นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดกิจกรรม “WORLD ORAL HEALTH DAY 2023” ของประเทศไทย ซึ่ง ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดขึ้น ร่วมกับ 27 ภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ และทันตสาธารณสุข เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปาก ตามที่สมาพันธ์ทันตแพทย์โลก (FDI World Dental Federation) ได้กำหนดให้วันที่ 20 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Health Day) โดยปี 2566 นี้ ถือเป็นปีแรกที่ประเทศไทย จะมีการจัดกิจกรรมวันสุขภาพช่องปากโลกขึ้นอย่างเป็นทางการ และเปิดโอกาสให้แต่ละหน่วยงานสามารถรณรงค์และจัดกิจกรรมได้ตามความสมัครใจ พร้อมกับใช้แฮชแท็ก #WOHD_TH และ #MouthProud_TH ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียพร้อมกัน ในวันที่ 20 มีนาคม 2566
นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “สุขภาพอนามัยในช่องปาก ถือว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพโดยรวมของประชาชน โรคและปัญหาสุขภาพในช่องปาก เกิดขึ้นได้ในทุกกลุ่มวัยตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชรา เป็นโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ที่พบบ่อยที่สุดทั่วโลก แม้ว่าส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้ แต่ก็พบว่ายังมีผู้ป่วยโรคในช่องปากและสภาวะอื่นๆที่เป็นปัญหาอีกมากมาย นอกจากสร้างความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้ป่วยจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตโดยปกติแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจโดยรวมด้วย ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข ได้เล็งเห็นถึง ความสำคัญและความจำเป็นในการสร้างความตระหนักรู้ต่อการดูแลสุขภาพช่องปากในแง่ของการสร้างเสริมและป้องกันโรคทางทันตกรรม รวมถึงการสร้างความเสมอภาคในการรักษาฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลด้านสุขภาพช่องปากอย่างเท่าเทียม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพบริการทางทันตกรรม การให้องค์ความรู้เชิงป้องกัน ตลอดจนการดูแลรักษาในระดับปฐมภูมิ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพช่องปากที่ดีตลอดชีวิต”
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังได้กล่าวสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานร่วมกันสื่อสารให้ประชาชนได้ทราบว่าทุกวันที่ 20 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Health Day) เพื่อให้เกิดการรับรู้และตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพอนามัยในช่องปากอย่างยั่งยืน
ทันตแพทย์ อดิเรก ศรีวัฒนาวงษา นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ว่า ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะหน่วยงานเดียวในประเทศไทยที่เป็นสมาชิกโดยตรงของสมาพันธ์ทันตแพทย์โลก ได้เห็นถึงความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากของคนไทย จึงอาสาเป็นตัวกลางในการประสานงาน และเชิญชวนองค์กรภาคีทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมในครั้งนี้ โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่เป็นหน่วยงานด้านนโยบาย ด้านการรักษา ด้านการให้บริการ สถาบันการศึกษา ตลอดจนผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพช่องปาก รวมมากกว่า 27 หน่วยงาน มารณรงค์พร้อมกันในวันที่ 20 มีนาคม 2566 ผ่านช่องทางและกิจกรรมที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะร่วมจัดงาน World Oral Heath Day พร้อมกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ภายใต้คำขวัญ ‘Be Proud of Your Mouth’ และ ‘Take Care of Your Oral Health for a Lifetime of Smiles’ ซึ่งเป็นคำขวัญที่ใช้ร่วมรณรงค์พร้อมกันทั่วโลกในปีนี้
“สำหรับกิจกรรมของทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จะมีการจัดประกวดถ่ายภาพ โดยใช้ฟิลเตอร์ ‘Mouth Proud’ ผ่านทางแพลตฟอร์ม Facebook, Instagram และ Tiktok เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ รวมทั้งการเผยแพร่ความรู้การดูแลสุขภาพช่องปากให้กับผู้สูงอายุผ่านทางแอพพลิเคชั่น Line โดยสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ www.thaidental.or.th และ Facebook ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ” นายกทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมวันสุขภาพช่องปากโลก (World Oral Heath Day) ของประเทศไทย สามารถติดตามได้ที่ www.thaidental.or.th และ Facebook ทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ หรือแฮชแท็ก #WOHD_TH และ #MouthProud_TH ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ในวันที่ 20 มีนาคม 2566 นี้