“ซีพี ออลล์” ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เซเว่น เดลิเวอรี่ และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 3 รุ่น อายุ 4 ปี อายุ 7 ปี และอายุ 12 ปี เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป(ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน) อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง [2.95 – 4.35]% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน คาดว่าจะเสนอขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 7 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร รวมถึงขายผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet โดยบริษัทฯ และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566

 

นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ Chief Financial Officer บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ซีพี ออลล์” เตรียมพร้อมที่จะเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย [2.95 – 3.10]% ต่อปี รุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.55 – 3.75]% ต่อปี และรุ่นอายุ 12 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.20 – 4.35]% ต่อปี สำหรับหุ้นกู้รุ่นอายุ 12 ปี บริษัทฯ สามารถไถ่ถอนหุ้นกู้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้เมื่อหุ้นกู้ครบปีที่ 7 โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 รุ่น มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ จะเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป คาดว่าจะเสนอภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผ่านสถาบันการเงิน 7 แห่งที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) รวมถึงมีการขายผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet เพื่อเพิ่มความสะดวกและตอบโจทย์นักลงทุนยุคดิจิทัล อีกด้วย

สำหรับหุ้นกู้ชุดดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ซึ่งสะท้อนถึงพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ อาทิ การเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อในประเทศไทย อีกทั้งมีการรุกขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ลักษณะของธุรกิจค้าปลีกที่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีเครือข่ายสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับผลตอบรับสูงจากลูกค้า โดยปัจจุบันมีลูกค้าสมาชิก “All Member” อยู่มากกว่า 14 ล้านคน

ทั้งนี้ “ซีพี ออลล์” เป็นผู้ประกอบธุรกิจหลักในการบริหารร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ที่ให้บริการความสะดวกกับชุมชน โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2565 บริษัทฯ มีสาขา “เซเว่น อีเลฟเว่น” เปิดให้บริการมากกว่า 13,000 สาขา และภายในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 700 สาขา ในรูปแบบ Standalone โดยเน้นร้านขนาดใหญ่ในรูปแบบร้านเดี่ยว (Standalone) ที่มีพื้นที่จอดรถหน้าร้าน ส่วนการขยายสาขาในต่างประเทศ คาดว่าในปี 2566 จะเริ่มเห็นสาขาของ “เซเว่น อีเลฟเว่น” ใน สปป.ลาว ขณะที่ในประเทศกัมพูชามีการเปิดสาขาไปแล้วกว่า 40 สาขา และยังจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจแบบ O2O ที่ผสมผสานช่องทาง Omni-Channel ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงบริการเดลิเวอรี่ของ ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ (7Delivery) ที่จัดส่งสินค้าถึงบ้าน ผ่านทางแอปพลิเคชั่น เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคอีกด้วย

“การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีของผู้ลงทุนที่แสวงหาการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และเป็นกิจการที่มีความมั่นคงภายใต้อุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ภายหลังจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ผลการดำเนินงานของซีพี ออลล์ ในไตรมาส 3 ปี 2565 ที่ผ่านมามีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างโดดเด่น และยังมีแนวโน้มที่ดีในผลการดำเนินงานสำหรับปี 2565 และต่อเนื่องในปี 2566 จากธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตสูง อีกทั้งบริษัทฯ ยังเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนระดับโลก โดยได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มอุตสาหกรรม Food & Staples Retailing กลุ่มดัชนี DJSI Emeeging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 (2017-2022) และกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 (2018-2022) โดย “ซีพี ออลล์” เป็นองค์กรเดียวในประเทศไทยในกลุ่มดัชนี DJSI World ของกลุ่มอุตสาหกรรมนี้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนที่จะเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทฯ เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกันนายเกรียงชัยกล่าว

 

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งกำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินทั้ง 7 แห่ง

1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bualuang mBanking ได้อีก 1 ช่องทาง)

2. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน KMA ได้อีก 1 ช่องทาง)

3. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-111-1111 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai Next ได้อีก 1 ช่องทาง)

4. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 ต่อ 819 (โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-777-6784 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY ได้อีก 1 ช่องทาง)

6. ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai Digital Banking ได้อีก 1 ช่องทาง)

7. บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-165-5555

* ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

 

ทั้งนี้ ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ผ่านทางระบบจองซื้อของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ในแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ พร้อมภาพตัวอย่างประกอบโดยสังเขปได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำเรื่องขั้นตอน และวิธีการสมัครจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยกโมเดลความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อม และ พลังงาน ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เยาวชน ควบคู่กับการนำแนวทาง BCG Economy ประยุกต์ใช้ในสถานศึกษา ส่งเสริมให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้ทฤษฎีและฝึกปฏิบัติจริง

นายจารุบุตร เกิดอุดม รองกรรมการผู้จัดการ สำนักความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน (SHE&En) ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ซีพีเอฟ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจและมีส่วนร่วมดูแลสังคมและชุมชนในทุกมิติ รวมไปถึงให้ความสำคัญกับเยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ ด้วยการนำแนวทางการปฏิบัติจริงในโรงงานและเกิดผลสำเร็จ ถ่ายทอดความรู้สู่สถานศึกษาและเยาวชน อาทิ การนำความรู้ในเรื่องของความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีทักษะและสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของเยาวชนในกิจกรรม "CPF SHE&En Active Learning" ที่มีการดำเนินการในโรงเรียนใกล้สถานประกอบการ เนื่องจากบริษัทฯคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กและบุคลากรทางการศึกษา เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยล่าสุด มีการส่งมอบโครงการให้โรงเรียนที่มีการดำเนินโครงการได้สำเร็จ 100% ได้แก่ โรงเรียนบ้านมะขามเฒ่า (เปรมประชารัฐวิทยา) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้สถานประกอบการ และเป็นโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ภายใต้การดูแลของซีพีเอฟ

"ซีพีเอฟ มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความรู้ไปยังเยาวชนในโรงเรียนต่างๆ ผ่านกิจกรรมด้านความปลอดภัยฯ เพื่อร่วมพัฒนาโรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยต่อเด็กๆ และบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการให้ความรู้กับเยาวชนในการรับมือกับอันตรายใกล้ตัว ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติ ทั้งการปฐมพยาบาลเพื่อการฟื้นคืนชีพ หรือ CPR การอบรมดับเพลิงขั้นต้น ซึ่งดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการฝึกซ้อมอพยพหนีไฟ ซี่งมีการดำเนินการกับนักเรียนและบุคลากรทั้งโรงเรียนรวม 150 คน นอกจากนี้ ทีมงานด้าน SHE&En ของซีพีเอฟ ยังได้ปรับปรุงระบบสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหมั และสายต่อลงดิน เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด เพื่อให้ทุกคนในโรงเรียนมีความปลอดภัยมากขึ้นทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน ปรับปรุงเครื่องกรองน้ำดื่ม ทำให้มีน้ำดื่มที่สะอาด ถูกสุขอนามัย ควบคู่กับการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการนำแนวทาง BCG มาใช้ในการการบริหารจัดการขยะในโรงเรียน ต่อยอดสู่ครอบครัว ทั้งฝึกอบรมแยกขยะ จัดให้มีถังแยกประเภท การนำขยะมาใช้ประโยชน์และเพิ่มมูลค่า เป็นต้น " นายจารุบุตร กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนทีได้รับการถ่ายทอดความรู้จากซีพีเอฟ ด้านความปลอดภัยและแนวทาง BCG ไปใช้ จนเกิดผลสำเร็จ อาทิ โครงการ SAFETY SCHOOL ของสายธุรกิจอาหารสัตว์บก โดย โรงงานผลิตอาหารสัตว์บกหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับรางวัลโครงการซีพีเพื่อความยั่งยืน ประจำปี 2565 จากการเดินหน้าให้ความรู้ด้าน SHE&En แก่โรงเรียนชุมชนบ้านน้ำน้อย อย่างต่อเนื่องมานานกว่า 5 ปี จนกลายเป็นหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอน ด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ด้วยการเรียนรู้ความปลอดภัย ทั้งการดับเพลิงขั้นต้นและอพยพหนีไฟ กิจกรรมขับขี่ปลอดภัยมีวินัยจราจร การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เรียนรู้พิษภัยของยาเสพติด ถ่ายทอดความรู้กิจกรรม 5 ส. การจัดการขยะ และการอนุรักษ์พลังงาน ทำให้เยาวชนรู้จักจุดเสี่ยงและสามารถค้นหาจุดเสี่ยง ที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและอัคคีภัยในโรงเรียน ส่งผลให้ไม่มีการบาดเจ็บและสูญเสียทรัพย์สิน หรืออุบัติเหตุเป็นศูนย์

จากความรู้เรื่องความเสี่ยงที่นักเรียนได้รับจากทีมงานของซีพีเอฟและวิทยากรจากภาครัฐและภาคเอกชน เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีแก่เยาวชนในการสร้างสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา และโรงเรียนยังผ่านการรับรองสถานศึกษาปลอดภัยระดับประเทศ4ปีต่อเนื่อง พร้อมพัฒนาสู่โรงเรียนต้นแบบดีเด่นด้านความปลอดภัยฯ ระดับประเทศได้อย่างน่าภูมิใจ และบริษัทได้ต่อยอดการจัดอบรมแก่โรงเรียนท่าจีนอุดมวิทยา รวมทั้งมีแนวทางขยายโครงการนำหลักสูตรและระบบการบริหารจัดการ ไปขยายผลในโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงและต่างจังหวัด โดยปี 2566 จะดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรด้วยการใช้สื่อ VDO ในการเรียนการสอน ให้โรงเรียนมีหลักสูตรด้านความปลอดภัยเป็นคู่มือการศึกษา พร้อมมอบหลักสูตรให้ สพฐ. หรือกระทรวงศึกษาธิการต่อไป

นอกจากนี้ โครงการ SAFETY SCHOOL สร้างความปลอดภัยให้กับโรงเรียนในชุมชน โดย ศูนย์ปรับปรุงพันธุกรรมกุ้งปะทิว จ. ชุมพร เป็นอีกหนึ่งปัจจัยขับเคลื่อนให้ศูนย์ฯ ได้รับรางวัลสถานประกอบการต้นแบบดีเด่นประจำปี 2565 เป็นปีที่15 เข้าร่วมให้ความรู้และสนับสนุนกิจกรรมวันชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ด้วยกิจกรรมอบรมความปลอดภัยแก่นักเรียนและครู โรงเรียนวัดดอนทรายแก้ว อ.เมือง จ.ชุมพร และโรงเรียนต่างๆ ที่อยู่ใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร เพื่อปลูกจิตสำนึกด้านความปลอดภัยฯสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในกรณีพบเห็นหรือสภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ผ่านการอบรมดับเพลิงขั้นต้นและอพยพหนีไฟ อบรมความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าและการฟื้นคืนชีพพื้นฐาน (CPR) โดยพนักงานซีพีเอฟและหน่วยงานราชการ ควบคู่กับกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การจัดการขยะ และการเก็บขยะชายหาด./

จากสถานการณ์น้ำท่วมที่ยังไม่คลี่คลายในหลายพื้นที่ของไทย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ยังคงส่งความห่วงใยถึงพี่น้องชาวไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมงานจิตอาสาร่วมร้อยเรียงความดี เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ช่วยเหลือในทันที นำอาหารและน้ำดื่ม ในโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ สู้ภัยน้ำท่วม” จัดส่งให้ถึงมือประชาชน เพื่อให้คนไทยเข้าถึงอาหารปลอดภัยอย่างทั่วถึง

เขตภาคเหนือเป็นอีกพื้นที่ที่กลุ่มธุรกิจสุกรภาคเหนือของซีพีเอฟ เร่งให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ทีมซีพีเอฟจิตอาสาโรงงานตัดแต่งและแปรรูปสุกรเชียงใหม่ นำโดย นายสมพงษ์ อัครแสงทิพย์ ผู้จัดการศูนย์ตัดแต่งและกระจายสินค้า (ห้วยส้ม) เชียงใหม่ ธุรกิจสุกร 3 ภาคเหนือตอนบน ส่งมอบเนื้อสุกร น้ำดื่ม และข้าวสาร เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวชุมชนบ้านห้วยส้ม ตำบลสันกลาง อำเภอสันป่าตอง โดยมี นายคำมูล กันทา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสันกลาง เป็นผู้รับมอบ พร้อมกล่าวขอบคุณซีพีเอฟที่นำผลิตภัณฑ์มามอบแก่ชาวห้วยส้ม ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักติดต่อหลายวัน ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำขานและเเม่น้ำวาง จนน้ำท่วมสูง 1.50-2 เมตร การเดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านโดยรถยนต์ไม่สะดวก ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ขาดเเคลนอาหารและน้ำดื่ม

ขณะที่หน่วยเคลื่อนที่เร็วจากโครงการส่งเสริมขุนฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดย นายอนุพนธ์ สัตยดิษฐ์ ผู้จัดการโครงการสุกรขุนฝาง นำทีมงานร่วมมอบข้าวกล่อง แก่ นายอินทรัตน์ ยั่งยืน ตัวแทนผู้เลี้ยงสุกรขุนฝาง เพื่อนำอาหารไปส่งต่อแก่เกษตรกรบ้านฮ้องห้าหลวง ตำบลแม่นาวาง อำเภอแม่อาย ที่เดือดร้อนจากกรณีมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน จนเกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ การเดินทางไม่สะดวกจากน้ำท่วมสูงกว่า 30 เซ็นติเมตร ประชาชนขาดแคลนอาหาร ตัวแทนเกษตรกรกล่าวขอบคุณซีพีเอฟที่ให้ความช่วยเหลือในช่วงที่เกษตรกรยากลำบากเช่นนี้

ทางด้าน นายนพดล ภู่เกิด ผู้จัดการการฟาร์มจอมทอง ธุรกิจสุกร 3 ภาคเหนือตอนบน พร้อมชาวซีพีเอฟจิตอาสาฟาร์มจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่หมู่บ้านห้วยน้ำดิบ หมู่12 ตำบลข่วงเปา อำเภอจอมทอง นำน้ำดื่ม อาหารแห้ง และชุดเครื่องนอน มอบแก่ นายอุทัย จันต๊ะยอด ผู้ใหญ่บ้านห้วยน้ำดิบ หมู่12 พร้อมสนับสนุนรถแบคโฮช่วยขุดลอกคลองเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ ซึ่งเกิดจากน้ำเอ่อล้นตลอดเส้นทางแม่น้ำปิง จากที่มีฝนตกหนัก จนน้ำไหลหลากท่วมชุมชนพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แหล่งน้ำ ชาวชุมชนต่างขอบคุณซีพีเอฟที่ให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และอยู่เคียงข้างในยามที่เดือดร้อนเสมอมา

นอกจากพื้นที่เชียงใหม่แล้ว ซีพีเอฟยังเร่งส่งมอบความห่วงใยอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 24 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก ขอนแก่น อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา มหาสารคาม เลย เชียงใหม่ สุโขทัย เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี พิจิตร พิษณุโลก สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และกรุงเทพฯ ในเขตบางนาและมีนบุรี โดยบริษัทยังคงร่วมใจช่วยเหลือประชาชนอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้ก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน./

Image preview

 

หนึ่งในภารกิจการการสร้าง Telecoms-tech company ระหว่างกลุ่มเทเลนอร์และเครือเจริญโภคภัณฑ์คือ การตั้งกองทุน Venture Capital (VC) ขนาด 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  หรือประมาณ 7.3 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในเทคโนโลยีและในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างโอกาสสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพของไทยให้แข็งแกร่งและสนับสนุนสู่การสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จระดับภูมิภาค อีกทั้ง บริษัทใหม่จะนำเทคโนโลยีขั้นสูงและความเชี่ยวชาญของเทเลนอร์ทั้งในกลุ่มภูมิภาคนอร์ดิกและเอเชียสู่บริษัทใหม่นี้ พร้อมทั้งความเชี่ยวชาญและเครือข่ายธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์

ซีพี จับมือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ  และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ขับเคลื่อนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เข้าสู่ปีที่ 34 ส่งเสริมเด็กและเยาวชนเข้าถึงอาหารปลอดภัย เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการให้น้องๆ นักเรียน เป้า 1,000 โรงเรียนทั่วประเทศ ในพื้นที่ชนบทห่างไกล เป็นห้องเรียนสร้างอาชีพจากการเรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ แปรรูปอาหารจากผลผลิตไข่ไก่ ต่อยอดสู่การบริหารจัดการของเสียจากมูลไก่นำมาทำเป็นปุ๋ย  ขยายผลสู่ชุมชนเป็นคลังเสบียงในสถานการณ์ระบาดของโควิด-19

Page 3 of 5
X

Right Click

No right click