FTSE Russell (Financial Times Stock Exchange Russell) บริษัทอิสระที่จัดตั้งขึ้นโดย The Financial Times และ London Stock Exchange ในปี 1995 เพื่อทำดัชนีในระดับสากล (Independent Global Index Provider) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการจัดทำดัชนีให้ตลาดหลักทรัพย์หลายๆ แห่งทั่วโลก อาทิ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ตลาดหลักทรัพย์เบอร์ซ่ามาเลเซีย ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เป็นต้น ได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index ประจำปี 2021 ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชั้นนำที่ประเมินศักยภาพการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
โดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ได้รับคัดเลือกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้ว (2561-2564) ในกลุ่ม Food Retailers & Wholesalers ซึ่งมีคะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมในทุกมิติจากคะแนนเต็ม 5.0 ไม่ว่าจะเป็น ด้านสิ่งแวดล้อมที่ 4.1 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 1.3) ด้านสังคม 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.0) และด้านธรรมาภิบาล 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3.6) ทำให้ยังรักษาระดับคะแนนเฉลี่ยรวมไว้ได้ที่ 4.3 คะแนน ขณะเดียวกัน เมื่อลงลึกไปในแต่ละด้านปรากฏว่า ซีพี ออลล์ ได้คะแนนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศไทยในเกือบทุกตัวชี้วัด ประกอบด้วย มิติสิ่งแวดล้อม ด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ 3.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.0 คะแนน) ด้านห่วงโซ่อุปทานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.8 คะแนน) ด้านมลภาวะและทรัพยากร 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3.2 คะแนน) มิติสังคม ด้านความรับผิดชอบต่อลูกค้า 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.9 คะแนน) ด้านสิทธิมนุษยชนและชุมชน 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 3.1 คะแนน) ด้านห่วงโซ่อุปทานทางสังคม 4.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 2.9 คะแนน) มิติธรรมาภิบาล ด้านการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 4.5) และด้านการกำกับดูแลกิจการ 5.0 คะแนน (ค่าเฉลี่ย 4.4 คะแนน)
นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า การได้รับเกียรติให้เข้าเป็นสมาชิก FTSE4Good Index ตั้งแต่ปี 2561 ไม่เพียงเป็นความภาคภูมิใจของทุกคนที่ซีพี ออลล์ แต่ยังถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของบริษัทในการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับสังคม โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ตามปณิธานองค์กร ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน ซึ่ง ซีพี ออลล์ให้คำมั่นจะพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง
“ค่านิยม 3 ประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ การสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร เป็นสิ่งที่ซีพี ออลล์ ยึดมั่นเสมอมาในการดำเนินธุรกิจกว่า 33 ปี เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืนที่ครอบคลุมทั้งการดูแลสิ่งแวดล้อม อยู่เคียงข้างสังคม และมีธรรมาภิบาล รวมทั้งเตรียมพร้อมรับมือกับท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาของเทคโนโลยี ตลอดจนปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้อย่างโรคระบาด จนทำให้วิถีชีวิตผู้คนเปลี่ยนแปลงไป เพื่อบรรลุตามพันธกิจที่วางไว้ ในการสร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยสินค้าและบริการที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรม มุ่งสู่องค์กรคุณภาพและมีความยั่งยืน” นายธานินทร์ กล่าวเน้นย้ำ
สำหรับการประเมิน FTSE4Good Index ในปีนี้ มีตัวชี้วัดทั้งสิ้น 156 ตัวชี้วัด ใน 10 หัวข้อหลัก ที่ครอบคลุมทั้งด้านนโยบาย การบริหารจัดการ การประเมินและจัดการความเสี่ยง และการรายงานผล โดยยึดข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณะจากรายงานของบริษัททั้งรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน รายงานประจำปี รวมทั้งเว็บไซต์ขององค์กร
การเรียนรู้ผ่านทางออนไลน์
ซีพี ออลล์ ประกาศภารกิจช่วยเหลือและสนั
นพ.พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นภารกิจสำคัญที่บุ
พญ.สมพิศ จำปาเงิน ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลอู่ทอง อำเภออู่ทอง กล่าวขอบคุณเครือซีพีและบริษั
นพ.พิสุทธ์ ภู่พวง รองผู้อำนวยฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์
ด้าน นายสุริยะ ชูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ กล่าว ระหว่างนำชาวซีพีเอฟจิตอาสาร่
ส่วนผู้แทน ซีพี ออลล์ นายสายชล ถึงกลาง ที่นำครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เจลแอลกอฮอลล์ และน้ำดื่มมาร่วมมอบให้กับ รพ.อู่ทอง กล่าวว่า บริษัทร่วมเสริมทัพและเป็นกำลั
เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด(มหาชน) มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิ ธนินท์chai เทวี เจียรวนนท์ และมูลนิธิเชฟแคร์ส ร่วมผนึกกำลังภายใต้โครงการ "CP ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19" ส่งมอบความช่วยเหลือด้านอาหารและสิ่งของจำเป็น ตลอดจนความสะดวกด้านการสื่อสารในสถานการณ์โควิด-19 ให้แก่ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป เพื่อร่วมบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ยากไร้ในชุมชนคลองเตย ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 หวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยคนไทยผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยกัน โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ(ร่วม) บมจ.ซีพี ออลล์ และ ดร.วิทย์ สุนทรนันท์ รองประธานกรรมการมูลนิธิพุทธรักษา ร่วมกันส่งมอบ ณ บริเวณหน้าอาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ ถ.สีลม
นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ผู้ก่อตั้งและเลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป กล่าวว่า ขอขอบคุณเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซีพีเอฟ ทรู ซีพีออลล์ แม็คโคร มูลนิธิพุทธรักษา มูลนิธิธนินท์ เทวี เจียรวนนท์ และมูลนิธิเชฟแคร์ส ที่เข้ามาให้การสนับสนุนอาหารปลอดภัยและเทคโนโลยีการสื่อสาร ตลอดจนของใช้จำเป็นให้แก่ชาวชุมชนคลองเตยที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้านของตนเอง ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 100 คน ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคในชุมชนซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างแออัด และมีความเสี่ยงสูงในการแพร่กระจายของเชื้อ การได้รับอาหารและสิ่งของสนับสนุนนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถกักตัวภายในบ้าน และเพิ่มความปลอดภัยให้คนในชุมชนได้
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหารซีพีเอฟ กล่าวว่า ความช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของเครือซีพี-ซีพีเอฟที่ท่านประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ต้องการให้ทุกบริษัทในเครือร่วมช่วยเหลือสังคมในสถานการณ์โควิด-19 และผู้ยากไร้ในพื้นที่ชุมชนแออัดเป็นกลุ่มเปราะบางอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องเผชิญความเดือดร้อนอย่างมากในสถานการณ์โรคระบาดนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จึงมอบความช่วยเหลือผ่านโครงการ "CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19" ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่การระบาดรอบแรก ด้วยการส่งมอบอาหารปลอดภัยเพื่อพี่น้องในชุมชนคลองเตยที่อยู่ระหว่างการตรวจพบผู้ติดเชื้อหลายราย โดยขอเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารแก่ผู้ที่ต้องกักตัวเฝ้าระวังอาการ รวมถึงผู้ติดเชื้อที่กำลังรอการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ขอให้ทุกคนปลอดภัยกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว
สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยของซีพีเอฟกว่า 14,000 ชิ้นที่จะส่งถึงมูลนิธิดวงประทีป ประกอบด้วย กับข้าวสำเร็จรูปหลากหลายเมนู อาทิ ไก่ผัดพริกสด แกงจืดผักกาดขาว มัสมั่นหมู กะเพราเครื่องในไก่ ไก่ผัดพริกแกง ไข่ต้มสมุนไพร ไข่สดซีพี ข้าวสารตราฉัตร และน้ำดื่ม โดยกับข้าวสำเร็จรูปเหล่านี้ ผลิตด้วยนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ที่สามารถอุ่นด้วยวิธีต้มทั้งซอง ไม่จำเป็นต้องใช้ไมโครเวฟ สอดคล้องกับการดำเนินชีวิตของผู้ยากไร้ในชุมชน
ด้าน นายสุภกิจ วรรธนะดิษฐ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า กลุ่มทรู ตระหนักดีว่า ในภาวะวิกฤติ การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเสมอ จึงเร่งนำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลและนวัตกรรมเทคโนโลยี ร่วมสนับสนุนด้านการสื่อสารแก่ชุมชนคลองเตย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งไฟเบอร์อินเทอร์เน็ต มอบฟรีซิมทรูมูฟ เอช แบบเติมเงิน “กักตัว ไม่กลัวเหงา” พร้อมแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่อั้น ความเร็ว 10 Mbps. ใช้งานได้นาน 30 วัน จำนวน 200 ซิม รวมถึงบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพกับทีมแพทย์อาสาชีวีได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน “True HEALTH” เพียงเลือกแผนก ‘โควิดคลินิก’ หรือ 'Covid Care' และใส่โค้ด 'HERE2HELP' ในขั้นตอนการชำระเงิน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2564 ตลอดจนสนับสนุนบริการ “ทรูวิชั่นส์ นาว” (TrueVisions NOW) ให้รับชม 24 ช่องดังจากทรูวิชั่นส์ได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟน บนแอปพลิเคชันทรูไอดี โดยมอบรหัสดูฟรีคอนเทนต์หลากหลาย ทั้งสาระ และบันเทิง ในรูปแบบสตรีมมิ่ง นาน 15 วัน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อสนับสนุนภารกิจเร่งด่วนในการฉีดวัคซีนให้แก่พี่น้องชาวชุมชนคลองเตย ณ โลตัส สาขาพระรามสี่ กลุ่มทรู ได้ดำเนินการติดตั้งเครือข่ายสื่อสารเพิ่มเติมทั้ง ทรู 5G 4G และ WiFi โดยจัดรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว ทรูมูฟ เอช (COW หรือ Cell on Wheels) เพื่อรองรับการใช้งานของบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และผู้มารอฉีดวัคซีน ซึ่งการสนับสนุนครั้งนี้ ตอกย้ำความตั้งใจของกลุ่มทรู ในการเคียงคู่สู้โควิดกับคนไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน บมจ.ซีพีออลล์ ยังร่วมมอบเจลแอลกอฮอลล์และหน้ากากอนามัย สำหรับการดูแลรักษาสุขอนามัยของพี่น้องชาวคลองเตยในช่วงที่มีการระบาดค่อนข้างสูง รวมถึงมอบน้ำดื่มและขนมเบเกอรี่ ขณะที่ บมจ.สยามแม็คโคร มอบถุงขยะสำหรับบรรจุขยะติดเชื้อให้แก่มูลนิธิดวงประทีปเพื่อส่งต่อแก่ชาวชุมชนคลองเตยอีก 6,500 ถุง
นอกจากนี้ มูลนิธิพุทธรักษา และมูลนิธิธนินท์ เทวี เจียรวนนท์ โดยนายณรงค์ เจียรวนนท์ ได้ร่วมมอบอาหารและสิ่งของจำเป็นมูลค่า 1 ล้านบาทให้กับมูลนิธิดวงประทีป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วงวิกฤต COVID-19 ในชุมชนคลองเตย ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของมูลนิธิพุทธรักษาที่มุ่ง “ให้” แก่ผู้ขาดโอกาสทางสังคมและมีความขัดสน เบื้องต้นได้ทำการส่งมอบข้าวสาร อาหารแห้งและของใช้จำเป็นแล้ว และจะประสานความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ยากไร้ในชุมชนคลองเตยก้าวผ่านสถานการณ์โควิด-19 นี้ได้อย่างปลอดภัย
ด้านมูลนิธิเชฟแคร์ส นำอาหารสุขภาพจากเชฟรางวัลระดับโลกถึง 4 เมนู ได้แก่ หมูครีมซอสและมักกะโรนี, สปาเกตตี้ซอสเขียวหวานและอกไก่, แกงป่าปลาข้าวไรซ์เบอร์รี่ และ ไก่ทิกก้ามาซาล่ากับข้าวหุงขมิ้น มามอบเป็นกำลังใจให้ชาวคลองเตยในครั้งนี้ด้วย โดยหวังให้ผู้ยากไร้ที่ต้องกักตัวในชุมชน มีพลานามัยที่แข็งแรง สู้ภัยโควิด-19 ได้อย่างเข้มแข็งและปลอดภัย