

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดงาน วันสตรีสากล ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “3 ทศวรรษปฏิญญาปักกิ่งฯ: โอกาสและความท้าทายสู่ความเสมอภาคของสตรีและเด็ก” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันสตรีสากลและเพื่อเชิดชูเกียรติบทบาทของสตรีในด้านต่าง ๆ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาลไทย ผ่านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ การพัฒนาสตรี ที่เร่งดำเนินการส่งเสริมสิทธิและโอกาสเพื่อให้สตรีและเด็กได้รับความเสมอภาค ยกระดับการพัฒนาสตรีให้สอดคล้องกับหลักสากล อีกทั้งยังมุ่งมั่นผลักดันพลังสตรีให้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ด้วยการเพิ่มศักยภาพให้สตรีทุกกลุ่ม ทุกระดับ มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายวราวุธ กล่าวว่า “วันสตรีสากล” (International Women's Day) นับว่าเป็นวันที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ เพื่อรำลึกถึงการต่อสู้ของสตรีเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม ความเสมอภาค สันติภาพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงความก้าวหน้าของสตรี ทั้งนี้ประเทศไทยได้มุ่งเน้นการพัฒนาสถานภาพสตรีและการสร้างความเสมอภาคระหว่างเพศ โดยกระทรวง พม. ได้จัดกิจกรรมวันสตรีสากลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 นี้ ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “3 ทศวรรษปฏิญญาปักกิ่งฯ: โอกาสและความท้าทายสู่ความเสมอภาคของสตรีและเด็ก” ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล ด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ด้วยนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันที คือ ด้านการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ และด้านการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ และจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การจัดการเพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและดิจิทัล โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางทางสังคม ซึ่งกลุ่มสตรีและเด็กเป็นหนึ่งในนั้น เพื่อให้สตรีและเด็กกลุ่มนี้ได้รับความเสมอภาคอย่างแท้จริง

โดยกระทรวง พม. มุ่งส่งเสริมโอกาสในการดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีให้แก่สตรี โดยสนับสนุนให้สตรีสามารถนำศักยภาพที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล ผ่านนโยบายการพัฒนาสถานภาพสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นสมาชิก อาทิ อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ ปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี รวมถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 5 การบรรลุความเท่าเทียมระหว่างเพศ และส่งเสริมความแข็งแกร่งให้แก่สตรีและเด็กหญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การพัฒนาสตรี โดยการเพิ่มบทบาทของสตรีและเด็กหญิงทุกคน

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติได้แสดงเจตนารมณ์และปฏิบัติตามพันธสัญญาต่อเวทีโลก โดยการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสถานภาพสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศ กระตุ้นให้สังคมไทย ได้ตระหนักถึงศักยภาพและสิทธิมนุษยชนของสตรี รวมทั้งยกระดับการพัฒนาสตรีให้สอดคล้องกับหลักสากล และยังมุ่งมั่นผลักดันพลังสตรีให้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของกระทรวง พม. ที่ได้เร่งรัดขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ 9 ด้าน ต่อยอดจาก “นโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร” ด้านการสร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง อาทิ คนจน คนพิการ ผู้สูงอายุ และสตรี การส่งเสริมสถานภาพสตรีไทยจึงเป็นอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ

ทั้งนี้ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การนำเสนอวีดิทัศน์คำปราศรัยจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันสตรีสากลประจำปี 2568 การกล่าวแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับรางวัล พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่สตรี บุคคล และหน่วยงานองค์กรที่มีผลงานดีเด่น จำนวน 16 สาขา 84 รางวัล และรางวัลเกียรติคุณพิเศษ 3 รางวัล โดยมีผู้ร่วมงาน ได้แก่ ผู้เข้ารับรางวัล ผู้บริหารกระทรวง พม. คณะกรรมการดำเนินงานวันสตรีสากล คณะคู่สมรสเอกอัครราชทูต คณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี สื่อมวลชน ฯลฯ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 300 คน และยังได้เปิดตัวโครงการ “กล่องของขวัญ (Pink Box) แทนความห่วงใย เสริมพลังใจเพื่อสตรีไทยมั่นคง” ด้วยการมอบกล่องของขวัญที่บรรจุด้วยสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันและการดูแลสุขอนามัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับสตรีกลุ่มผู้เปราะบางที่ถูกซ้อนทับด้วยปัญหาต่าง ๆ อาทิ กลุ่มผู้หญิงที่มีรายได้น้อย ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้หญิงสูงอายุ และผู้หญิงที่มีความพิการ ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและภูมิภาคต่าง ๆ จำนวน 4,500 ชุด ตลอดเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งนอกจากจะสร้างเสริมกำลังใจและความหวังในการดำเนินชีวิตให้แก่สตรีกลุ่มเปราะบางกลุ่มเหล่านี้ ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนและภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมได้ตระหนักถึงปัญหาของสตรี นำไปสู่ความคิดริเริ่มในการสนับสนุนสตรีในรูปแบบต่าง ๆ ให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการ ให้มีโอกาสและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันว่า รัฐบาลและภาคีทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่มีการสอดแทรกประเด็นสตรีและความเสมอภาคระหว่างเพศเข้าไปในการพัฒนากระแสหลัก (Gender Mainstreaming) ซึ่งเป็นหนทางแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อให้สตรีได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม ปลอดภัยจากความรุนแรงทุกรูปแบบ ภายใต้สังคมที่ตระหนักและเข้าใจ พร้อมสนับสนุนพลังสตรีเป็นพลังสำคัญในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมทุกมิติต่อไป
ผลจากการวิจัยครั้งยิ่งใหญ่ระดับโลก* เกี่ยวกับช่องว่างในการออกกำลังกายระหว่างชายและหญิง เผยให้เห็นว่า :
• ยิ่งผู้หญิงออกกำลังกายมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น จากรายงานพบว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกายเป็นประจำรู้สึกมีความสุขมากขึ้น 52% รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น 50% รู้สึกมั่นใจมากขึ้น 48% เครียดน้อยลง 67% และรู้สึกหงุดหงิดน้อยลง 80%
• แต่ผู้หญิงมากกว่าครึ่ง ไม่ได้ออกกำลังกายมากเท่าที่พวกเธอต้องการ และพลาดโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการออกกำลังกายที่มีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ
• ผู้หญิงทุกคนกำลังเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคมากมายในการออกกำลังกายตลอดทั้งช่วงชีวิตของพวกเธอ
• แต่การรับรู้ของผู้ชายเกี่ยวกับอุปสรรคเหล่านี้แตกต่างไปจากความเป็นจริงที่ผู้หญิงต้องเผชิญ
• นับเป็นสัญญาณที่ดี ที่ผู้คนทั่วโลกกำลังตั้งใจก้าวข้ามอุปสรรคในการเล่นกีฬาของผู้หญิง โดย ASICS มีส่วนในการเผยแพร่และทำให้เรื่องราวของทุกคนเป็นที่สนใจ พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญาที่จะช่วยให้พวกเธอได้ Move Her Mind
NAGINO Collection เสื้อผ้าออกกำลังกาย สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระที่ ASICS ตั้งใจออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับผู้หญิงได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป

เนื่องในวันสตรีสากล ASICS ได้เผยถึงผลการวิจัยระดับโลกเกี่ยวกับช่องว่างในการออกกำลังกายระหว่างชายและหญิง เป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างระดับการออกกำลังกายของผู้หญิงกับสุขภาวะทางจิตของพวกเธอ จากรายงานพบว่าผู้หญิงมีความสุขมากขึ้น 52% รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น 50% รู้สึกมั่นใจมากขึ้น 48% เครียดน้อยลง 67% และรู้สึกหงุดหงิดน้อยลง 80% เมื่อออกกำลังกายเป็นประจำ**
อย่างไรก็ตาม การวิจัยในคนจำนวน 24,959 คน ซึ่งจัดทำโดย ASICS และนำการค้นคว้าโดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียงอย่างดร.ดี ดลูกอนสกี (Dr. Dee Dlugonski) และผู้ช่วยศาสตราจารย์
เบรนดอน สตับส์ (Assoc. Prof. Brendon Stubbs) กลับพบผลที่น่าตกใจว่าผู้หญิงมากกว่าครึ่งจากทั่วโลกกำลังห่างหายและเลิกออกกำลังกายมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของพวกเธอ และเพื่อสนองต่อผลการวิจัยเหล่านั้น ASICS ต้องการที่จะเปิดโอกาสและช่วยขยายผลเชิงบวกให้กับบุคคลและองค์กรระดับท้องถิ่นที่กำลังตั้งใจลดอุปสรรคในการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของผู้หญิง เพื่อช่วยซัพพอร์ต ผลักดัน และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงเหล่านั้นหันมาออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
ผลการวิจัยระดับโลกเผยให้เห็นว่าผู้หญิงมากกว่าครึ่งไม่พึงพอใจกับระดับการออกกำลังกายของตนเอง โดยผู้หญิงทุกคนกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการออกกำลังกายตลอดทั้งช่วงชีวิตของพวกเธอ ตั้งแต่ความกดดันด้านเวลา (74%) ความไม่มั่นใจในตนเอง (35%) ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกว่าถูกคุมคาม (44%) หรือรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะกับการเล่นกีฬา (42%)
![]()
ยิ่งไปกว่านั้น เกือบ 2 ใน 3 (61%) ของเหล่าคุณแม่ระบุว่าความเป็นแม่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเธอห่างหายจากการออกกำลังกายประจำ แสดงให้เห็นถึงผลกระทบของความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูกที่มีต่อระดับการทำกิจกรรมของผู้หญิง ผู้เข้าร่วมการสนทนากลุ่ม (Focus Group) กล่าวถึงความคาดหวังของสังคมที่มีต่อบทบาททางเพศ รวมถึงความคิดที่ว่าผู้หญิงควรมีหน้าที่หลักในการดูแลคนในครอบครัว และรับผิดชอบหน้าที่ต่าง ๆ ในครัวเรือน ซึ่งล้วนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเธอเลิกออกกำลังกาย
ในทางกลับกัน การรับรู้ของผู้ชายเกี่ยวกับความท้าทายที่ผู้หญิงต้องเผชิญนั้นแตกต่างไปจากความเป็นจริง มีผู้ชายเพียง 34% เท่านั้นที่ยอมรับว่าการไม่มีเวลาเป็นอุปสรรคในการออกกำลังกายสำหรับผู้หญิง แม้ว่าผู้หญิงจำนวน 3 ใน 4 (74%) จะพูดถึงปัญหานี้ก็ตาม แต่ผู้ชายกลับคิดว่าความไม่มั่นใจในร่างกายเป็นปัญหาสำคัญ โดยผู้ชาย 58% บอกว่าสิ่งนี้เป็นอุปสรรคหลักเทียบกับจำนวนผู้หญิง 36% ความจริงแล้วอุปสรรคห้าอันดับแรกของการออกกำลังกายที่ผู้ชายรับรู้ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น คือ ปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ปรากฏอยู่ในลิสต์อุปสรรคที่พบบ่อยที่สุดซึ่งตอบโดยผู้หญิง ยิ่งเน้นให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการรับรู้ของผู้ชายกับความเป็นจริงในแต่ละวันที่ผู้หญิงทั่วโลกรู้สึก
อย่างไรก็ตาม จากงานวิจัยพบว่าผู้หญิงกว่า 1 ใน 3 กล่าวว่าเพื่อนของพวกเธอคือผู้ที่มีอิทธิพลที่สำคัญที่สุดในการออกกำลังกาย พวกเธอมีแรงจูงใจที่จะออกกำลังกายโดยผู้หญิงแบบเดียวกับตนเองมากกว่าคนที่มีชื่อเสียง อีกทั้งพ่อแม่และคนรักก็ถือเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเพศหญิงหรือชายก็สามารถส่งผลต่อการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการออกกำลังกายได้ เมื่อถามว่าทำไมพวกเธอถึงออกกำลังกาย โดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงกล่าวว่าเพื่อสุขภาพจิต (92%) และสุขภาพกาย (96%) มากกว่าการมีรูปร่างที่สวยงาม
ดร. ดี ดลูกอนสกี ผู้นำการวิจัยและผู้ช่วยศาสตราจารย์จากสถาบันวิจัยเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยเคนทักกี กล่าวว่า “งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าช่องว่างการออกกำลังกายระหว่างชายและหญิงเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นได้ในชั่วข้ามคืน และเพราะไม่ได้เกิดขึ้นจากเพียงสาเหตุเดียว จึงไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเดียว แต่ถ้าถามว่าอะไรสามารถช่วยได้ ผู้หญิงตั้งข้อสังเกตว่าการทำให้การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้มากขึ้น ทำให้พวกเธอรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและถูกยอมรับในทุกรูปแบบกิจกรรม ในขณะที่ท้าทายความคาดหวังของ
สังคมที่มีต่อบทบาทของผู้หญิงไปด้วยเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้พวกเธอออกกำลังกายได้มากกว่าเดิม
รวมถึงกิจกรรมการออกกำลังกายที่เน้นไปยังตัวของผู้หญิงและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเธอ เช่น มีการช่วยดูแลเด็ก (Childcare) และการจัดเลี้ยงรื่นเริงต่าง ๆ กิจกรรมที่มีความเหมาะสมกับงานที่พวกเธอทำ มีความสนุกสนานสามารถเข้าถึงได้ ให้ความรู้สึกปลอดภัยโดยไม่มีอคติต่อกัน วิธีการทั้งหมดนี้แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่สามารถเกิดผลสะท้อนได้อย่างเด่นชัด และจากการศึกษานี้เราจึงได้พบว่ามีผู้คนและองค์กรอีกหลายพันรายทั่วโลกที่กำลังขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้”
ซึ่งรวมถึงคาเรน กัตต์ริดจ์ (Karen Guttridge) ในฐานะผู้หญิงสูงอายุที่รู้สึกว่าตนเองไม่มีโอกาสออกกำลังกายในชุมชนที่อาศัยอยู่ เธอจึงตั้งกลุ่มวิ่งเพื่อให้ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งในตอนแรกเธอคาดว่าจะมีผู้หญิงเข้าร่วมกิจกรรมประมาณห้าคน แต่กลับมีผู้คนให้ความสนใจและเข้าร่วมกลุ่มวิ่งของเธอมากกว่า 70 คน โดยกิจกรรมภายในกลุ่มมีโปรแกรมการวิ่งสำหรับทุกระดับการออกกำลังกาย เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วม เป็นพื้นที่ปลอดภัยและไม่มีการตัดสินกันเพื่อผู้หญิงได้ทำความรู้จักกัน ถือได้ว่ากลุ่มวิ่งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและมีการสนับสนุนให้ผู้หญิงออกกำลังกายได้อย่างมั่นใจ
ASICS พร้อมสนับสนุนและร่วมเฉลิมฉลองกับผลลัพธ์ที่น่าประทับใจเช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคาเรนที่เกิดขึ้นในชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลก และมอบพื้นที่ให้กับบุคคลและองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการก้าวข้ามอุปสรรคในการออกกำลังกายและเล่นกีฬาของผู้หญิงให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
ในปัจจุบันมีผู้คนและองค์กรอีกมากมายที่กำลังสร้างความแตกต่างไปในทิศทางที่ดีขึ้นอยู่ทั่วโลก และในวันสตรีสากลนี้กลุ่มคนเหล่านั้นกำลังเชิญชวนให้ผู้คนส่งเรื่องราวและบอกเล่าประสบการณ์ของตนเอง เพื่อให้ผู้หญิงรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง ได้รับการสนับสนุนและได้รับแรงบันดาลใจ
อีกทั้ง ASICS ก่อตั้งขึ้นจากความเชื่อที่ว่ากีฬาและการออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ จึงเป็นที่มาของ ASICS : 'Anima Sana in Corpore Sano' หมายถึง 'การมีจิตใจที่แจ่มใส ในร่างกายที่สมบูรณ์' แม้ว่างานวิจัยของเราจะพบว่าผู้หญิงจำนวนมากไม่พอใจกับระดับการ
ออกกำลังกายของตน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเผยให้เห็นถึงการที่บุคคลและองค์กรระดับท้องถิ่นมีส่วนในการช่วยให้ผู้หญิงออกกำลังกายได้มากยิ่งขึ้น
![]()
Move Her Mind เริ่มต้นขึ้นด้วยความหวังที่จะเป็นพื้นที่ให้กับนักสร้างแรงบันดาลใจเหล่านี้ ได้เชื่อมโยงและจุดประกายให้กับผู้คนทั่วโลก เพื่อให้ทุกคนสามารถมีจิตใจที่แจ่มใส ในร่างกายที่สมบูรณ์ได้ ถึงเวลาแล้วที่ผู้หญิงทุกคนจะได้สัมผัสกับประโยชน์จากการออกกำลังกายที่มีต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลง ถึงเวลาของการ Move Her Mind
เตรียมพบกับ NAGINO Collection เสื้อผ้าออกกำลังกาย สวมใส่สบาย เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ออกแบบมาสำหรับผู้หญิงได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2567 เป็นต้นไปที่ ASICS Store และทางออนไลน์ที่ ASICS.COM
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ผ่านการผลิตคลิปวิดีโอ TIP International Women's Day 2024 ที่ Generate ด้วย AI โดยทิพยประกันภัยเป็นบริษัทประกันภัยแห่งแรกที่สร้างสรรค์งานวิดีโอโดยการใช้เทคโนโลยี AI พร้อมสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนมีพลังใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยเนื้อหาของวิดีโอได้สะท้อนบทบาทและเชิดชูผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความเก่ง แข็งแกร่ง และมีความสามารถเฉพาะตัว

ทิพยประกันภัย ขอมีส่วนร่วมในการดูแลผู้หญิงทุกคน หากต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยจะมีบริการต่าง ๆ ที่มาช่วยคลายความกังวลเมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด อาทิ TIP Smart Assist ทีมสำรวจภัยยุคดิจิทัลที่เป็นมากกว่าพนักงานสำรวจภัยและจิตอาสาช่วยเหลือแก่ลูกค้าทั่วประเทศ รวมถึง TIP CAT ที่ให้การช่วยเหลือดูแลด้านการเคลม ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้มั่นใจไร้กังวลเรื่องซ่อม ช่วยจบปัญหาด้านการเคลม เปรียบเสมือนมีเลขาส่วนตัวที่พร้อมดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และช่วยจัดการกับปัญหาต่างๆ ให้ผู้หญิงได้มีเวลาสำหรับใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเพิ่มขึ้น
ทิพยประกันภัย ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนมีพลัง พร้อมใช้ชีวิตในทุก ๆ วันอย่างดีที่สุด สามารถรับชมผลงาน วิดีโอ #TIPInspireInclusion ได้ที่ https://fb.watch/qFppiIw5TR/
ปัจจุบันปัญหาโครงสร้างประชากรจากอัตราการเกิดต่ำ และปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (คนซ้าย) ร่วมรณรงค์วันสตรีสากล ประจำปี 2566 ภายใต้แนวคิด ‘Embrace Equity’ โอบกอดความเสมอภาค ผ่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ งานสัมมนา “International Woman’s Day” โดยรับเกียรติจาก คุณซินดี้ สิรินยา บิชอพ หญิงแกร่งแห่ง UN Women (คนขวา) ผู้เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมเพื่อสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมสำหรับเพศหญิง มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกค้าและพนักงานได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้หญิงที่มีผลต่อความสำเร็จของสังคม กิจกรรมเรียนรู้วิธีการทำถุงหอมอโรมา ด้วยส่วนผสมธรรมชาติ และกิจกรรมพิเศษที่จับคู่ผู้บริหารระดับสูงกับพนักงานหญิง มาพูดคุยเพื่อรับฟังมุมมองที่แตกต่างกัน และสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน และประสบความสำเร็จในชีวิต

กิจกรรมดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีลูกค้า และพนักงาน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในการส่งเสริมความเสมอภาคของผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่า บริษัทฯ ต้องการสร้างมุมมองใหม่ๆ ของผู้คนในสังคมที่มีต่อผู้หญิง เพราะเราเชื่อมั่นว่าผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดความสำเร็จและการเติบโตทั้งในด้านธุรกิจ เศรษฐกิจ และสังคมโลก รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมที่เคารพความแตกต่าง และอยู่ร่วมกับบนความหลากหลายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม และเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป