สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI หน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมยุคดิจิทัล เดินหน้าจัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี "connect-the-dots #3: BIG DATA & AI ECOSYSTEM IN THAILAND" เจาะลึกแนวโน้มและความก้าวหน้าของวงการ Big Data และ AI ในประเทศไทย สร้างเครือข่ายด้านข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ นำไปสู่การพัฒนาระบบนิเวศในห่วงโซ่คุณค่าด้านข้อมูลของประเทศ พัฒนาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูล เทคโนโลยีข้อมูล และนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ รวมถึงการพัฒนากำลังคนด้านข้อมูล เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมหลักที่เป็นรากฐานของเศรษฐกิจไทย ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ดันประเทศไทยก้าวเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคอาเซียน
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้เกียรติขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “ผลักดันนโยบายการใช้เทคโนโลยีข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อขับเคลื่อนประเทศอย่างมีทิศทางและยั่งยืน” ว่า Big Data เปรียบเสมือนอาหาร ส่วนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือ สมอง การบูรณาการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขึ้นอยู่กับ Big Data ที่มีคุณภาพในรูปแบบดิจิทัลที่มีระบบ Digital ID หรือ Digital Identity ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่ง AI จะสามารถวิเคราะห์ประมวลผลตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้ตรงจุดมากขึ้น ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐเริ่มปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล โดยให้บริการประชาชนผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) เพื่อก้าวเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ มุ่งสู่การพัฒนาทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจและสังคม ขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวทันเทคโนโลยี และก้าวทันโลก เติบโตอย่างมีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า จากผลการจัดอันดับ World Digital Competitiveness Ranking ในปีที่แล้ว โดย International Institute for Management Development หรือ IMD ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 35 จาก 64 อันดับ ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า 5 อันดับ ซึ่งในภาพรวมถือว่าดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน ได้แก่ ด้านความรู้ ด้านเทคโนโลยี และด้านความพร้อมสำหรับอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการใช้ Big Data และการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ ในองค์กรต่าง ๆ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 25 ดีขึ้นจากปีก่อนหน้า 3 อันดับ และอยู่อันดับที่ 3 ในอาเซียน เป็นรองจากสิงค์โปร์และอินโดนีเซีย แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงและทำให้ดีขึ้น เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมและสร้างระบบนิเวศ หรือสร้างเครือข่ายด้าน Big Data และ AI, การพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และดิจิทัล, การลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา เป็นต้น โดย BDI เป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่จะช่วยยกระดับให้ประเทศไทยก้าวเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน
นายกุลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า BDI ถือเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงผลักดันการใช้ Big Data และ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระดับประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลในการพัฒนาประเทศ และนวัตกรรมในโลกนี้เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ต้องยอมรับว่าทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่อง Big Data และ AI เป็นอย่างมาก ดังนั้น การจัดงานในครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายในการพัฒนาผู้้ประกอบการโดยสร้างทั้งอุปสงค์และอุปทานของศาสตร์ด้านข้อมูล และสร้างกลไกเพื่อให้เกิดระบบนิเวศ ส่งเสริมความรู้ในกลุ่มผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปเพื่อเตรียมความพร้อมด้านแรงงาน เสริมทักษะ และความสามารถในการประยุกต์ใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ ตลอดส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านข้อมูล และเพิ่มปริมาณผู้ประกอบการด้านข้อมูลให้เข้ากับบริบทของประเทศ เพื่อการพัฒนาประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
ภายในงานสัมมนา "connect-the-dots #3: BIG DATA & AI ECOSYSTEM IN THAILAND" ยังมีบรรยายในหัวข้อ "Big Data Ecosystem in Thailand" โดย ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ ต่อด้วยการเสวนาหัวข้อ "มองอนาคตไทย Big Data & AI Ecosystem" ร่วมวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนเกี่ยวกับ Big Data & AI Ecosystem ในปัจจุบันและอนาคต โดยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายองค์กร รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่, ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa), คุณโอม ศิวะดิตถ์ กรรมการสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย และ ดร.ศิษฎพงศ์ เศรษฐภัทร Chief Technology Office, SCB dataX และมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ "ThaiLLM โดยคนไทย เพื่อคนไทย" โดย ดร.กอบกฤตย์ วิริยะยุทธกร นายกสมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย พร้อมด้วยการเสวนาหัวข้อ "GenAI: อนาคตก้าวต่อไป" โดยผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมและการศึกษา และปิดท้ายด้วย Workshop ในหัวข้อ "Prompt Engineer คุยกับ AI ให้ได้เรื่อง" โดย ดร.วราสิณี ฉายแสงมงคล อาจารย์ประจำสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ซึ่งเป็นการให้ความรู้เชิงปฏิบัติการแก่ผู้เข้าร่วมงาน
ด้วยความมุ่งมั่นในการผลักดันผู้ประกอบการและเศรษฐกิจของประเทศไทยผ่านการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่และปัญญาประดิษฐ์ BDI มีเป้าหมายหลักคือการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในทุกระดับ ตั้งแต่ SMEs ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยการส่งเสริมการใช้ข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจทางธุรกิจ การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน จึงได้มีการจัดงานสัมมนานี้ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่อง จากความสำเร็จของงาน 2 ครั้งที่ผ่านมา โดย connect-the-dots ครั้งแรก มุ่งเน้นการส่งเสริมธุรกิจในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ด้วยข้อมูล ส่วนครั้งที่ 2 เน้นการส่งเสริมผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เจ้าของธุรกิจโรงแรม และภาคการผลิต ที่ต้องการตระหนักรู้รักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการเข้าถึงข้อมูล
BDI ยังมุ่งสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านข้อมูลและ AI ให้มีทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล อันจะนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน พร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต และก้าวสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและกิจกรรมใหม่ ๆ ของ BDI สามารถติดตามได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.bdi.or.th และทางเพจเฟซบุ๊ก BDI - Big Data Institute: www.facebook.com/bdithailand