กรุงเทพฯ: บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2565 จำนวน 10,309 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของการขยายตัวของฐานรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและการตั้งเงินสำรองที่ลดลง ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 22,815 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 30,403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาส 3 ของปี 2565 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 27,714 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิพร้อมกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่นๆ มีจำนวน 11,752 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวดีขึ้น 6.5% จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบและการฟื้นตัวของกิจกรรมทางธุรกิจในวงกว้าง ในขณะที่รายได้จากการลงทุนและการค้าปรับตัวลดลง 81.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 16,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดีที่ 42.6% ในไตรมาส 3 ของปี 2565

บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองในไตรมาส 3 ของปี 2565 จำนวน 7,750 ล้านบาท ลดลง 22.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงที่ 163.8%

คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 อยู่ที่ 3.34% ปรับตัวลดลงจาก 3.58% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 และเงินกองทุนตามกฎหมายยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.5%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธุรกิจของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ควบคู่กับการสนับสนุนการฟื้นตัวของลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ในขณะเดียวกันการจัดตั้งธุรกิจใหม่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ยานแม่” มีความก้าวหน้าหลายประการ อาทิ การบุกตลาดธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ของบริษัท ออโต้ เอกซ์ ภายใต้แบรนด์ “เงินไชโย” ที่สามารถขยายฐานลูกค้าและสินเชื่อมากกว่า 3,000 ล้านบาท ภายในไตรมาสเดียว บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ได้เปิดตัวซูเปอร์แอป ด้านการลงทุนแห่งแรกของไทยที่รวบรวมการซื้อขายสินทรัพย์ดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ในแพลตฟอร์มเดียว อีกทั้งแพลตฟอร์มโรบินฮู้ดได้ผันตัวไปเป็นซูเปอร์แอป อย่างเต็มรูปแบบโดยเพิ่มบริการจองที่พักและกิจกรรมท่องเที่ยว (Online Travel Agent) บริการสั่งซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้า (Mart Service) และบริการรับ-ส่งของ (Express Service) ตลอดจนได้รับใบอนุญาตแพลตฟอร์มบริการเรียกรถแล้ว และในไตรมาสนี้ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ ได้รับเงินปันผลพิเศษจากธนาคารเพื่อใช้ดำเนินงานตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อนำพาองค์กรก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำในระดับภูมิภาคต่อไป”

ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS” หรือ “ผู้ซื้อ”) ในการประชุมครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564

 

ตามที่มีกระแสข่าวว่ากลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX) อยู่ระหว่างพิจารณาการขายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) ซึ่งทาง SCBX ได้ชี้แจงไปเบื้องต้นแล้วนั้น ทาง SCBX ใคร่ขอเน้นย้ำและปฏิเสธข่าวดังกล่าวอีกครั้งว่าไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด 

ประกาศขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งในตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าโต 10 ล้านราย สร้างกำไร 6 พันล้านบาท ดันพอร์ตธุรกิจทั้งกลุ่มโต 1.5 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี

“เอสซีบี เอกซ์” หลังได้นำหุ้นที่ได้รับแลกเข้าจดทะเบียนเพิ่มทุนกับกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 22 เมษายน 2565 โดยกำหนดระยะในการแลกหุ้น “SCB” เป็น “SCBX” ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากกลุ่มนักลงทุนผู้ถือหุ้นของ SCB ได้ตอบรับคำเสนอซื้อ (Tender Offer) สูงถึงกว่า 99% ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้น สะท้อนภาพความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการปรับโครงสร้างธุรกิจ และแผนยุทธศาสตร์ “ยานแม่” ของกลุ่มฯ ที่มุ่งสร้างมูลค่าจากธุรกิจใหม่ให้มีขนาดที่มีนัยยะสำคัญ เพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนและแข็งแรงให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปในระยะยาว ทั้งนี้ เตรียมนำ SCBX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพิกถอนหุ้นของธนาคารไทยพาณิชย์ออกจากตลาดในวันเดียวกันต่อไป

Page 2 of 3
X

Right Click

No right click