หมดปัญหาเศษเหรียญล้นพอร์ต! กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Gulf Binance) ส่งฟีเจอร์ Small Convert มอบโอกาสให้นักลงทุนนำเศษสกุลเงินดิจิทัล (Crypto Dust) ที่เหลือจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในพอร์ตโฟลิโอ มาแปลงเป็นเหรียญ Binance Coin (BNB) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ พร้อมต่อยอดการลงทุน โดยนักลงทุนทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนเศษสกุลเงินดิจิทัลเป็นเหรียญ BNB บนแพลตฟอร์ม ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Binance TH by Gulf Binance) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เศษสกุลเงินดิจิทัล (Crypto Dust) คืออะไร?
เศษสกุลเงินดิจิทัล หรือ Crypto Dust คือเศษเหรียญหรือโทเค็นจำนวนเล็กน้อยจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลงเหลืออยู่ในพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุน โดยเศษเหรียญดังกล่าวมีมูลค่าไม่มากพอที่จะนำไปต่อยอดเพื่อทำธุรกรรมอื่นๆ หรือถือครองเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อการลงทุนได้
“ด้วยวิสัยทัศน์ของ กัลฟ์ ไบแนนซ์ ที่ต้องการเสริมประสิทธิภาพ รวมถึงสร้างความคุ้มค่าในการลงทุน เราจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ Small Convert เพื่อให้ผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance ได้ถือครองเหรียญ BNB ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด ผ่านการแลกเปลี่ยนเศษสกุลเงินดิจิทัลที่ตกค้างสะสมอยู่ในพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มโอกาสต่อยอดการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น” นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด กล่าว
ทำความรู้จัก BNB หรือ Binance Coin
เหรียญ BNB หรือ Binance Coin เป็นโทเค็นที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยไบแนนซ์ (Binance) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเหรียญดังกล่าวเปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2017 บนเครือข่าย Ethereum ภายใต้มาตรฐาน ERC20 ที่ต่อมาภายหลังเหรียญ BNB ได้ถูกย้ายมาอยู่บนเครือข่าย Binance Chain ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่พัฒนาขึ้นโดยไบแนนซ์ และถือเป็นหนึ่งในระบบนิเวศในโลกคริปโตเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชนที่กว้างขวางและหลากหลายที่สุด โดย Binance Chain ทำหน้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกและรองรับการทำธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นเครือข่ายแบบกระจายอำนาจ ทำให้มีความปลอดภัยสูงและสามารถเชื่อถือได้
โดย ณ ปัจจุบัน เหรียญ BNB ถือเป็นเหรียญที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับที่ 4 รองจาก Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), และ Tether (USDT) ด้วยจุดเด่นด้านการใช้งานมากมาย เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมแก่ผู้ใช้งานเมื่อใช้เหรียญ BNB ทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance นอกจากนี้ ประวัติการเติบโตที่แข็งแกร่งของเหรียญ BNB ในอดีตยังทำให้เหรียญ BNB เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหมาะแก่การลงทุนในระยะยาวบนพอร์ตโฟลิโออีกด้วย
เปลี่ยนเศษสกุลเงินดิจิทัลสู่เหรียญ BNB ด้วยฟีเจอร์ Small Convert ใน 4 ขั้นตอน
ฟีเจอร์ Small Convert ถูกออกแบบมาเพื่อมอบโอกาสให้เหล่านักลงทุนนำเศษเหรียญที่เกิดจากการซื้อขายในพอร์ตโฟลิโอของตัวเองมาแลกเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าอย่างเหรียญ BNB โดยผู้ที่สนใจสามารถทำการแปลงเศษสกุลเงินดิจิทัลตามขั้นตอนง่ายๆ ได้ดังนี้
1. เข้าสู่ระบบและเลือกเมนูกระเป๋าเงินของฉัน (My Wallet) บนแพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance
2. เลือกโทเค็นสำหรับการแปลงเศษสกุลเงินดิจิทัล
3. ตรวจสอบรายละเอียดการแปลงเศษสกุลเงินดิจิทัล และคลิก “ยืนยัน” เพื่อดำเนินการทำธุรกรรมการแปลงสกุลเงินดิจิทัลให้เสร็จสมบูรณ์
4. ตรวจสอบประวัติการแปลงเศษสกุลเงินดิจิทัล สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Binance TH by Gulf Binance X: Binance TH และ Facebook: Binance TH
ความผันผวนของตลาดการลงทุนที่เกิดขึ้นล่าสุดได้ส่งผลกระทบให้เห็นเป็นวงกว้างทั้งในแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลและตลาดหุ้น สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการประกาศรายงานการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น สืบเนื่องต่อไปยังความผันผวนของวอลล์สตรีท (Wall Street) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่นักลงทุนจำนวนมาก ต่างโยกย้ายเงินทุนออกจากสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงอย่างสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเมื่อมาผนวกกับการที่นักลงทุนได้รับผลตอบแทนลดลงจากการที่ปีนี้เป็นฤดูร้อนของคริปโต (Crypto Summer) ที่ชะลอตัวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ยิ่งทำให้นักลงทุนต่างพิจารณามองหาสินทรัพย์ประเภทอื่นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนนี้ ยังมีแนวโน้มเชิงบวกเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ในตลาดจะดิ่งลง เหล่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้มีการกล่าวถึงการสร้างคลังสำรองบิทคอยน์แห่งชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการเล็งเห็นศักยภาพของบิตคอยน์ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ลาร์รี ฟิงก์ (Larry Fink) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังได้ประกาศในรายการ CNBC ว่าเขามองบิทคอยน์เป็น “ตราสารทางการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย” ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงความคิดครั้งสำคัญ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาย้ำให้สาธารณชนเห็นถึงความไม่เชื่อมั่นในบิทคอยน์ที่เขามี
ทั้งนี้ เทรนด์การเติบโตของการยอมรับบิทคอยน์ในระดับสถาบันและกลุ่มการเมืองไม่ได้จำกัดอยู่แค่เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เพราะเมื่อสี่เดือนที่แล้ว ประเทศเอลซัลวาดอร์ ที่ถือว่าเป็นประเทศแรกที่ยอมรับบิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่สามารถนำมาชำระหนี้ (Legal Tender) และใช้แทนเงินสดได้ถูกต้องตามกฎหมาย ได้ดำเนินการโยกย้ายบิทคอยน์ส่วนใหญ่ไปเก็บรักษาแบบออฟไลน์หรือ “Cold Storage” ที่สามารถตรวจสอบได้โดยสาธารณะ จากข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา คลังของเอลซัลวาดอร์มีจำนวนบิทคอยน์ทั้งสิ้น 5,825 บิทคอยน์ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 405 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือเป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบิทคอยน์ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มั่นคงและเป็นปัจจัยสำคัญเชิงกลยุทธ์ทางการเงินของประเทศ
แต่อย่างไรก็ตาม สภาพตลาดในปัจจุบันก็ยังคงเผชิญหน้ากับความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากความผันผวนของตลาดล่าสุด ซึ่งจะส่งผลให้แผนการจัดตั้งคลังสำรองยิ่งต้องทวีความซับซ้อนทั้งทางด้านกระบวนการทางกฎหมายและทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น
เมื่อไม่นานมานี้ ไบแนนซ์ ทีเอช (Binance TH) ได้เผยกรอบการทำงาน CPT Framework (Capital, People, Technology) ที่ได้กำหนดขึ้นเพื่อใช้วิเคราะห์ปัจจัยเชิงโครงสร้างที่อาจส่งผลต่อพลวัตของตลาด ที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดตั้งคลังสำรองบิทคอยน์เชิงกลยุทธ์จะส่งผลกระทบต่อทั้งสามปัจจัยของกรอบการทำงาน CPT (Capital, People, Technology) ที่จะส่งเสริมต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตในระยะยาว
การที่คลังสำรองบิทคอยน์แห่งชาติถูกพูดถึงถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับสกุลเงินดิจิทัล เพราะยิ่งหน่วยงานรัฐบาลและสถาบันต่างๆ ตระหนักถึงศักยภาพของบิทคอยน์ ยิ่งถือเป็นการเพิ่มโอกาสที่เราจะได้เห็นการยอมรับและการผสานสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับระบบการเงินโลกให้เป็นไปอย่างก้าวกระโดด เพื่อปูทางสู่การเดินหน้าไปยังอนาคตทางการเงินที่มีความครอบคลุมและก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม
สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าสภาพตลาดในปัจจุบันจะมีความผันผวน แต่แนวโน้มระยะยาวของบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ยังมีทิศทางที่ดีและน่าจับตามอง การผนึกกำลังระหว่างการสนับสนุนทางการเมือง การยอมรับระดับสถาบัน และปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยความสดใสและความหวังของสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะผลิบานต่อไป
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ GULF บริษัทพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับสากล เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยสามารถระดมทุนได้ 35,000 ล้านบาทตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ครั้งนี้บริษัทฯตั้งใจแบ่งการเสนอขายเป็น 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน เพื่อให้ครอบคลุมและตอบโจทย์นักลงทุนหลากหลายกลุ่ม โดยไม่เพียงเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นฐานนักลงทุนเดิมที่ GULF เคยเสนอขายหุ้นกู้มาแล้วในครั้งก่อนๆ เท่านั้น แต่ยังเปิดเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดีทั้งหมด