LINE BK ผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในเมืองไทย ครบรอบ 3 ปี มียอดผู้ใช้งานกว่า 6 ล้านคน เผยได้รู้จักลูกค้าในหลากหลายแง่มุมจากพฤติกรรมการใช้งา พร้อมสรุปสถิติที่น่าสนใจ ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงง่ายเพื่อคนไทยทุกคน ช่วยบรรเทาปัญหาการเงินให้ลูกค้าในยามวิกฤต เดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 4 มุ่งพัฒนาระบบ AI หลังบ้าน และพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าให้มากขึ้นในอนาคต

ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในเมืองไทย ภายใต้ชื่อ LINE BK เปิดเผยว่า นับเป็นเวลา 3 ปี ที่ LINE BK ได้ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับคนไทย และมุ่งพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์การเงินที่สะดวกกว่าเดิม ทำให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายในแอปพลิเคชัน LINE ท่ามกลางความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย แต่บริษัทฯ ก็สามารถเดินหน้าธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งนอกจากจำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ปัจจุบันมีมากกว่า 6 ล้านรายแล้ว ตลอดเส้นทางความสำเร็จ LINE BK ยังได้ทำความรู้จักลูกค้าในหลายแง่มุมจากพฤติกรรมการใช้งาน พร้อมสรุปออกมาเป็นสถิติการใช้งานที่น่าสนใจ

ด้านธุรกรรมทางการเงิน LINE BK ยังคงพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อให้การใช้งานสะดวก ปลอดภัย และสนุกมากขึ้น รองรับพฤติกรรมของคนยุคดิจิทัล รวมทั้งผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำมากมายจัดทำแคมเปญอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เช่น Shopee, Lazada foodpanda, Agoda และ iQIYI เพื่อมอบส่วนลดและโปรโมชันต่าง ๆ เพิ่มความคุ้มค่าทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต LINE BK และนอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันร่วมกับพาร์ทเนอร์แจกเงินคืน เมื่อใช้ฟีเจอร์สแกนจ่าย QR พร้อมเพย์ด้วย LINE BK ณ ร้านที่ร่วมรายการ อาทิ จับมือกับ Tops, Watsons และเต่าบิน ทั้งนี้ พฤติกรรมการใช้งานฟีเจอร์ด้านธุรกรรมการเงินของ LINE BK พบว่า ฟีเจอร์โอนเงินผ่านแชท (In chat transfer), สแกนจ่ายด้วย QR (Scan QR) และ แชร์เงิน (Split bill) เป็น 3 ฟีเจอร์ยอดฮิต ในขณะที่ 3 ซองเงินโอกาสพิเศษที่ถูกส่งมากที่สุด นำมาด้วยอันดับ 1 บอลโลก และอันดับ 2 ลอยกระทง สุดท้ายอันดับ 3 ตรุษจีน ส่วนเป้าหมายออมเงินในบัญชีออมเงินดอกพิเศษ 3 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 เพื่อลูก อันดับ 2 เพื่อความมั่งคั่ง และ อันดับ 3 เพื่อท่องเที่ยว

ด้านบริการสินเชื่อ (วงเงินให้ยืมและวงเงินให้ยืมนาโน) LINE BK มุ่งเจาะลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อของระบบธนาคาร ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน บรรเทาปัญหาความยากลำบากให้ลูกค้าในยามวิกฤติ ตอกย้ำการเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่เข้าถึงง่ายเพื่อคนไทยทุกคน ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ ได้มีการออกบูธประชาสัมพันธ์บริการ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าจากพื้นที่จริง พบว่าลูกค้าที่สนใจเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับบริการยืมเงิน กว่า 70% จะเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า และไรเดอร์ ชี้ให้เห็นว่า LINE BK เป็นตัวช่วยทางการเงินที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่หลากหลายอย่างแท้จริง

สำหรับภาพรวมลูกค้าสินเชื่อของ LINE BK สัดส่วนอยู่ที่ภาคกลาง 56% ตามด้วยภาคตะวันออก และภาคอีสาน โดยเป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระมากกว่า 53% และได้วงเงินเฉลี่ยอยู่ที่ราว 36,000 บาท ด้านเหตุผลที่คนยืมเงิน LINE BK พบว่า บริการวงเงินให้ยืม คนส่วนใหญ่ยืมไปเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว และเพื่อเป็นวงเงินสำรองเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนบริการวงเงินให้ยืมนาโน คนส่วนใหญ่จะยืมเงินไปเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือกระแสเงินสดสำรองสำหรับธุรกิจ ทั้งนี้ยังได้มีการช่วยเพิ่มวงเงินให้กับลูกค้าที่มีความต้องการและชำระคืนได้ดีกว่า 80,000 ราย และเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้คนไทย LINE BK ยังมีการมอบดอกเบี้ยพิเศษให้ลูกค้า ในช่วงเดือน กันยายน - ตุลาคม 2566 อีกด้วย

ด้านประกัน LINE BK เดินหน้าตอบโจทย์ความต้องการด้านการเงินให้กับลูกค้าอย่างครอบคลุม เปิดตัวบริการ LINE BK Insurance Broker เพื่อเติมเต็มบริการในมิติของการป้องกันความเสี่ยง ภายใต้บริษัทกสิกร ไลน์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ตอกย้ำการเดินตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งโปรโมชันพิเศษจัดเต็มความคุ้มค่า เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงความคุ้มครองประกันชีวิตได้ง่าย ๆ ผ่าน LINE BK ด้วยความคุ้ม 2 ต่อ รับเงินคืน 15% ทุกกรมธรรม์ และลุ้นรับจี้ทองคำเทพนกกระเรียนเสริมมงคลหนัก 1 บาท จำนวน 15 รางวัล โปรโมชันตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 พฤศจิกายน 2566*

ทั้งนี้ จากข้อมูลลูกค้าที่ซื้อประกันผ่าน LINE BK ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 25-44 ปี และเป็นเพศหญิงมากถึง 62% โดยแบบประกันที่ได้รับความนิยม 3 อันดับ ได้แก่ 1 ผู้ป่วยนอกเบาเบา 2 โรคร้ายเจอจ่าย และ 3 ผู้ป่วยในเหมาเหมา ทั้งนี้ยังพบว่าลูกค้ามีความสนใจซื้อประกันมากกว่า 1 กรมธรรม์ โดยจะเลือกซื้อแบบประกันที่มีความคุ้มครองคนละด้านเพื่อครอบคลุมความกังวล ซึ่งช่วยตอกย้ำให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ประกันที่ขายใน LINE BK มีความคุ้มค่าและตรงใจผู้ซื้อตามคอนเซ็ปต์ที่วางไว้ คือ ประกันโดนใจ ซื้อง่าย จ่ายเบา จบใน LINE

ธนากล่าวทิ้งท้ายว่า “การก้าวสู่ปีที่ 4 LINE BK ยังคงมีการพัฒนาระบบ AI หลังบ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเข้าใจลูกค้าและนำเข้ามาช่วยในเรื่องการอนุมัติสินเชื่อ ช่วยให้คนไทยที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งจะเป็นก้าวแรกที่นำคนเหล่านี้เข้าสู่ระบบธนาคาร พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาบริการใหม่ ๆ เพื่อขยายขอบเขตการนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้มากขึ้นในอนาคตและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างครอบคลุม”

LINE ประเทศไทย เดินหน้าส่งเสริมวิถี “เซลฟ์แคร์” (Self Care) การดูแลสุขภาพกาย–ใจในยุคดิจิทัล ด้วยตัวเอง เริ่มนำร่องในวันสุขภาพจิตโลก 10 ตุลาคม นี้เป็นต้นไป จับมือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ Love Frankie และ Art for Cancer ร่วมจัดเต็มกิจกรรม-คอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพจิตและการดูแลรักษาโรคมะเร็ง ผ่าน 3 บริการฮิต LINE VOOM – LINE OpenChat – LINE TODAY สานต่อแนวคิด LINE Digital Well-being ให้การดูแลตัวเองเป็นเรื่องง่ายและทำได้ในชีวิตประจำวัน 

ในช่วงเวลาสองสามปีที่ผ่านมาความสนใจในเรื่อง “เซลฟ์แคร์” (Self Care) การดูแลตัวเอง เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จากความตึงเครียดสะสมของสภาพสังคมและเศรษฐกิจ ผู้คนจึงเริ่มสนใจมองหาวิธีในการดูแลตัวเองทั้งร่ายกายและจิตใจ หลายคนอาจคิดว่า “การดูแลตัวเอง” เป็นภาระที่ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงหรืออาจต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เซลฟ์แคร์เริ่มต้นได้ด้วยการลงมือทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเองในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้คนบนโลกดิจิทัลที่มักจะหาข้อมูลคอนเทนต์ที่สามารถใช้ตรวจสอบ ดูแล และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและอาการผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยตัวเองก่อนจะเข้าหาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ 

LINE ประเทศไทย เห็นความสำคัญและความต้องการข้อมูลที่เชื่อถือได้ของผู้ใช้บนโลกออนไลน์ จึงเดินหน้าจับมือพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญ Love Frankie ครีเอทีฟเอเจนซีเพื่อสังคม ผู้ผลิตคอนเทนต์ส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกด้านสุขภาพจิตในการใช้ชีวิตและเผชิญปัญหาในสังคม และ Art for Cancer องค์กรเพื่อสังคมที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง ผ่านรูปแบบการใช้ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์เป็นสื่อกลาง โดยทั้ง 2 หน่วยงาน จะผลิตคอนเทนต์คุณภาพนำเสนอสู่ผู้ใช้งาน LINE ผ่าน 3 บริการ ได้แก่  LINE VOOM – LINE OpenChat – LINE TODAY

LINE VOOM ชวนทุกคนมีส่วนร่วมในคอนเทนต์คุณภาพไปกับ Art for Cancer ร่วมสร้างคลิปคอนเทนต์เป็นยากำลังใจให้ผู้ป่วยมะเร็ง หรือ ร่วมแชร์ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ พร้อมติด #ArtforCancer โชว์ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น พร้อมชวนร่วมชมคลิปสั้น สนทนาปัญหาสุขภาพจิตจาก Love Frankie เคล็ดลับวิธีการเยียวยาจิตใจตัวตนเองในทุกๆ วัน 

สนุกกับฟิลเตอร์พิเศษบน LINE VOOM ได้ที่ https://lin.ee/O71A7QfN/lntl/PR 

LINE OpenChat พบกับสารพัน Live talk กับห้องสนทนาด้วยเสียงได้ตลอดทั้งปี โดย episode พิเศษจาก “ดีเจพี่อ้อย นภาพร” และคุณออย ไอรีล ไตรสารศรี ผู้ก่อตั้ง Art for Cancer ที่จะมาร่วมทอล์กเพิ่มพลังใจเพื่อผู้ป่วยและการดูแลผู้ป่วยมะเร็งในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ เวลา 12.00 น.

ติดตามได้ห้อง OpenChat ART for CANCER: https://lin.ee/79ykw2M/gyjp

นอกจากนี้ยังมีแคมเปญ The Nook จาก Love Frankie ที่มีกลุ่มโอเพนแชท #WTFeeling by #TheNook พื้นที่กิจกรรมด้านสุขภาพจิตที่หลากหลายสำหรับวัยรุ่นให้ได้ติดตามกันในระยะยาวโดยภายในห้อง OpenChat มีนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพจิตที่จะคอยพูดคุยกับสมาชิกในห้อง

ทั้งยังสามารถติดตาม “เขื่อน ภัทรดนัย” ที่จะมาร่วมทอล์กในซีรีย์ vlog What's This Feeling (WTF) เกี่ยวกับสารพัดหัวข้อสุขภาพจิตของคนเมือง เริ่มจาก episode แรก “Alone Together โดดเดี่ยวไปด้วยกัน สานสัมพันธ์ ทลายความเดียวดาย” บนช่องทางของ Love Frankie

ติดตามห้อง OpenChat #WTFeeling by #TheNook ได้ที่: https://lin.ee/ri5Nc73/gyjp 

LINE TODAY รวบรวมทุกคอนเทนต์สาระความรู้เพื่อการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจจากทั้ง Love Frankie และ Art for Cancer และยังมีหัวข้อโพลชวนทุกคนให้มีส่วนร่วม เช็กสุขภาพกายใจของตนเองอีกด้วย 

การดูแลตัวเองทำได้ง่ายๆ เริ่มต้นได้ด้วยการเข้าถึงคอนเทนต์และข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อตัวเองได้แล้ววันนี้บน LINE VOOM – LINE OpenChat – LINE TODAY

 

ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่กับครั้งแรกในประเทศไทย ของงาน LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23

ปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่กับครั้งแรกในประเทศไทย ของงาน LINE Conference Thailand 2023 หรือ #LCT23 งานสัมมนาด้านเทคโนโลยีสุดยิ่งใหญ่จาก LINE ประเทศไทย กับการเผยวิสัยทัศน์ ทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก LINE สำหรับเมืองไทยโดยเฉพาะ มุ่งสู่การเป็น “Open platform” หรือ แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย นอกจากเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มธุรกิจได้ต่อยอดนำเทคโนโลยีบน LINE สร้างการเติบโตแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสครั้งใหญ่สำหรับนักพัฒนาไทย ในการสรรค์สร้างโซลูชั่นใหม่ๆ มาเชื่อมต่อกับ LINE ได้สะดวกขึ้น ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพขึ้น

 

ภายในงานเต็มไปด้วยข้อมูลที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการอัปเดตโร้ดแมปผลิตภัณฑ์ของ LINE ที่หลากหลายผลิตภัณฑ์หรือบริการ มีการคิดค้นโดยทีมงาน LINE ประเทศไทย เพื่อตลาดไทยโดยฉพาะมาแล้ว เช่น เครื่องมือ MyCustomer, บริการ LINE SHOPPING และ LINE MELODY เป็นต้น โดยในช่วงปี 2023-2024 LINE มีโร้ดแมปใหม่ๆ มากมาย ที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาไทย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ในด้าน API & Plug-in ซึ่งมุ่งเน้นเปิดขยายการเชื่อมต่อ API ให้ครอบคลุมและหลากหลาย ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโซลูชั่นใหม่ตอบโจทย์เฉพาะด้านได้มากขึ้น อาทิ

1. LINE SHOPPING API เอื้อประโยชน์ต่อการทำงานของนักพัฒนาไทยที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาระบบสินค้าของร้านค้าบน LINE SHOPPING ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการระบบการขายได้ดียิ่งขึ้น ผ่าน 4 API ได้แก่

· Product API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบคำสั่งจัดการบริหารข้อมูลสินค้า อัปเดตสินค้าจำนวนมากเข้าสู่หน้ารายการสินค้าได้โดยอัตโนมัติ

· Inventory API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบคำสั่งจัดการบริหารสต๊อกสินค้า เติมสินค้าเข้าหน้าร้านโดยอัตโนมัติเมื่อสินค้าหมดสต๊อก

· Order API ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบการเข้าถึงข้อมูลออเดอร์ได้ เพื่อเข้าดูข้อมูลออเดอร์โดยละเอียด

· Webhook Order ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างระบบการแจ้งเตือน ส่งแจ้งเตือนสถานะการสั่งซื้อไปยังผู้ขายหรือแอดมิน เช่น สั่งซื้อแล้ว, จ่ายเงินแล้ว ฯลฯ ได้โดยอัตโนมัติ

โดยในอนาคต LINE มีแผนพัฒนา API ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การทำงานให้นักพัฒนาไทยที่ต้องการจัดการระบบการขายบน LINE SHOPPING ได้ดียิ่งขึ้นอย่าง Chat Invoice API ให้นักพัฒนาสามารถสร้างลิงก์ชำระเงินของสินค้าบน LINE SHOPPING ส่งให้ลูกค้าผ่านช่องทางใดก็ได้ เพื่อกลับมายังหน้าการซื้อขายบน LINE SHOPPING อีกครั้งได้โดยอัตโนมัติ เป็นต้น

2. LINE OA Plus Plug-in Store ต่อยอดการพัฒนาจาก LINE OA Store เพื่อเป็นช่องทางให้นักพัฒนาภายนอกองค์กรสามารถพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับกลุ่มเครื่องมือภายใต้ LINE OA Plus ไม่ว่าจะเป็น MyShop, MyCustomer และ MyRestaurant โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมนำเสนอให้กับนักการตลาด หรือแบรนด์ที่มองหาโซลูชั่นเฉพาะด้าน

3. New Messaging API เพิ่มประสิทธิภาพ Messaging API เพื่อขยายศักยภาพการพัฒนาโซลูชั่นบนแชท LINE ให้นักพัฒนาไทย ตัวอย่างเช่น

· Audience Created for Step messages เปิดให้นักพัฒนาไทย สามารถนำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ได้จากการใช้งาน Messaging API มาประยุกต์ใช้กับการส่งข้อความหากลุ่มลูกค้าผ่านฟีเจอร์ Step Messages บน LINE OA ได้

· Quote messages ฟังก์ชั่นใหม่ในการพัฒนาแชทบอท ให้ทั้งผู้ใช้และบอทสามารถส่งข้อความตอบกลับโดยอ้างอิงจากข้อความก่อนหน้าในห้องแชทได้

· Rich Menu Link/Unlink Batch อำนวยความสะดวกให้นักพัฒนาไทย สามารถออกชุดคำสั่งเปลี่ยน Rich Menu แบบ Personalize ใน LINE OA ให้แสดงผลสู่กลุ่มเป้าหมายจำนวนมากขึ้นได้ ด้วยชุดคำสั่งเดียว

· อัปเดตฟังก์ชั่นใหม่ๆ ในการสร้างข้อความรูปแบบ Flex Message เช่น การขยายขนาดของกล่องข้อความให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น นักพัฒนาสามารถเลือกได้ตามต้องการ และความสามารถในการกำหนดขนาดตัวอักษรและไอคอน ให้แสดงผลตามการตั้งค่าในแอปฯ LINE ของผู้ใช้แต่ละคนได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ LINE ยังได้เปิดตัวบริการใหม่อย่าง LON หรือ LINE Official Notification ข้อความแจ้งเตือนผ่านเบอร์โทรศัพท์ให้ผู้ใช้งานด้วยการแสดงผลผ่าน LINE OA ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างแบรนด์หรือองค์กร ไปยังลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและมั่นใจด้านความปลอดภัย ด้วยความหลากหลายของรูปแบบข้อความแจ้งเตือนให้นักพัฒนาได้เลือกใช้ โอกาสของนักพัฒนาไทยในการสร้างโซลูชั่นการแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น พร้อมลดปัญหาข้อความสแปม

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเทคโนโลยีที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาไทย จากงาน LCT23 เพื่อการต่อยอดสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ ให้ตอบโจทย์ในหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอกย้ำถึงจุดมุ่งหมายของ LINE ในการเป็นองค์กร

เทคฯ ที่ส่งเสริมความแข็งแกร่งให้เหล่านักพัฒนาไทย เพื่อร่วมขับเคลื่อน เพิ่มศักยภาพให้กับชุมชนและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของไทย ให้เติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ จาก LINE สำหรับนักพัฒนาไทย ได้ที่ LINE OA: @linedevth, เฟซบุ๊ก LINE Developers Thailand หรือ LINE Developers Group Thailand

X

Right Click

No right click