ชิงส่วนแบ่งตลาดกระเบื้องเซรามิกและสุขภัณฑ์ มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท

COTTO ผู้นำเทรนด์ ด้วยนวัตกรรมที่มาพร้อมโซลูชั่น หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน)โดยนายสิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด และ Chief Marketing Officer บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด มหาชน ร่วมกับ นายเอกราช ลักษณสัมฤทธิ์ (ที่ 2 จากซ้าย) สถาปนิกและผู้ก่อตั้ง SomethingDesign มอบรางวัลให้กับทีมผู้ชนะเลิศการประกวด COTTO DESIGN CONTEST 2023 ผ่านแนวคิด Self-tainable การออกแบบพื้นที่สาธารณะขนาดย่อมที่แก้ไขปัญหาด้านความยั่งยืนในแบบของตน เพื่อสนับสนุนให้นักออกแบบรุ่นใหม่เติบโตไปในสายงานออกแบบบที่ยังคงความเป็นตัวตน พร้อมนำแนวคิดเชิงสถาปัตย์มาเพื่อช่วยคลีคลายปัญหาสังคม ชุมชน และโลกใบนี้ ณ หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร

ข้อมูลสนับสนุน

รางวัลที่ 1 ชื่อผลงาน: ท่าใหม่-ชีวิตใหม่ โดยนายสุทธิพงศ์ คามทิตย์ ชั้นปีที่ 3 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนเเก่น

รางวัลที่ 2 ชื่อผลงาน: Don't walk under the stair โดย นายวิชยุตม์ สิมะโรจน์ ชั้นปีที่ 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมืองมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

รางวัลที่ 3 และ รางวัล Popular Vote  ชื่อผลงาน: FLOREST โดยนายชวิน เหล่าอนันต์ขัย ชั้นปีที่ 2 Architecture, Chulalongkorn University และนางสาววรณัน อธิพันธุ์อำไพ ชั้นปีที่ 2 Architecture, Architecture Association, Experimental Program

SCG Decor โชว์นวัตกรรมดิจิทัลพลิกโฉม Smart Bathroom รับเทรนด์การใช้ชีวิต ยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพ สะอาดปลอดภัย พร้อมโชว์เอไอ หุ่นยนต์ช่วยการผลิต เร่งบุกตลาดสุขภัณฑ์อาเซียนคาดมูลค่าตลาดสูงถึง 7 หมื่นล้านบาท

นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ซึ่งเป็นบริษัทแกนหลักของ เอสซีจี ในการดำเนินธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ (Decor Surfaces & Bathroom) ผ่านบริษัทย่อยและบริษัทร่วม โดยปัจจุบันเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน ที่มีฐานผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศอินโดนีเซีย และมีฐานผลิตสุขภัณฑ์ในประเทศไทย กล่าวว่า “หลังโควิด19 ส่งผลให้วิถีใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปใน 3 ด้าน คือการคำนึงถึงสุขอนามัย ป้องกันเชื้อโรค (Hygiene) - ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต (Convenience) – การใช้ห้องน้ำเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อน (Entertainment/ Emotion)  SCG Decor จึงได้พัฒนานวัตกรรมและออกแบบสินค้าเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคดังกล่าว เช่น กลุ่มธุรกิจตกแต่งพื้นผิว ได้พัฒนากระเบื้องฟอกอากาศพร้อมประจุลบในสารเคลือบกระเบื้อง กระเบื้องยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย กระเบื้องกันลื่น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในประเทศไทย เวียดนาม ส่วนกลุ่มธุรกิจสุขภัณฑ์ได้พัฒนานวัตกรรมสุขภัณฑ์ Smart Toilet ที่มีระบบสัมผัสอัตโนมัติ ซึ่งมีฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไทย โดยมองว่าตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทยรวมถึง Smart Bathroom ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เช่นเดียวกับตลาดในอาเซียน คาดว่าจะมีมูลค่า 78,700 ล้านบาทในปี 2569  สูงกว่าตลาดในไทยกว่า 6 เท่าตัว จึงเป็นโอกาสของ SCG Decor คว้าโอกาสในตลาดนี้”

นายสิทธิชัย สุขกิจประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามซานิทารีแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสุขภัณฑ์และก๊อกน้ำ COTTO เปิดเผยว่า “เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสุขภัณฑ์สอดรับกับกลยุทธ์หลักของ SCG Decor และความต้องการของผู้บริโภค COTTO จึงได้พัฒนาและสรรหานวัตกรรม “ดิจิทัล-ออโตเมชัน” สำหรับ Smart Bathroom จากแหล่งต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น สุขภัณฑ์อัตโนมัติ (Smart Toilet) รุ่น VIZIO นวัตกรรมเพื่อสุขอนามัยกับ “คอตโต้ ไอออนมิส” ด้วยน้ำประจุบวกที่ผ่านกระบวนการแยกประจุและพ่นเป็นละอองน้ำภายในโถสุขภัณฑ์ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย ก๊อกน้ำอัจฉริยะ (Sensor Faucetสั่งการแม่นยำ ลดการสัมผัส Smart Towel Dryer ราวตากผ้าอัจฉริยะระบบเป่าผ้าแห้งไว ลดการสะสมของเชื้อราสาเหตุของกลิ่นอับในห้องน้ำ พร้อมฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีไม่ทำลายเนื้อผ้าและผิวสัมผัส ควบคุมด้วยแอปพลิเคชันจากสมาร์ทโฟน Smart Mirror TV กระจกอัจฉริยะมัลติฟังก์ชัน เชื่อมต่อความบันเทิงได้หลากหลายพร้อมเช็คข้อมูลสุขภาพประจำวันจากเครื่องตรวจสภาพผิวและเครื่องชั่งน้ำหนักวัดมวลกล้ามเนื้อ-ไขมันได้ทันที ชุดฝักบัวหน้ากว้างพร้อมแสงไฟ LED โดยไม่ต้องต่อไฟฟ้าและเชื่อมต่อเสียงเพลงได้ เป็นต้น”

นอกจากนี้ COTTO ยังได้นำระบบอัตโนมัติ หรือออโตเมชันมาใช้ควบคู่ไปกับการบริหารกำลังการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับสินค้าคุณภาพสูง ลดขั้นตอนการทำงานที่เสี่ยงต่อสุขภาพของพนักงาน ส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาทักษะและศักยภาพตนเองให้พร้อมสำหรับการขยายธุรกิจต่อไปด้วย

“COTTO ได้นำระบบออโตเมชันมาใช้ ภายใต้แนวคิด หุ่นยนต์ทำงานร่วมกับคน หรือ Man & Machine Automation Smart Factory นำความเชี่ยวชาญในการผลิตสุขภัณฑ์ มาสอน ออกแบบ และควบคุมให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างประณีต แม่นยำ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าคุณภาพสูง พร้อมกับการคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน โดยนำมาใช้ในกระบวนการผลิตหลัก ๆ อาทิ การขึ้นรูปหม้อน้ำสำหรับโถสุขภัณฑ์ด้วยเครื่องหล่อแรงดันสูง ที่ใช้สายพานและระบบลำเลียงอัตโนมัติ ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บจากการทำงานในการเคลื่อนย้ายชิ้นงานด้วยแรงงานคน ระบบพ่นสีเคลือบอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ ทำให้สีที่เรียบเนียนสม่ำเสมอได้มาตรฐานและยังช่วยลดการสัมผัส สูดดมสีของพนักงาน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้นำเทคโนโลยีชั้นสูงอื่น ๆ มาใช้ในห้องปฏิบัติการทดสอบ เช่น เทคโนโลยีการประมวลภาพ หรือ Image Processing เพื่อเพิ่มความละเอียดแม่นยำในการตรวจสอบและวิเคราะห์คุณภาพสินค้าก่อนส่งถึงมือลูกค้า เป็นต้น

พร้อมเชื่อมต่อแนวคิดการออกแบบบ้านรับวิถีชีวิตแนวใหม่แห่งการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและความยั่งยืน ตอกย้ำผู้นำเทรนด์วัสดุตกแต่ง

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click