เศรษฐกิจใหม่ของจังหวัด เส้นสายของผ้าโฮลถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบให้ TCDC สุรินทร์กลายเป็นจุดนัดพบของทั้งเมือง และเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพัฒนาเมืองสร้างสรรค์อย่างแท้จริง
9.TCDC อุตรดิตถ์
TCDC อุตรดิตถ์ ออกแบบโดย
รักตระกูล ใจเพียร (D039) dy[แนวคิดโดดเด่นภายใต้คอนเซ็ปต์ "POP-OUT และ BLIND-IN" กับการสร้างเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างเมืองกับ TCDC ผ่านคอนเซ็ปต์ POP-OUT ที่ดึงดูดความสนใจและสร้างภาพลักษณ์ความสร้างสรรค์ ที่เด่นชัดโดยไม่รบกวนการใช้งานของอาคารเดิม เมื่อขึ้นสู่ชั้น 2 ผู้เยี่ยมชมจะถูกนำเข้าสู่ TCDC ผ่านซุ้มประตูโค้งที่เชื่อมต่อกับสวนขนาดเล็ก ภายในตกแต่งด้วยม่านลับแลห้อยเป็นลวดลายตีนจก สร้างบรรยากาศสบายและน่าค้นหา การออกแบบนี้ผสมผสานความทันสมัยกับเอกลักษณ์ท้องถิ่น ชวนให้เพลิดเพลินไปกับการค้นพบโลกใหม่ภายใน TCDC อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นทั้งศูนย์สร้างสรรค์และแหล่งเรียนรู้ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของจังหวัดได้อย่างมีเอกลักษณ์
10.TCDC อุบลราชธานี
TCDC อุบลราชธานี ออกแบบโดย Pixelight Studio (นัฏฐวรรณ สุระพัฒน์) (D121) ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'หล่อ-หลอม' มุ่งเน้นการผสมผสานฟังก์ชั่นการใช้งานและเอกลักษณ์ท้องถิ่นอย่างลงตัว โดยนำเอกลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัด อาทิ ประเพณีแห่เทียนพรรษา วัฒนธรรมอาหาร หรือแม้แต่ผลิตภัณฑ์หัตถกรรม มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ เพื่อให้เกิดพื้นที่ที่มีคุณค่า น่าหลงใหล และเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังออกแบบให้มีความยืดหยุ่น รองรับกิจกรรมและผู้ใช้งานที่หลากหลาย เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ร่วมกัน TCDC อุบลราชธานีจึงเป็นพื้นที่แห่งการหลอมรวมวัฒนธรรมและนวัตกรรม นำไปสู่การสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับชุมชนและจังหวัด
“ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบแห่งใหม่ (New TCDC) ใน 10 จังหวัด” ประกอบด้วยพื้นที่ Co-Creation, Creative Lab, Collection และ Back Office ที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น มีความยืดหยุ่น ดูแลง่าย และประหยัดพลังงาน และเป็นเสมือนพื้นที่ที่หลอมรวมทุกแง่มุมของความคิดสร้างสรรค์เข้าไว้ด้วยกัน เป็นแหล่งรวมความรู้ แหล่งรวมชุมชน เป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเป็นเวทีในการแสดงศักยภาพของนักออกแบบ ศิลปิน และนักสร้างสรรค์ ผ่านบริการหลากหลายรูปแบบ อาทิ ห้องสมุดเฉพาะด้านการออกแบบ นิทรรศการ พื้นที่แสดงผลงาน พื้นที่การเรียนรู้และฝึกอบรม ในเรื่องของ Local Stories กิจกรรมการฝึกประสบการณ์ รวมถึง Creative Lab นอกจากนี้ New TCDC ยังมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับคนไทยทั่วประเทศ