สำหรับหุ้นกู้ซึ่งเสนอขายให้กับกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่นั้น มี 3 ชุด คือรุ่นอายุ 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท โดยมีการ bookbuilding ไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และเสนอขายไปเมื่อวันที่ 2-4 สิงหาคม 2565 โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3.57%ต่อปี ส่วนหุ้นกู้ซึ่งเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเมื่อวันที่ 15-17 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น มี 2 รุ่นอายุ คือ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี และ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.90% ต่อปี มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปนี้แต่ละรุ่นอายุมีการเปิดขายทั้งทางแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และผ่านช่องทางของผู้จัดการการจัดจำหน่ายซึ่งเป็นสถาบันการเงิน 9 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกจองซื้อได้ตามความสะดวก โดยยอดจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” คือ 3,000 ล้านบาท และยอดจองซื้อหุ้นกู้ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 9 แห่ง มียอดรวมสูงถึง 21,000 ล้านบาท
การสนับสนุนอย่างล้นหลามจากผู้ลงทุน สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีของทั้งตัวบริษัทและหุ้นกู้ โดยอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรของ GULF อยู่ที่ “A” แนวโน้ม “คงที่” และหุ้นกู้ทุกชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ “A-” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565
“บริษัทฯ ขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ และขอบคุณสถาบันการเงินทั้ง 10 แห่งในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ที่ทำให้การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป” นางสาวยุพาพินกล่าว