กลยุทธ์ในการเผยโฉมภาพลักษณ์ใหม่ มุ่งสู่การเป็น “แบรนด์ลักชัวรี่ระดับโลกแบรนด์แรกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” (The first Southeast Asian global luxury brand) ด้วยการนำเสนอเรื่องราวของรากเหง้าและตัวตนที่โดดเด่นของ จิม ทอมป์สัน สู่ “สไตล์” อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมเปิดตัว “จิม ทอมป์สัน แฟล็กชิปสโตร์” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ดร.เจอร์ราลด์ เมซซาโลโว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท จิม ทอมป์สัน กล่าวว่า “ความท้าทายของ จิม ทอมป์สัน คือ การยกระดับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและการสร้างเอกลักษณ์ โดยเราได้วางจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวสู่การเป็น “แบรนด์ลักชัวรี่ ระดับโลกแบรนด์แรกจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่เด่นชัดด้วยอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) ซึ่งเกิดจากการผสานรวม 2 ส่วนสำคัญ คือ สิ่งที่แบรนด์เชื่อมั่นและให้คุณค่าสูงสุด (Brand Ethics) และสุนทรียภาพของแบรนด์ (Brand Aesthetics)
โดยเริ่มจากการสร้างทีมงาน (Team Building) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ อาทิ ทีมออกแบบและพัฒนาที่ประกอบด้วยดีไซเนอร์ชั้นนำจากไทยและต่างประเทศที่ได้กำหนดฤดูกาลของแต่ละคอลเลคชั่นที่ครอบคลุมทั้งสินค้า Ready-to-wear สำหรับสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ
รวมถึงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่มกระเป๋าหนัง กระเป๋าผ้าไหมและผ้าแคนวาส (Canvas) เนคไท ผ้าพันคอ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังได้ขยายสู่ “จิม ทอมป์สัน แฟล็กชิปสโตร์” ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งจะเป็นต้นแบบในการเปิดตัวในมหานครต่างๆ ทั่วโลกในอนาคต อาทิ ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ นิวยอร์ก ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ รวมถึงยังมีแผนพัฒนาระบบการขายแบบอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ที่พร้อมให้บริการภายในเดือนตุลาคมของปีนี้อีกด้วย”
จิม ทอมป์สัน ยังมีแผนขับเคลื่อนภาพลักษณ์ใหม่ผ่านการขยายทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เตรียมเปิดร้านอาหารไทยระดับไฮ-เอนด์ บนพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ในไตรมาศแรก ในปี พ.ศ. 2561 กลุ่มสินค้าผ้าตกแต่งบ้าน (Home Furnishings) ก็ได้ขยายธุรกิจสู่เมืองชั้นนำ ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องทั้งใน สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
มร. ฌอง คริสตอฟ วิเลน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ จิม ทอมป์สัน กล่าวว่า “วิภาษวิธี (Dialectics) เช่นวัฒนธรรมตะวันตก-ตะวันออก / วัฒนธรรมเมือง-วิถีชนบท / ความเชื่อง-ความดิบเถื่อน / อดีต-ปัจจุบัน / ความดั้งเดิม-ความสมัยใหม่/ ความมืด-สีสัน ปรากฏอยู่ในทุกส่วนในการสร้างสรรค์แบรนด์ จิม ทอมป์สัน วิภาษวิธีเหล่านี้ จะเป็นตัวกำหนดลักษณะภายนอกและดีไซน์
และเนื่องจาก จิม ทอมป์สัน เป็นแบรนด์ที่มีตัวตน ซึ่งตัวตนของแบรนด์ ก็คือ ไหม ต้องยกความดีให้กับไหมที่เป็นตัวแทนอย่างดีของความคิดสร้างสรรค์จากธรรมชาติเมืองร้อน ความมั่งคั่งของวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ จิม ทอมป์สัน มีสิทธิ์ที่จะเป็นแบรนด์ลักชัวรี่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเมื่อผ้าไหมผสมผสานกับความสวยงามของรูปแบบ (pattern) และสีสัน สร้างบุคลิกให้กับดีไซน์และความมีชีวิตชีวาของสินค้า ความสม่ำเสมอและความต่อเนื่องเหล่านี้ จะแทรกซึมไปในกระบวนการและวิวัฒนาการของรูปแบรนด์โดยรวมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่หลายหลายให้กับลูกค้า
วันนี้ จิม ทอมป์สัน อยู่ในช่วงเวลาพิเศษ ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ เกิดขึ้น ในหลายๆ องค์ประกอบ จากส่วนที่เล็กที่สุดไปยังส่วนที่ใหญ่ที่สุด ทั้งอัตลักษณ์ใหม่ ร้านแฟล็กชิบสโตร์ แคมเปญโฆษณา รวมถึงสินค้า แม้จิม ทอมป์สัน จะมีความแตกต่างในองค์ประกอบต่างๆ แต่ก็สามารถสร้างสรรค์สไตล์ที่สอดคล้องต่อเนื่องได้”
“จิม ทอมป์สัน แฟล็กชิป สโตร์ ไม่ใช่ร้านที่ถูกปรับปรุงใหม่ให้ดูหรูหรา แต่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดให้แตกต่างจากร้านลักชัวรี่แบรนด์อื่น โดยเรายึดตัวตนของแบรนด์เป็นแนวคิดหลัก “บ้านริมคลอง” ของ มร.จิม ทอมป์สัน ได้สร้างความโดดเด่นของการเดินทางมาพบกันของความงดงามทางสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน และ สวนเมืองร้อน อันสะท้อนถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของกรุงเทพฯ
พิพิธภัณฑ์บ้าน จิม ทอมป์สัน จึงนำมาซึ่งแนวคิดหลักในการออกแบบร้าน นั่นคือ การสร้างความสอดคล้องและความแตกต่างระหว่างสวนกับพื้นที่อันเป็นส่วนตัวด้านในการตื่นเต้นกับความแปลกใหม่ กับความคุ้นเคยกับสิ่งที่มีอยู่ ภายในร้านจึงถูกออกแบบเป็น 2 พื้นที่หลัก
ส่วนแรก คือส่วนของสวนเมืองร้อน ตกแต่งด้วยต้นไม้ สัมผัสถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติและโอบล้อมด้วยม่านผ้าไหมสีเขียว สร้างความขัดแย้งกับไม้ซึ่งเป็นสีน้ำตาล และสีดำอันนำมาซึ่งความลึกลับ น่าค้นหา สินค้าผ้าไหม ทั้งกระเป๋า ผ้าพันคอ เนคไท ลายพิมพ์ต่างๆ สร้างสีสันให้พื้นที่เป็นอย่างดี
ในส่วนที่ 2 คือส่วน Alcove จัดวางสินค้ากลุ่ม เสื้อผ้าชาย หญิง และสินค้าตกแต่งบ้าน ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสะท้อนความเป็นไทย เสียงที่ใช้ในร้านก็เป็นส่วนสำคัญในแนวคิดครั้งนี้ เมื่ออยู่ในสวนจะได้ยินเสียงธรรมชาติของป่าเขตร้อน แต่เมื่อก้าวเข้ามาใน Alcove ลูกค้าจะได้สัมผัสถึงดนตรีไทยอันผสมผสานกับอิเล็กทรอนิกส์ซาวด์