ชูเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไร้ความร้อน เพิ่มความคุ้มค่าสูงสุด ผ่านการประหยัดพลังงาน ประหยัดเวลา ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
จากผลสำรวจของ GfK Asia ที่ได้ทำการสำรวจผู้ใช้พรินเตอร์ในสำนักงานทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 2,864 คน ผลปรากฏว่า 98% ชื่นชอบ Epson EcoTank โดยผู้ร่วมสำรวจในประเทศสิงคโปร์ ชี้ถึงปัจจัยหลักในการพิจารณาเลือกซื้อพรินเตอร์ คือ เทคโนโลยีที่ยั่งยืน คุณภาพงานพิมพ์ที่เหนือกว่า ต้นทุนการทำงานต่ำ รวมถึงความง่ายในการบำรุงรักษา และความน่าเชื่อถือของพรินเตอร์ ซึ่งตรงกับนโยบายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเอปสันนั่นเอง เอปสันจึงเดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง ด้วยการส่งพรินเตอร์ EcoTank เพื่อการใช้ในสำนักงาน ได้แก่ รุ่น L3550 และ L5590 พรินเตอร์แบบมัลติฟังก์ชันที่รองรับงานพิมพ์ขนาด A4 และพิมพ์แบบไร้ขอบสูงสุดขนาด 4R ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัดแต่ฟังก์ชันครบจบในเครื่องเดียว มาพร้อมชุดหมึกขวดบรรจุสูง 4 สี โดยชุดหมึก 1 ชุดสามารถพิมพ์ขาวดำได้ 4,300 แผ่น และพิมพ์สีได้ถึง 7,300 แผ่น สำหรับความเร็วในการพิมพ์ขาวดำและสีอยู่ที่ 15 และ 8 ภาพต่อนาที (ipm) และสำหรับรุ่น L5590 มาพร้อมกับฟังก์ชั่นแฟกซ์ในตัว กล่องบำรุงรักษาถอดเปลี่ยนเองได้อย่างง่ายดาย ทำให้ไม่เสียเวลานำเครื่องไปที่ศูนย์บริการ พร้อมรองรับการใช้งานแอพพลิเคชัน Epson Smart Panel ที่ช่วยในการสั่งพิมพ์ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต ทำให้สามารถพิมพ์งานจากที่ใดก็ได้ เหมาะสำหรับใช้งานในแผนกต่างๆ ของสำนักงาน
นอกจากนี้ ทั้งสองรุ่นนี้ยังใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore แบบ Heat-Free ที่ไม่ใช้ความร้อนในการพิมพ์ สามารถช่วยลูกค้าลดภาระจากกระบวนการพิมพ์ที่ต้องเผชิญเมื่อเลือกใช้เลเซอร์พรินเตอร์ ทั้งค่าไฟที่ลดลง ใช้ชิ้นส่วนอะไหล่และวัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่า จึงช่วยลดโอกาสเกิดความเสียหาย ดูแลรักษาง่ายกว่า อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงฮาร์ดแวร์ยังผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 30%
มีการใช้วัสดุสิ้นเปลืองน้อยกว่าพรินเตอร์แบบตลับหมึกถึง 84% และบรรจุภัณฑ์ทำจากกระดาษแข็งรีไซเคิลกว่า 80% ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายเพื่อความยั่งยืนของเอปสัน และได้รับการพัฒนาให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นกว่า EcoTank รุ่นก่อน เอปสันจึงพร้อมรับประกันนาน 2 ปี หรือ 50,000 แผ่น แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน