พรูเด็นเชียล ประเทศไทย หนึ่งในผู้นำธุรกิจประกันชีวิต ร่วมกับ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มุ่งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทบริหารการลงทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียของกลุ่มพรูเด็นเชียล เดินหน้าดูแลสุขภาพที่ดีของคนไทยด้วยสุขภาพใจที่แข็งแรง มอบ PRU Wellness Clinic” อันได้แก่ คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของโรงพยาบาลศรีธัญญา และ เตรียมส่งมอบเร็วๆให้แก่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และมูลนิธิกระจกเงา ด้วยงบประมาณรวมกว่า 5 ล้านบาท

จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต ปี 2564 พบว่า จำนวนผู้ป่วยทางจิตเวชในไทย เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า จาก 1.3 ล้านคนในปี 2558 เป็น 2.3 ล้านคน ในปี 2564 ซึ่งยังไม่รวม ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าราว 1.35 ล้านคน ที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในรอบสิบปีที่ผ่านมา[1] ซึ่งปัญหาสุขภาวะจิตในประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทุกภาคส่วนควรหันมาให้ความสนใจ

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดเผยว่า “พรูเด็นเชียล เชื่อในเจตนารมณ์ที่ว่า Prudential For Every Life For Every Future : พรูเด็นเชียล ชีวิตมีกันทุกวันดีกว่า  เราเชื่อว่าการมีกันและกันจะช่วยเติมเต็มทุกวันให้ดีกว่าเดิม เรามองว่าองค์กรไม่สามารถเดินหน้าไปเพียงลำพังได้ แต่ต้องเดินหน้าอย่างมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อลูกค้า พนักงาน ชุมชน และสังคม ดังนั้น การที่สังคมจะแข็งแรง ทุกคนต้องมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ใช่แค่เพียงร่างกายแต่รวมถึงจิตใจด้วย ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดด้านต่างๆทุกวันนี้ ทำให้ผู้คนต้องเผชิญความท้าท้ายกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตมากขึ้น เราตระหนักถึงความสำคัญต่อการดูแลสุขภาวะจิต จึงได้จัดทำโครงการ “คลินิกสุขภาพพรู (PRU Wellness Clinic)” เพื่อดูแลและให้คำปรึกษา ด้วยมุ่งหวังว่าจะช่วยเหลือผู้ที่มีความเปราะบางด้านสุขภาวะจิตให้ได้รับคำปรึกษาอย่างถูกต้องและรวดเร็ว”

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “วันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ บลจ.อีสท์สปริง  ได้ร่วมกับ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน และ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ส่งมอบ “คลินิกสุขภาพพรู (PRU Wellness Clinic)” ให้แก่ คลินิกจิตเวชเด็กและวัยรุ่นของโรงพยาบาลศรีธัญญา เนื่องจากทุกวันนี้ สุขภาวะทางจิตโดยเฉพาะกับเด็กและวัยรุ่น ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จากรายงานของกรมสุขภาพจิต[2]พบว่าเด็กไทยมีภาวะเครียดสูงขึ้น ดังนั้น เรามุ่งหวังว่า คลินิกจิตเวชแห่งนี้จะเป็นที่พักใจในการดูแลและให้คำปรึกษาแก่เด็กๆ ทุกคน”

โครงการ คลินิกสุขภาพพรู (PRU Wellness Clinic) ให้บริการแบบ One Stop Service คือ บริการครบวงจรตั้งแต่การประเมินการรักษาตลอดจนให้คำปรึกษาและดูแลจากคลินิกสุขภาพจิต นอกจากนั้น  ยังให้การสนับสนุนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถเข้าไม่ถึงกระบวนการในการบำบัดและรักษา อาทิ กลุ่มผู้ป่วยด้อยโอกาส กลุ่มคนไร้บ้าน และคนยากจน  โดยขณะนี้ได้ส่งมอบ PRU Wellness Clinic ที่แรกให้แก่ คลินิกสุขภาพจิตของโรงพยาบาลศรีธัญญา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  และ เตรียมส่งมอบเร็วๆนี้ ให้แก่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาส โดยมุ่งหวังว่าคลินิกแห่งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระงาน รวมถึงช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาล  และมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสให้กลุ่มคนที่เปราะบางเหล่านั้น ได้กลับเข้าสู่สังคมปกติได้ในเร็ววัน มีความพร้อมทั้งสุขภาพกายและใจ สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติอย่างคนทั่วไป


[1] https://www.etda.or.th/th/

[2] ประเมินสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นไทยกว่า 1.8 แสนราย พบเครียดสูง เสี่ยงซึมเศร้า ติดจอติดเกมออนไลน์มากขึ้น!! | Hfocus.org

มอบโอกาสเยาวชนให้พัฒนาศักยภาพ พร้อมต่อยอดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เพื่อส่งพลังแห่งการให้คืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน

อีสท์สปริง อินเวสท์เมนท์ (“อีสท์สปริง”) บริษัทจัดการการลงทุนในภูมิภาคเอเชียที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการกว่า 222,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ[1] ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential plc) วันนี้ได้ประกาศแต่งตั้งนางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ (CEO) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการ

นางสาวดารบุษป์จะเข้าดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการอนุมัติของหน่วยงานกำกับ โดยจะรายงานตรงต่อนางสาวเวนดี้ ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียและหัวหน้าฝ่ายช่องทางการจัดจำหน่าย การตลาด และผลิตภัณฑ์ ของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์

นางสาวดารบุษป์จะเข้ามาดูแลรับผิดชอบธุรกิจของอีสท์สปริงในประเทศไทย พร้อมเป็นผู้ขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจทั้งในส่วนผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายย่อย รวมถึงการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่าย การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและคู่ค้า การคิดค้นโซลูชันการลงทุน และการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลของอีสท์ปริง นางสาวดารบุษป์สั่งสมประสบการณ์กว่า 24 ปีในเส้นทางอาชีพสายธุรกิจจัดการกองทุน และบทบาทความรับผิดชอบล่าสุดคือเป็นผู้ขับเคลื่อนช่องทางธุรกิจผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุนและธุรกิจลูกค้าสถาบัน ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยก่อนหน้านั้น นางสาวดารบุษป์ดำรงตำแหน่งผู้บริหารที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม พรีมาเวสท์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด

นางสาวเวนดี้ ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียและหัวหน้าฝ่ายช่องทางการจัดจำหน่าย การตลาด และผลิตภัณฑ์ ของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ กล่าวต้อนรับการเข้าดำรงตำแหน่งครั้งนี้ว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคุณดารบุษป์สู่อีสท์สปริง หลังจากความสำเร็จในการควบรวมบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) ในเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยประวัติการทำงานที่เป็นที่ยอมรับในการสร้างความก้าวหน้าทางธุรกิจและส่งเสริมวัฒนธรรมความสำเร็จภายในทีม ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในช่วงเวลาที่เรากำลังขยายธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการจัดการ จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ และปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


[1]  AUM ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565

บลจ.อีสท์สปริง ประเทศไทย จัดงานมหกรรมการลงทุนเพื่อวางแผนภาษี “โค้งสุดท้าย! คัดเน้นๆ SSF-RMF หลากหลายธีมลงทุนจากทั่วโลก

 นายจักรพงษ์ เมษพันธุ์ หรือ โค้ชหนุ่ม จาก The Money Coach,  นายถนอม เกตุเกม จากเพจ TaxBugnoms, นายเธียรวิชญ์ จิตตมานนท์กุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายฝึกอบรม บมจ. พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต, นายอติชาญ เชิงชวโน จากเพจ spin9 ยูทูบเบอร์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดัง และ นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง มาร่วมพูดคุย และร่วมให้มุมมองการลงทุนเพื่อวางแผนภาษีไว้อย่างน่าสนใจ

ในช่วงเริ่มต้นงานสัมมนา นายถนอม ได้กล่าวถึงการวางแผนภาษีไว้ว่า การวางจัดการการเงินของตัวเองเพื่อให้มีเงินเหลือและเงินเก็บ ไม่ได้จำกัดแค่การจัดการลดหย่อนภาษีเท่านั้น เพราะหากเราเข้าใจ ก็จะทำให้เรามีเงินมากขึ้น นอกจากนั้นยังพบว่าหลายคนยังติดกับดักของผู้ชนะ คือ ยิ่งได้เงินภาษีคืนมากเท่าไหร่ก็นับว่าเป็นชัยชนะมากเท่านั้น ซึ่งจริง ๆ แล้วอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป

หลังจากนั้นโค้ชหนุ่มได้กล่าวเสริมว่า จริง ๆ แล้ว ทุกคนทราบดีว่าภาษี คือ ค่าใช้จ่ายขนาดใหญ่ แต่หลายคนกลับมองข้าม ไปโฟกัสการใช้จ่ายอย่างอื่นมากกว่า ดังนั้น การวางแผนภาษี ในทางหนึ่งก็คือการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีศิลปะ บางครั้งการมุ่งมั่นที่จะลดหย่อนภาษีมากเกินพอดี ก็อาจทำให้เราไม่มีเงินมาจับจ่ายใช้สอยได้ ดังนั้นการวางแผนภาษีที่มีความพอดีนี้ จะต้องดูทั้งความคุ้มครองและความมั่งคั่งด้วย เพราะโจทย์ไม่ใช่ว่าซื้อประกันหรือยัง แต่โจทย์คือเรามีความคุ้มครองเพียงพอหรือไม่ และในทางเดียวกันการลงทุนในกองทุนที่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีนั้น เราก็ควรถามตัวเองด้วยเหมือนกันว่าส่วนที่เราลงทุนเพียงพอกับที่ใช้จ่ายในตอนเกษียณอายุหรือไม่ ซึ่งในตอนท้าย ทั้งสองท่านมีความเห็นตรงกันว่า ปีนี้ค่อนข้างเป็นปีที่มีความยาก ทั้งในด้านการวางแผนการเงินเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และในด้านการเลือกกองทุน เพราะปีนี้เป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายในเกือบทุกสินทรัพย์

ต่อมา นายเธียรวิชญ์ ได้ให้แง่คิดในการเลือกซื้อประกันไว้ว่าต้องให้ความสำคัญที่ความคุ้มครองด้วย และควรคำนึงมากกว่าแค่ส่วนลดหย่อนภาษีที่ได้รับ โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เลือกที่สามารถตอบโจทย์ความคุ้มครองได้ครอบคลุมแน่นอน

หลังจากนั้น เพื่อเจาะลึกเทรนด์น่าลงทุนในอนาคต นายอติชาญ เชิงชวโน จากเพจ spin9 ได้มาแนะนำเทรนด์ที่น่าสนใจไว้หลายเทรนด์ด้วยกัน  โดยมีเทรนด์ในช่วง 3-5 ปี ที่โดดเด่น คือ พลังงานสะอาด เพราะเราเห็นนโยบาย Net Zero นโยบายกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture) เป็นรูปธรรมมากขึ้น และมีดัชนีชี้วัดง่าย ๆ ตอนนี้หลายคนก็เริ่มคิดแล้วว่ารถคันต่อไปจะเป็นรถยนต์ EV หรือเปล่า สำหรับ EV เป็นเทรนด์ใหญ่ ที่ไม่ได้มีเฉพาะในไทย ในต่างประเทศ เทรนด์นี้ไปไกลมาก เพราะในปี 2030 ทั้งบริษัท Mercedes Benz และ BMW ตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100%

ในช่วงท้ายของงานสัมมนา คุณบดินทร์ได้กล่าวว่า สำหรับผู้ที่สามารถรับความเสี่ยงได้ อยากให้มองกองทุนหุ้นโลกเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในระยะยาว แต่ผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยก็สามารถเลือกกองทุนตราสารหนี้โลกเพื่อกระจายความเสี่ยงได้ โดยได้แนะนำ 3 กองทุน น่าลงทุน คือ กองทุน TMBGQGRMF กองทุน T-ES-GCG-SSF และ T-ES-GCG-RMF และกองทุน TMBGINCOMERMF

สำหรับกองทุน TMBGQGRMF เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลกโดยเน้นการคัดเลือกบริษัทที่ทั้งเติบโต (Growth) และมีคุณภาพ (Quality) ปรับน้ำหนักหุ้นอย่างเป็นระบบตามภาวะเศรษฐกิจ ด้วยทีมนักวิเคราะห์ที่คอยจับตามวัฏจักรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพิ่มน้ำหนักหุ้นเติบโตเมื่อเศรษฐกิจดี และสับเปลี่ยนเข้าหุ้นคุณภาพเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ จัดพอร์ตกระจายการลงทุนในหุ้น 60-90 บริษัท และจำกัดไม่ให้น้ำหนักหุ้นกระจุกตัวใน Top-holding มากจนเกินไป เหมาะสำหรับจัดเป็น Core Portfolio

กองทุน T-ES-GCG-SSF และ T-ES-GCG-RMF 2 กองทุนคู่แฝดที่เน้นลงทุนหุ้นเติบโตจากทั่วโลกเพียง 25-35 บริษัท โดยเลือกลงทุนในบริษัทคุณภาพที่มีการเติบโตสม่ำเสมอ เหมาะเน้นการลงทุนระยะยาว

สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก แนะนำกองทุน TMBGINCOMERMF เน้นลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเทศทั่วโลก ปรับสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทต่าง ๆ เช่น เงินฝาก หุ้นกู้ พันธบัตร ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อค้ำประกัน ตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง และเน้นลดความผันผวนในช่วงที่ทิศทางดอกเบี้ยกำลังเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ หากสนใจลงทุน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.eastspring.co.th หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือตัวแทนการสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับแต่งตั้ง

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

X

Right Click

No right click