November 22, 2024

SAP NEWSBYTE — กรุงเทพฯ 24 กันยายน 2567วันนี้ SAP ได้ประกาศว่า บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Taulia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนหมุนเวียนภายใต้โครงการของบริษัทฯ ในการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานด้านการผลิตทั่วโลก ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดย Taulia ซึ่งถูก SAP เข้าซื้อกิจการในปี พ.ศ. 2565 เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการจัดการเงินทุนหมุนเวียนชั้นนำ และมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ลูกค้าของ SAP สร้างกระแสเงินสดอิสระมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และปรับปรุงความยืดหยุ่นและความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทาน 

 

อินโดรามา เวนเจอร์ส มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก โดยมีโรงงานผลิตประมาณ 140 แห่งใน 5 ทวีป ในฐานะส่วนหนึ่งของโปรแกรมการเปลี่ยนแปลง IVL 2.0 และ Procurement 4.0 กระแสเงินสดอิสระถือเป็นเป็นเป้าหมายหลักของบริษัท ภายใต้โปรแกรมชำระเงินล่วงหน้าของ Taulia ซึ่งได้เริ่มใช้งานในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถเสนอตัวเลือกการชำระเงินล่วงหน้าแก่ซัพพลายเออร์ในอัตราพิเศษ โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงสภาพคล่องของห่วงโซ่อุปทานและเพิ่มประสิทธิภาพเงินทุนหมุนเวียน พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจผ่านโซลูชันระดับโลกที่เป็นหนึ่งเดียว และคาดว่าซัพพลายเออร์ทั่วโลกของบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากโปรแกรมนี้ 

การนำ Taulia มาใช้จะช่วยทำให้อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถลดระยะเวลาในการชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์ได้ ช่วยทำให้สถานะทางการเงินของอุตสาหกรรมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) ในเอเชียดีขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วการชำระเงินจะเกิดขึ้นภายใน 60 ถึง 90 วัน โมเดล ‘multifunder’ ของ Taulia จะช่วยทำให้อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถเข้าถึงระบบนิเวศของสถาบันการเงินต่างๆ ได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยงผ่านแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย ขณะที่ซัพพลายเออร์ก็สามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องที่มั่นคงสำหรับใบแจ้งหนี้ค้างชำระได้ การบูรณาการนี้จะช่วยให้ทีมการเงินและจัดซื้อของบริษัทฯ สามารถเปรียบเทียบเงินทุนหมุนเวียนกับคู่แข่งระดับโลกได้ พร้อมทั้งขับเคลื่อนประสิทธิภาพและการทำงานอัตโนมัติในกระบวนการจัดการเงินทุนหมุนเวียน 

 

อินโดรามา เวนเจอร์ส เริ่มต้นเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลในปี พ.ศ. 2563 โดยนำเครื่องมือต่างๆ รวมถึงแพลตฟอร์ม SAP S/4HANA ERP มาใช้ โดยในขั้นตอนต่อไปของการเปลี่ยนแปลงนี้ บริษัทกำลังเปิดตัวโซลูชันดิจิทัลและ AI มากมายที่สามารถสร้างมูลค่าและประสิทธิภาพในด้านปฏิบัติการหลักๆ รวมถึงการผลิต การพาณิชย์ การจัดซื้อ การขาย ห่วงโซ่อุปทาน และด้านการเงิน 

คุณซันเจย์ อาฮูจา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลงองค์กร อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า "อินโดรามา เวนเจอร์ส เลือกที่จะใช้ Taulia เนื่องจาก Taulia มีประสบการณ์อันยาวนานในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์พิเศษ รวมถึงการบูรณาการเข้ากับ SAP ให้เป็นหนึ่งเดียว ระบบนิเวศของธนาคารหลายแห่ง การรับซัพพลายเออร์เข้าทำงานอย่างรวกเร็วภายใน 90 วินาที และเครือข่ายซัพพลายเออร์หลายล้านรายที่กว้างขวาง ซึ่งความร่วมมือกับ SAP และการนำ Taulia มาใช้จะช่วยปรับปรุงกระบวนการทางการเงินของเรา และปรับปรุงเป้าหมายด้านไอทีและการจัดการกระแสเงินสดของเราได้ โครงการริเริ่มนี้มุ่งหวังที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์ของเราโดยการรับรองการชำระเงินที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตและความมั่นคงของซัพพลายเออร์" 

คุณกุลวิภา ปิยวัฒนเมธา กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท SAP กล่าวว่า “การใช้ Taulia ของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับธุรกิจในประเทศไทย การเร่งกระบวนการชำระเงินและปรับปรุงกระบวนการทางการเงินจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดหาสภาพคล่องที่จำเป็นต่อการเติบโตและก้าวหน้าให้แก่ซัพพลายเออร์ในประเทศได้ นอกจากนี้ ความคิดริเริ่มนี้ยังสอดคล้องกับพันธกิจของเราในการสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยและของรัฐบาลที่มุ่งเสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานของประเทศ ซึ่งเราจะร่วมกันสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับอนาคต” 

คุณ Rene Ho ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Taulia กล่าวว่าเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ประกาศความร่วมมือกับ อินโดรามา เวนเจอร์ส ในการบรรลุเป้าหมายกระแสเงินสดอิสระภายใต้โครงการ IVL 2.0 เราเข้าใจถึงบทบาทสำคัญที่ห่วงโซ่อุปทานมีต่อความสำเร็จของบริษัท ผ่านโปรแกรมการชำระเงินล่วงหน้าของ Taulia เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ซัพพลายเออร์ทุกขนาดสามารถเข้าถึงสภาพคล่องที่ต้องการ ผ่านกลยุทธ์และกรอบการทำงานที่ได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบ โครงการนี้ยังถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของเราทั่วเอเชีย ซึ่งเราจะยังคงสนับสนุนบริษัทในเอเชียในการเติบโตและเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป” 

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ร่วมกับศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความยั่งยืน (SEAMEO SEPS) และ Yunus Thailand ประกาศความสำเร็จโครงการ Waste Hero Education ในงาน ‘2024 Waste Hero Excellence Announcement’ ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของอินโดรามา เวนเจอร์ส ในกรุงเทพฯ  ความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมการศึกษาด้านการจัดการขยะอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในหมู่ครู นักเรียน และชุมชน 

โครงการ Waste Hero Education ได้เปิดตัวแคมเปญร่วมกันในปี 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมทรัพยากรการศึกษา Waste Hero ให้แก่โรงเรียนและครูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมุ่งเน้นไปที่ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และเมียนมาร์ โครงการนี้ได้มีส่วนร่วมกับนักการศึกษาจำนวนกว่า 1,700 คน ผ่านกิจกรรมริเริ่มต่างๆ ซึ่งรวมถึงการฝึกอบรมครูแกนนำ Waste Hero Master จำนวน 10 ครั้ง การประกวดรางวัล Waste Hero ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการสัมมนาผ่านออนไลน์ที่สร้างพลังบวก จำนวน 3 ครั้ง 

ด้วยการสะท้อนผลกระทบที่สำคัญจากการประเมินผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (Social Return on Investment หรือ SROI) ในประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นว่า ทุกๆ ดอลลาร์ที่ใช้ไปสามารถสร้างมูลค่าทางสังคมได้เกือบห้าเท่า ตอกย้ำถึงอิทธิพลเชิงบวกของโครงการต่อชุมชน นอกจากนี้ การแข่งขันโรงเรียน Waste Hero ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและการจัดการขยะ ได้มีโรงเรียนจากทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอื่นๆ เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 53 โรงเรียน โดยมี 5 โรงเรียน ที่ได้รับรางวัลสำหรับความสำเร็จที่โดดเด่นในการนำทรัพยากรการศึกษา Waste Hero มาใช้ในหลักสูตร กิจกรรม และนโยบายของโรงเรียน นอกจากนี้ โรงเรียนเหล่านี้ยังแสดงให้เห็นถึงการลดขยะลงอย่างมีนัยสำคัญ การสร้างรายได้จากการรีไซเคิล และการมีส่วนร่วมของชุมชน 

โรงเรียนที่ได้รับรางวัลทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ โรงเรียน Dorokha ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในประเทศภูฏาน โรงเรียน SDN Hegarmanah Jatinangor Sumedang ในประเทศอินโดนีเซีย โรงเรียน La Salle Sentul ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในประเทศมาเลเซีย โรงเรียน San Luis National ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในประเทศฟิลิปปินส์ และโรงเรียนบ้านคำเม็กหนองนางฟ้า จังหวัดยโสธร ในประเทศไทย 

นางสุจิตรา โลเฮีย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทฯ และประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “เรายินดีฉลองความสำเร็จของโครงการ Waste Hero ร่วมกับพันธมิตรที่ทรงคุณค่าของเรา SEAMEO SEPS และขอแสดงความยินดีกับโรงเรียนที่มีความพยายามอย่างยอดเยี่ยมทุกแห่ง สำหรับอินโดรามา เวนเจอร์ส เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยการส่งเสริมทรัพยากรการศึกษาและการมีส่วนร่วมของโรงเรียน โดยความร่วมมือครั้งนี้จะส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่มีความสามารถในการจัดการขยะอย่างรับผิดชอบและปกป้องโลกของเรา” 

นางสาวดุริยา อมตวิวัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ระดับภูมิภาคของซีมีโอว่าด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความยั่งยืน (SEAMEO SEPS) กล่าวว่า “SEAMEO SEPS มีบทบาทสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับทรัพยากรการศึกษา Waste Hero ในกลุ่มคุณครูและนักเรียน เราฝึกอบรมครูในการนำวัสดุเหล่านี้ไปใช้ในห้องเรียน และจัดการแข่งขันเพื่อแบ่งปันแนวคิดและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เราภูมิใจกับการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการได้สร้างขึ้น และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับอินโดรามา เวนเจอร์ส ในการส่งเสริมการจัดการขยะและเศรษฐกิจหมุนเวียนผ่านโครงการในอนาคตต่อไป” 

ความสำเร็จเหล่านี้จะเป็นไปไม่ได้เลย หากปราศจากพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลักของโครงการฯ ซึ่งรวมถึงกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทย และ Yunus Thailand ที่ให้การสนับสนุนและทุ่มเทอย่างไม่ลดละ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการให้ก้าวไปข้างหน้า 

ดร. พิเชฐ โพธิ์ภักดี รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมต่อความสำเร็จของโครงการ “นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เห็นความสำเร็จอันโดดเด่นของโครงการ Waste Hero Education โครงการนี้ได้ส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ปลูกฝังให้พวกเขามีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความยั่งยืนที่ขยายออกไปนอกห้องเรียน เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับประเทศไทยและคนรุ่นต่อไป” 

นายคาลัม แมคเคนซี่ กรรมการผู้จัดการ Yunus Thailand กล่าวว่า “โครงการ Waste Hero ไม่ได้เพียงแค่สร้างความรู้ในการจัดการขยะให้เป็นศูนย์เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการปลูกฝังคุณค่าให้เยาวชนตระหนักถึงบทบาทของพวกเขาในฐานะพลเมืองโลกที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมที่เราอยู่ เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้เยาวชนว่าพวกเขาสามารถเป็นพลังในการเปลี่ยนแปลง แม้จะเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็มีความหมาย และเมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในระดับโลกได้ ที่สำคัญคือ โครงการนี้ช่วยส่งเสริมความรู้และทักษะที่เป็นรูปธรรมให้เยาวชนสามารถจัดการขยะให้เหลือศูนย์ได้อย่างถูกต้อง ทั้งในโรงเรียน ที่บ้าน และในชุมชนของพวกเขา โดยสรุปแล้ว โครงการนี้คือการสร้างผู้พิทักษ์ขยะ หรือที่เราเรียกว่า Waste Heroes นั่นเอง” 

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับ "A" ต่อประชาชนในระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2567 ประกาศอัตราดอกเบี้ยสำหรับช่วง 5 ปีแรกไว้ที่ 6.10% ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ชุดเดิมของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ที่จะมีอายุครบ 5 ปีในเดือนพฤศจิกายน 2567

สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ เปิดเผยว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ นี้ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ด้วยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญอย่างอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ระดับ “A” และอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ที่ “AA-” แนวโน้ม “คงที่” จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ซึ่งสะท้อนสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ อัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจก็เอื้อต่อการลงทุนในช่วงเวลาที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ประวัติการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ผ่านมาของ อินโดรามา เวนเจอร์ส ซึ่งมีการไถ่ถอนทุกห้าปีและจ่ายดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ ยังเพิ่มความน่าสนใจให้กับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งนี้ด้วย

หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ อินโดรามา เวนเจอร์ส จัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส และ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต

“เรามั่นใจว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ อินโดรามา เวนเจอร์ส จะตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสการลงทุนระยะยาว ด้วยผลตอบแทนที่เอื้อกับสถานการณ์ที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับตัวลดลง” สถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่าย กล่าว

ทั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก โดยมีโรงงานกว่า 140 แห่งในกว่า 30 ประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก ทั้งเอเชียแปซิฟิก อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา ภายใต้วิสัยทัศน์ของอินโดรามา เวนเจอร์ส ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ผลิตเคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้สำหรับชีวิตของผู้คนนับหลายพันล้านในทุกๆ วัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อาหารและเครื่องดื่ม สุขอนามัย การดูแลส่วนบุคคล อุตสาหกรรมยานยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ครอบคลุมตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ขั้นต้น ซึ่งรวมถึงสารเคมีที่จำเป็นในการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึง

ผลิตภัณฑ์ขั้นปลาย อาทิ เส้นใย เส้นด้าย และเม็ดพลาสติก PET ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งใช้ในหลากหลายสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน

 

ในไตรมาสแรกของปี 2567 อินโดรามา เวนเจอร์ส มี EBITDA เท่ากับ 366 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 รวมมูลค่ากว่า 627,000 ล้านบาท โดยทริสเรทติ้งให้มุมมองว่า ผลการดำเนินงานและการเงินของ อินโดรามา เวนเจอร์ส น่าจะมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในปี 2567 เป็นต้นไป

นักลงทุนที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ อินโดรามา เวนเจอร์ส สามารถติดต่อผ่านสถาบันการเงินที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังนี้

- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา

- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Money Connect by Krungthai บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next

- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) * โทร. 02-888-8888 กด 869

- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ** โทร. 02-777-6784

- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-626-7777

- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) )*** โทร. 02-165-5555

- บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร.02-695-5000

- บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050

- บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-59

- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 02-680-4004

- บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร 02-779-9000

* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

** ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)

***ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

X

Right Click

No right click