กระทรวงดีอี โดย ดีป้า เตรียมมอบประสบการณ์เหนือระดับไปกับดิจิทัลคอนเทนต์ฝีมือคนไทยในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ชู depa Digital Content Zone ที่มาพร้อมแนวคิด Digital Soft Power เสิร์ฟสาระและความบันเทิงผ่าน Home Sweet Home เกมผีสัญชาติไทยที่โด่งดัง ลุ้นรับผลงานคาแรกเตอร์ฝีมือคนไทย ร่วมมีทแอนด์กรี๊ดกับ น้องไอช่า Virtual Idol ชื่อดัง และสนุกสนานไปกับการประกวดคอสเพลย์ในธีม Thai Soft Power พร้อมรับของที่ระลึกมากมาย แล้วพบกันวันที่ 13 มกราคมนี้ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า วันเด็กแห่งชาติปีนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดีอี) โดย ดีป้า จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด เรียนดี มีความสุข ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่ง ดีป้า พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรจะร่วมนำเสนอกิจกรรมต่าง ๆ ในคอนเซปท์ Digital Soft Power โดยเปิดโอกาสให้เยาวชน ผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจได้สัมผัสประสบการณ์สุดตื่นเต้น น่าประทับใจ พร้อมรับสาระความรู้ และร่วมสนุกไปกับดิจิทัลคอนเทนต์ฝีมือคนไทยแบบจัดหนักจัดเต็มใน depa Digital Content Zone

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสประสบการณ์ขนหัวลุกไปกับ ‘Home Sweet Home’ เกมผีสัญชาติไทยที่โด่งดังจาก Yggdrazil Group (อิ๊กดราซิล กรุ๊ป) ที่น้อง ๆ ทุกคนจะได้ลองเล่น ลองหลอนไปกับความสยองขวัญที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของผีไทย ลุ้นรับผลงานคาแรกเตอร์สวย ๆ ฝีมือนักพัฒนาชาวไทยเป็นที่ระลึกกลับบ้านร่วมมีทแอนด์กรี๊ดกับ ‘น้องไอช่า’ Virtual Idol ชื่อดังจาก Aisha Channel ที่จะมาเปิด Fan Meeting ภายในงาน และสนุกสนานไปกับการประกวดคอสเพลย์ในธีม ‘Thai Soft Power’ พร้อมรับของที่ระลึกมากมายจาก ดีป้า และหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงดีอี

“กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติที่ทำเนียบรัฐบาลปีที่ผ่านมา กิจกรรม NATIONAL CHILDREN’S ESPORTS DAY ดวลมันส์..วันเด็ก ของ ดีป้า ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากน้อง ๆ เยาวชน พ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงประชาชนทั่วไป สำหรับกิจกรรมในปีนี้ ดีป้า จะนำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ไทยผ่านดิจิทัลคอนเทนต์ และ Virtual Reality (VR) เพื่อให้น้อง ๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ รับสาระและความบันเทิง รวมถึงแรงบันดาลใจในการเปิดโลกแห่งอาชีพในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดจะสอดคล้องไปกับคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2567 ‘มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย’ จาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

 

แล้วพบกันที่ depa Digital Content Zone ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ในวันเสาร์ที่ 13 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจร่วมประกวดคอสเพลย์สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ https://short.depa.or.th/zwVvB

เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลาง AI แห่งอาเซียน  

ในยุคแห่งดิจิทัลที่ธุรกิจ ภาคองค์กร รวมไปถึงหน่วยงานระดับประเทศ ต่างต้องการขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ องค์ประกอบสำคัญอย่าง “บุคลากร” ด้านเทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากทรัพยากรบุคคลเหล่านี้จะต้องเป็นผู้เข้ามาเตรียมความพร้อมให้กับทุกภาคส่วนของทุกองค์กรในการมาถึงของเทคโนโลยี และอาจจะรวมไปถึงกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในระดับประเทศอีกด้วย สำหรับในประเทศไทยเอง แม้รัฐบาลไทยจะมีแผนระดับชาติที่รองรับด้านเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลอยู่บ้างแล้ว แต่ก็อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการบุคลากรไอซีทีจำนวนมากจากทุกภาคอุตสาหกรรม ในอนาคตอันใกล้ภาคเทคโนโลยีเอกชนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่สามารถช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากรไทยรุ่นใหม่ของตลาดเทคโนโลยี

หัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีไอซีทีระดับโลก ได้มีส่วนช่วยผลักดันบุคลากรดิจิทัลในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือต่าง ๆ กับเหล่าพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีโครงการ “Seeds for the Future” เป็นหนึ่งในโครงการหลักที่ช่วยฝึกอบรมเด็กไทยในระดับอุดมศึกษาให้เป็นบุคลากรด้านไอซีที และเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ โดยโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในไทยมาเป็นเวลานานถึง 15 ปี และใน Seeds for The Future 2023 ประจำปีนี้ ได้ฝึกอบรมทั้งเยาวชนรุ่นใหม่ที่มาจากสายวิศวะกรหรือสายเทคโนโลยีโดยตรง และเยาวชนที่มาจากภาควิชาอื่นแต่มีความสนใจด้านเทคโนโลยี ซึ่งนอกจากการฝึกอบรมกับผู้เชี่ยวชาญและวิทยากรจากหัวเว่ยทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ น้อง ๆ เยาวชนที่แสดงศักยภาพได้โดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรม หลังการฝึกอบรมเป็นระยะเวลา 8 วัน เราจะคัดเลือกนักเรียนที่มีศักยภาพโดดเด่นเพื่อร่วมเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงระหว่างวันที่ 15-20 กันยายนที่จะถึงนี้

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงโครงการ Seeds for the Future 2023 ว่า “นี่เป็นโครงการ 15 ปี ที่หัวเว่ยลงทุนด้วยความเชื่อว่าอนาคตของยุคนี้อยู่ในมือของคนรุ่นใหม่ เราต้องการพัฒนาทักษะให้กับเยาวชน หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐบาล ลูกค้า และพันธมิตรของเรา เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของอาเซียน ซึ่งเราเชื่อว่ามีองค์ประกอบสำคัญ 4 ประการ ในการช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลในอนาคต ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล แพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบนิเวศ ความยั่งยืน รวมถึงบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล ซึ่งนักศึกษาทั้ง 20 คนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จะได้รับประสบการณ์จากภาคปฏิบัติและความรู้มากมายที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมไอซีที รวมไปถึงแแนวคิดของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน วัฒนธรรมจีน และค่านิยมหลักของหัวเว่ยอีกด้วย”

ด้านศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ MDES ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับหัวเว่ยในปีนี้ว่า “ในนามของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผมขอขอบคุณหัวเว่ย สำหรับความร่วมมือที่มีอย่างต่อเนื่องยาวนานกับกระทรวงมาโดยตลอด สำหรับโครงการ Seeds for the Future ผมมองว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันให้กับประเทศ และการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีกับคนรุ่นใหม่ เราต้องมองเห็นเป็นภาพใหญ่ให้ได้ในแง่ของการลงทุนทำวิจัยและการสร้างรากฐานทางการศึกษาที่แข็งแกร่ง เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีความรู้และได้รับโอกาสอย่างเพียงพอต่อการเติบโตต่อไปในอนาคต สิ่งเหล่านี้คือหนึ่งในภารกิจสำคัญของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผมต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมครั้งนี้ และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่จะได้เดินทางไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเรียนรู้และเปิดรับองค์ความรู้ใหม่ ๆ นี่อาจจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนรู้ว่า ชีวิตของเรายังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก โอกาสนี้มาถึงแล้ว ขอให้สิ่งนี้เป็นรางวัลที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน”

ทั้งนี้ หัวเว่ยได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการแข่งขันจากโครงการฝึกอบรม Seeds for the Future 2023 จำนวน 5 คน ไปเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะได้รับสิทธิ์ไปศึกษาดูงานต่อที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ศักดิ์ชัย แซ่เฮ่ย จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม, วินิธา ภู่ชัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ จีนธุรกิจ, ปทิตตา  ทิมทอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร, พุฒิพงศ์ เหล่าบัณฑิตเจริญ มหาวิทยาลัยรังสิต คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ และกฤชวิชช์ ทิพยจินดากุล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยทั้ง 5 คน จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีชั้นนำจากหัวเว่ย รวมทั้งเรียนรู้วิธีการเป็นสตาร์ทอัพ จากศูนย์อบรมที่เซินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการแข่งขันครั้งต่อ ๆ ไปในระดับโลกหรือประยุกต์ใช้กับสายอาชีพของตัวเองในอนาคต

พลเอก ประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะนัดแรก ประจำปี 2565

X

Right Click

No right click