กรุงเทพฯ (1 พฤศจิกายน 2567) - ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สานต่อพันธกิจในการสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมเปิดโอกาสในการช่วยพัฒนาชีวิตของผู้คนให้เข้าถึงการออมเงินหลังเกษียณ โดยได้มีการจับมือร่วมกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่ยังไม่มีสวัสดิการใด ๆ ให้เข้าถึงกองทุนการออมภาคสมัครใจของ กอช. ผ่านแอปทรูมันนี่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยล่าสุด ทรูมันนี่ ได้รับเกียรติให้เข้ารับโล่รางวัลเกียรติยศการส่งเสริมการออมจากกองทุนการออมแห่งชาติ เนื่องในโอกาสของวันออมแห่งชาติ ประจำปี 2567 ภายหลังช่วยให้ยอดสมัครสมาชิกใหม่เพื่อเปิดบัญชีออมกับ กอช. เพิ่มขึ้นที่ 51% (มกราคม – ตุลาคม 2567) และสูงสุดกว่าช่องทางอื่น โดยในงานนี้ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีและมอบรางวัล ณ Paragon South Hall 1 & 4 ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เผยว่า “ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทรูมันนี่ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มของเราให้สามารถตอบรับความต้องการของคนหลากหลายกลุ่ม ซึ่งรวมถึงกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงิน (Underserved) อย่างกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีสัดส่วนกว่า 52.3% ของแรงงานไทยทั้งหมด ที่ยังไม่ได้มีสวัสดิการรองรับให้สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างการออมเงินหลังเกษียณ ซึ่งทรูมันนี่ เล็งเห็นถึงความต้องการของกลุ่มแรงงานนอกระบบ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา จึงได้นำเอาเทคโนโลยีอย่างแพลตฟอร์มดิจิทัลมาช่วยให้การเริ่มใช้บริการทางเงินต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย (Low Barrier of Entry) และจับมือกับกองทุนการออมแห่งชาติ ที่นำเสนอกองทุนการออมภาคสมัครใจซึ่งตอบความต้องการของกลุ่มแรงงานนอกระบบได้รอบด้าน เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกกอช. ปัจจุบัน และผู้ที่สนใจ สามารถสมัครและส่งเงินออมได้ครบจบที่เดียวบนแอปทรูมันนี่ โดยปัจจุบันมียอดผู้สมัครเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าถึง 51% ผ่านแอปทรูมันนี่ และถือว่าสูงสุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการออกแบบประสบการณ์การใช้งานที่ดีของเรา และการตอบรับความต้องการที่จะเข้าถึงการออมหลังเกษียณของแรงงานนอกระบบได้เป็นอย่างดี”
“และเพื่อสอดรับกับความต้องการและนโยบายของกองทุนการออมแห่งชาติในการขับเคลื่อนและส่งเสริมการออมของประชาชนในวงกว้าง ทรูมันนี่ยังได้จัดกิจกรรมให้ความรู้กระตุ้นการออมเงินร่วมกันกับ กอช. เช่น กิจกรรมออมเงินผ่าน ทรูมันนี่ลุ้นรับของรางวัล รวมไปถึงการลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และ ต่างจังหวัด ฯลฯ ให้ความรู้แก่ประชาชน และสร้างการเข้าถึงการออมเงินยามเกษียณผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจากความร่วมมือและผลตอบรับที่ดีนี้ ทรูมันนี่ จึงตั้งเป้าในการช่วยเพิ่มยอดผู้สมัครและออมเงินบน กอช. รวม 3 ล้านคนภายในปี 2568 เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการที่จะนำเสนอโซลูชันด้านบริการทางการเงินแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ โดยการนำเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ นำเอามาสร้างและนำเสนอนวัตกรรมที่ถูกคน ถูกความต้องการมากที่สุด ซึ่งการได้รับรางวัลเกียรติยศจากกอช. ในครั้งนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันศักยภาพของแพลตฟอร์มทรูมันนี่ที่ช่วยเปิดโอกาสการเข้าถึงทางการเงินให้ผู้คนในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายธัญญพงศ์ กล่าวเสริม
ต่อจากนี้ ทรูมันนี่ จะยังคงเดินหน้าพัฒนาบริการทางการเงินด้วยการประยุกต์เอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยออกแบบและนำเสนอบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งาน อาทิ การนำเอาเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาสร้าง Customized Customer Experience ที่ดีผ่านฟีเจอร์ที่ตรงใจและตอบพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ทั้งการใช้จ่าย (Payment) ผ่านทรูมันนี่ ที่เปิดโอกาสให้สามารถใช้จ่ายได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ณ จุดขายกว่า 7 ล้านจุดทั้งประเทศ การออมเงิน (Saving) บริการบัญชีเงินฝากที่ได้รับดอกสูงตั้งแต่บาทแรก รวมไปจนถึงการให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นบัญชี Money Plus ที่ช่วยให้ทุกการจ่ายได้เงินคืน 1% และเก็บเงินไว้ เงินก็เพิ่มพูน การลงทุน (Investment) ที่มอบการเข้าถึงบริการลงทุนที่ครอบคลุมทั้ง กองทุนรวม หุ้นกู้ตลาดแรกและรอง ออมทอง เพื่อสร้างการเติบโตทางการเงินให้ผู้ใช้งานได้ง่ายกว่าที่เคย สินเชื่อ (Loan) อย่าง PayNext เงินติดมือ ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนเพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่ม Underserved และ บริการประกัน (Insurance) ที่มีประกันแบบเบี้ยสบายเป๋า ซึ่งเป็น Micro Insurance ที่เปิดโอกาสให้เลือกจ่ายเบี้ยน้อยแบบรายเดือนได้ ไม่ผูกมัดระยะยาว ฯลฯ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเสริมเกราะความปลอดภัยโดยนำเทคโนโลยีเอไอที่สกัดและป้องกันแอปดูดเงินได้ ที่ชื่อว่า TrueMoney 3X Protection มาใช้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง มั่นใจได้สูงสุดว่าทุกการใช้จ่ายและธุรกรรมการเงินปลอดภัยห่างไกลความเสี่ยง
“กอช.” จับมือ “ธนาคารกรุงไทย” เปิดรับชำระเงินของสมาชิก กอช. ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการจ่ายเงินสะสม ส่งเสริมการออมสร้างความมั่นคงทางการเงิน และคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณ
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า กอช. ได้ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่ให้ความสำคัญของการออมกับ กอช. และให้การสนับสนุนประชาชนคนไทย ที่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระได้เข้าถึงการออมกับ กอช. ที่ง่ายขึ้น สะดวกสบาย รวดเร็วด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่มาประยุกต์ใช้ในการออมเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดเวลาในการเดินทาง โดยออมเงินผ่านสมาร์ทโฟน บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งสามารถออมต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี พร้อมรับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐในเดือนถัดไป ตามช่วงอายุสูงสุด 100% หรือไม่เกิน 1,200 บาทต่อปี และเงินออมของสมาชิกสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินบุคคลธรรมดาประจำปี
ทั้งนี้ สมาชิก กอช. ที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงิน กยศ. ออมต่อเนื่องกับ กอช. ได้ผ่านเป๋าตัง ด้วยเช่นเดียวกันเพียงกรอกข้อมูลเพิ่มเติมในรหัสโครงการว่า “กยศ.” โดยการออม 1 ครั้ง จะเป็นการสะสมชั่วโมงจิตสาธารณะได้ 1 ชั่วโมงต่อเดือน ทั้งนี้ การออมกับ กอช. เมื่อคุณออม รัฐจะเพิ่มเงินสมทบให้ และเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์คุณจะได้รับเงินบำนาญรายเดือนจาก กอช. ดั่งสโลแกนที่ว่า “คุณออม รัฐช่วยออม คุณได้บำนาญ”
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารกรุงไทย ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ตระหนักถึงความสำคัญของวางแผนการทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว โดยเฉพาะการออมเพื่อการเกษียณ จึงมุ่งมั่นส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับคนไทยทุกกลุ่ม สนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินในทุกรูปแบบอย่างทั่วถึง สะดวก ลดความเหลื่อมล้ำ ที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมมือกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ให้บริการ นำส่งเงินสะสมงวดถัดไปของสมาชิกกอช. ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT เครื่อง ATM และ สาขาทั่วประเทศ ล่าสุดได้ต่อยอดความร่วมมือ ด้วยการพัฒนาระบบเพื่อยกระดับการให้บริการ โดยเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินนำส่ง กอช.ผ่าน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยคุ้นเคยและเข้าถึงได้สะดวก
“ความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ X2G2X ของธนาคาร ที่มุ่งยกระดับบริการภาครัฐ เชื่อมต่อกับ ภาคประชาชนและภาคธุรกิจอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงสนับสนุนตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของ กอช. ในการเพิ่ม สมาชิกรายใหม่ จากฐานผู้ใช้งานแอปฯ “เป๋าตัง” ที่มีจำนวนกว่า 40 ล้านคน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นแรงงานนอกระบบ ให้ได้รับความสะดวกในการสะสมเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณ รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ดีในการออมให้กับสมาชิกกอช. ที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ผ่านกลุ่มสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมยกระดับการให้บริการแก่ประชาชนในการเข้าถึงหน่วยงานของรัฐได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในการลดความเหลื่อมล้ำและเตรียมพร้อมสู่สังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นตามวิสัยทัศน์ “กรุงไทย เคียงข้างไทย สู่ความยั่งยืน”