ด้วยการปรับนโยบายเพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาดของสำนักงานสาขาทั่วประเทศภายใต้แนวคิดใหม่อย่าง “Smart Sharing Space” ให้เป็นพื้นที่แห่งการแบ่งปันอย่างสร้างสรรค์ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย พร้อมออกแบบจัดสรรพื้นที่การใช้งานอย่างลงตัว ทั้งส่วนให้บริการลูกค้า และ Co-working Space สำหรับตัวแทน คู่ค้า และพันธมิตรธุรกิจได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นธุรกิจประกันภัยเน้นหลักบูรณาการในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะงานบริการธุรกิจด้านประกันภัยที่มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและอุ่นใจให้กับคู่ค้าและลูกค้าผู้มาใช้บริการ
ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ กรุงไทยพานิชประกันภัย เรายังคงมุ่งมั่นคิดค้นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไปพร้อมกับการให้บริการด้านประกันภัยต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์และบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าชาวไทยอย่างแท้จริง การเปิดสำนักงานรูปแบบใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการบริหารงานภายใต้แนวคิดใหม่ของบริษัทที่มุ่งพัฒนาต่อยอดทางธุรกิจ เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจประกันภัยมากขึ้น โดยคำนึงถึงลูกค้าและคู่ค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เราเชื่อมั่นว่าสำนักงานสาขาใหม่ของเราจะมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการได้เกิดความประทับใจมาก และยังสามารถสนับสนุนการคู่ค้า ตัวแทน นายหน้า หรือพันธมิตรธุรกิจในการเป็นสถานที่ฝึกอบรม เสริมสร้างศักยภาพความรู้ในด้านการประกันภัยและผลิตภัณฑ์ประกันภัย ได้อย่างใกล้ชิดและรวดเร็วขึ้น”
กรุงไทยพานิชประกันภัย มีแผนในการปรับปรุงสำนักงานสาขาทั้งหมด 20 สาขาทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่หัวเมืองหลักสำคัญต่างๆ ที่ลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางธุรกิจสามารถเข้าใช้บริการได้อย่างสะดวกและทั่วถึง โดยมีสำนักงานสาขาภายใต้แนวคิดใหม่ที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วสองสาขาได้แก่ สาขาบุรีรัมย์ และอุดรธานี เมื่อปลายปี 2563 และวางแผนที่จะปรับปรุงให้แล้วเสร็จอีกหกสาขาในปี 2564 ซึ่งได้แก่ หาดใหญ่ ขอนแก่น เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี และ อุบลราชธานี จากนั้นจะมีการปรับปรุงสำนักงานสาขาในพื้นที่ถัดไปให้เต็มทุกพื้นที่ซึ่งประกอบไปด้วยสาขาใน นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ พิษณุโลก ภูเก็ต ระยอง สกลนคร สระบุรี สุพรรณบุรี และ หัวหิน ตามลำดับ
สำนักงานสาขาโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด “Smart Sharing Space” ของ กรุงไทยพานิชประกันภัย นั้นได้รับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายและทันสมัยเพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการ นอกจากนี้ยังได้มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนสำหรับการทำงานแบบโคเวิร์คกิ้งสเปซ (co-working Space) เพื่อรองรับคู่ค้าและพันธมิตรธุรกิจ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สัญญานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ รวมถึงห้องประชุมและห้องฝึกอบรมที่รองรับคนได้มากถึง 50 ที่นั่ง
“ภายใต้แนวคิดใหม่ในการตกแต่งภายในและเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้น เราจะคำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นอันดับแรกเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องตัว เราจึงแบ่งพื้นที่ใช้งานทั้ง 3 ชั้นออกเป็น 3 โซน โดยโซนที่ 1 เป็นพื้นที่รับรองสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โซนที่ 2 เป็นส่วนของห้องประชุมและโคเวิร์คกิ้งสเปซ และโซนที่ 3 จะเป็นมีส่วนของห้องประชุมและห้องอบรมสัมมนาสำหรับบุคลากรภายในและคู่ค้า เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาขาใหม่ที่เรามุ่งมั่นพัฒนาในครั้งนี้จะช่วยมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สะดวกรวดเร็ว พร้อมตอบสนองกับความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี” ดร.พงษ์ภาณุ กล่าวปิดท้าย