

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT และ ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมลงนามการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือร่วมสร้างอนาคตไทยด้วยเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยผ่านโครงการสหกิจศึกษา นิสิตจะมาปฏิบัติงานจริงในโครงการแผนงานต่างๆ ในองค์กรที่มีทั้งในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อเติมเต็มองค์ความรู้ของนิสิตก่อนจบการศึกษา

รวมถึงการส่งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Cybersecurity, Data Science, Data Engineering, Software Development เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือตลาดแรงงานในอนาคต และร่วมกันสนับสนุนโครงการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ให้เข้าถึงคนทุกกลุ่มทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายและศูนย์บริการ ของNT ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เมื่อวันพุธที่ 8 ตุลาคม 2568 ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท กรุงเทพฯ
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมจัดงานเพื่อพัฒนาศักยภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจโคราช จังหวัดนครราชสีมา ให้ก้าวสู่การเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมเปิดพื้นที่สำหรับทุกภาคส่วน ร่วมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา

ดร.ยุทธศาสตร์ นิธิไพจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มดิจิทัล สายงานดิจิทัลและโซลูชัน NT และนายเปรมวิทย์ เปรมบัญชา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มขายและปฏิบัติการลูกค้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ NTร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมจัดนิทรรศการแสดงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อประชาชน สนับสนุนการให้บริการภาครัฐด้วยระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (e-Office) ในการ “สร้าง – เซ็น - ส่ง” เอกสาร เพื่อลดการใช้กระดาษ และเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัล (Digital Government Transformation) และได้จัดเสวนา “e-Office เทคโนโลยีต้นทางเพื่อการบริการประชาชน” เพื่อสร้างแรงผลักดันให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐมีความตื่นตัวต่อการให้บริการแก่ภาคประชาชนในยุคดิจิทัล ด้วยความสะดวก รวดเร็ว มากยิ่งขึ้น โดยภายในงานได้มีการแสดงนิทรรศการด้านดิจิทัลที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขับเคลื่อนการทำงานยุคใหม่ของ Digital Nomad ที่เป็นกลุ่มคนที่ทำงานผ่านระบบออนไลน์และใช้ชีวิตแบบอิสระ กลุ่มนิทรรศการดิจิทัลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน อาทิ โดรนเพื่อการเกษตร เป็นต้น
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท วี กรีน เคยู จำกัด ร่วมพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มสำหรับการคำนวณและรายงานค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (CFO: Carbon Footprint of Organization) เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันนโยบายระดับชาติ มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ตามพันธกิจที่ประเทศไทยให้ไว้ต่อประชาคมโลก
การบรรลุข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภารกิจด้านความยั่งยืนของประเทศ เพื่อร่วมกันวิจัยพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์ม พร้อมนำองค์ความรู้ทางวิชาการ การคำนวณและรายงานค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร รวมถึงข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอื่นๆ ร่วมส่งเสริมและพัฒนาทักษะความรู้ให้แก่บุคลากรทั้งสองฝ่าย ทั้งการฝึกอบรม การฝึกภาคปฏิบัติ และการค้นคว้าวิจัยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลและองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม โดย NT มีจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure)
และความสามารถด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ อีกทั้งเรามีฐานลูกค้าครอบคลุมหลายภาคส่วน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถจัดการและรายงานข้อมูลด้านคาร์บอนได้อย่างเป็นระบบ พร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำและยั่งยืน”

รองศาสตราจารย์ ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท วี กรีน เคยู จำกัด กล่าวว่า “เราเป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับในระดับประเทศด้านองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทางวิชาการด้านการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ที่จะช่วยพัฒนาระบบให้มีมาตรฐานและสอดคล้องกับเกณฑ์สากล และเพื่อให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสามารถใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การสร้างคุณค่าใหม่แก่สังคมและประเทศชาติในระยะยาว”
การจับมือกันของทั้งสององค์กรในครั้งนี้จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนและสนับสนุนนโยบายระดับชาติ ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนของประเทศไทย ตามที่ได้ให้คำมั่นไว้ต่อประชาคมโลก นั่นคือการมุ่งสู่เป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) โดยสนับสนุนการดำเนินงานด้านก๊าซเรือนกระจก และอำนวยความสะดวกให้กับองค์กร และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้สามารถจัดการและรายงานข้อมูลด้านคาร์บอนได้เป็นระบบ เดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่สังคมไทย ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ระดับประเทศและระดับโลกต่อไป
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาขน) หรือ NT ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย ผ่านการส่งข้อความแจ้งเตือนโดยตรงถึงโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่ทดสอบ หรือCell Broadcast สำหรับการแจ้งเตือนภัยสาธารณะผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ณ สถานที่บัญชาการเหตุการณ์การทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ ระดับกลาง (อำเภอ/เขต) ห้องวอร์รูม (War Room) ชั้น 6 อาคารศูนย์ปฎิบัติการแพร่ภาพออกอากาศการกระจายเสียงวิทยุและการให้บริการข้อมูลข่าวสารภาครัฐ กรมประชาสัมพันธ์ ถนนวิภาวดี

นายณัฏฐวิทย์ สุฤทธิกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มสื่อสารไร้สาย บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เปิดเผยว่า NT ร่วมกับ ปภ. ทำการทดสอบความพร้อมของระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่จริงครั้งที่ 2 ในวันพุธที่ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. เป็นการทดสอบ “การแจ้งเตือนระดับกลาง” ในระดับอำเภอ/เขต 5 พื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี และเขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ซึ่งการทดสอบส่งสัญญาณในระดับกลางนี้ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ทุกตำบล ในอำเภอต่างๆ ทั้ง 5 พื้นที่เป้าหมายได้รับสัญญาณจาก Cell Broadcast และจากการทดสอบระบบ Cell Broadcast ของ NT ผลการทดสอบพบว่า ระบบสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนภัยถึงโทรศัพท์มือถือในพื้นที่เป้าหมายได้อย่าง รวดเร็ว ครอบคลุม และแม่นยำ รองรับการใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS โดยไม่กระทบต่อการให้บริการปกติ ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าที่ใช้บริการ my by NT บนโครงข่าย 4G-700 MHz จะได้รับการแจ้งเตือนภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที พร้อมสร้างความมั่นใจในการใช้งานจริงยามเกิดเหตุฉุกเฉิน ทั้งนี้ ระบบส่งข้อความครั้งเดียว พร้อมเสียงเตือนยาว 8 วินาที แสดงข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และจะค้างสัญญาณไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้ผู้ที่เข้าสู่พื้นที่หลังจากการส่งยังสามารถรับข้อความได้ทันที

NT ยืนยันพร้อมในการเปิดใช้งานร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast อย่างเต็มรูปอีกครั้งในวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ระดับใหญ่ (ระดับจังหวัด) ใน 5 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ จ.อุดรธานี จ.พระนครศรีอยุธยา จ.นครศรีธรรมราช และกรุงเทพมหานคร โดยผู้ใช้บริการ my by NT ที่เปิดเครื่องและเชื่อมต่อเครือข่าย 4G/ 5G และอัปเดตซอฟต์แวร์เป็น Android 11 ขึ้นไป หรือ IOS 18 ขึ้นไปในพื้นที่ทดสอบจะได้รับการแจ้งเตือน

NT พร้อมพัฒนาระบบ Cell Broadcast ให้มีประสิทธิภาพให้มีการแจ้งเตือนที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยภายหลังจากการทดสอบ จะมีการเก็บข้อมูลประสิทธิภาพของระบบผ่านแบบสอบถามออนไลน์ (Google Form) ของ ปภ. เพื่อทบทวนประสิทธิภาพและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมสรุปผลการทดสอบและวิเคราะห์เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง ในการใช้งานระบบแจ้งเตือนภัยต่อไป เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศไทยที่สามารถแจ้งเตือนถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทั่วถึง ทันท่วงที สามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง และอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที