Investic หนึ่งในผู้ให้บริการด้านการลงทุนด้วย Quant ที่ใช้หลักคณิตศาสตร์และสถิติ ชูโรงใช้ General AI เสริมแกร่งข้อมูลด้านการลงทุนในให้นักลงทุนไทย ด้วยเทคโนโลยีขั้นกว่าของปัญญาประดิษฐ์พร้อมติดอาวุธนักลงทุนไทย เปิดโลกการลงทุนให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและล้ำลึกกว่าเดิม มุ่งเป็น AI Application ด้านการลงทุนเบอร์หนึ่งของไทยทั้งในตลาด ทอง หุ้น และสินทรัพย์ดิจิทัล

ในโลกของการลงทุนวันนี้เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทที่ทำให้การเข้าถึงข้อมูลด้านการลงทุนมีความหลากหลาย รวดเร็ว และกระชับมากขึ้น Investic ในฐานะผู้นำด้านการลงทุนที่มุ่งใช้ General AI เกิดจากการความตั้งใจในการผสมผสานระหว่างคำว่า Investment (การลงทุน) กับ Data Analytics (การวิเคราะห์ข้อมูล) ซึ่งทั้งสองส่วน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการลงทุน ภายใต้การนำทัพของ “วิธาน มีนาภินันท์” ผู้ก่อตั้ง Investic ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Quant และ AI ที่มุ่งนำประสบการณ์ด้านการลงทุนมาผสานกับความแข็งแกร่งของทีมงานทั้งด้าน Quant และ AI เพื่อพัฒนาโซลูชันที่ง่ายต่อการใช้งาน เพิ่มโอกาสการทำกำไรและลดความเสี่ยงให้นักลงทุนรายย่อย ด้วยข้อมูลในระดับเดียวกับนักลงทุนรายใหญ่และสถาบัน รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ

 

นายวิธาน มีนาภินันท์ ผู้ก่อตั้ง Investic เปิดเผยว่า "ปัจจุบัน Artificial Intelligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ด้วยความสามารถในการคิดวิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้จากการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้การใช้ AI ในการลงทุนช่วยให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ง่ายขึ้นจากประสิทธิภาพในหลายๆ ด้าน เช่น การวิเคราะห์ผลกระทบของปัจจัยตลาด การคัดเลือกสินทรัพย์ และการให้น้ำหนักการลงทุน โดยเฉพาะ General AI ที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด สามารถสร้าง Framework การลงทุนที่แม่นยำขึ้น ลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

Investic มุ่งเป็น AI Application ด้านการลงทุนเบอร์หนึ่งของไทย แพลตฟอร์มของเราจะทำให้นักลงทุนรายย่อยมีแผนการเทรดที่มีประสิทธิภาพ เข้าถึงคอมมูนิตี้นักลงทุน ลดเวลาในการศึกษา และใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการลงทุน ทำให้ไม่เสียเปรียบรายใหญ่และสถาบันการเงิน ด้วยการนำ General AI มาช่วยหาข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการตัดสินใจ ที่สำคัญยังสามารถประยุกต์ใช้ตามหน้างานได้เพราะไม่เป็นสูตรตายตัว"

นอกจากนี้ Investic ยังได้ผสานความเป็น Tech Company และ Investment Company มาเป็นโซลูชันที่ง่ายต่อการเข้าถึงของเทรดเดอร์รายย่อย แต่ได้คุณภาพระดับเดียวกับสถาบันใช้ โดยมีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนและเข้าใจกลยุทธ์การลงทุนเชิง Quant และ AI ทำให้สามารถสร้าง AI ที่มีความแม่นยำและมีกระบวนการวิเคราะห์เพื่อลงทุนแบบมืออาชีพได้

นายวิธาน กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในโลกของการลงทุน ข้อมูลคือสิ่งสำคัญ คนที่มีข้อมูลมากกว่าจะได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันการเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่สิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์และใช้ข้อมูลเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเราได้จัดตั้ง Investic Academy เพื่อถ่ายทอดความรู้ด้าน Quant Programming และการใช้ AI ด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนไทย ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

“บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด” (InnovestX Securities Co., Ltd.) เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเงินการลงทุนแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง ร่วมสนับสนุนโครงการแข่งขัน “2022-2023 CFA Institute Research Challenge” ซึ่งจัดขึ้น โดย สมาคม ซีเอฟเอ ไทยแลนด์ (CFA Society Thailand) เวทีเฟ้นหา ‘Thailand Winner’ สุดยอดทีมนักศึกษาดาวรุ่งคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ ความสามารถโดดเด่น

ภายใต้การแข่งขันทดสอบความสามารถ ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษาอย่างเข้มข้น โดยผู้ชนะในปีนี้ ได้แก่ ทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลักสูตรบริหารธุรกิจ (นานาชาติ) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ซึ่งจะเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติที่มีผู้เข้าแข่งขันจากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก นับเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่ม Talent ได้พัฒนาขีดความสามารถและเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงิน การลงทุนอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่สายอาชีพต่อไปในอนาคต

นายพสุวุฒิ วิไลนิรันดร์ Assistant Managing Director และ Head of Private Fund Management บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด กล่าวว่า “บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) มุ่งมั่นในการวางรากฐาน และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเงินการลงทุนแห่งอนาคตอย่างครบวงจรในประเทศไทย โดยหนึ่งในกลไกที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการเงินการลงทุนคือบุคลากรที่มีคุณภาพ เราจึงให้ความสำคัญและส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุน เพื่อพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีทักษะที่สามารถรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงได้ร่วมสนับสนุนโครงการ “2022-2023 CFA Institute Research Challenge” เวทีทดสอบความสามารถในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ ของนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ผลักดันนักศึกษาดาวรุ่งนักการเงินการลงทุนรุ่นใหม่ระดับแนวหน้าของประเทศ ด้วยการสนับสนุนเงินรางวัลแก่ทีมที่เข้ารอบสุดท้าย รวมถึงทีมผู้ชนะ มูลค่ารวม 100,000 บาท พร้อมให้ความรู้ คำแนะนำ แบ่งปันประสบการณ์ให้กับน้อง ๆ โดยนักศึกษาในโครงการจะได้รับการฝึกฝน และการทำวิจัยผ่าน ประสบการณ์จริง ได้โอกาสในการเรียนรู้แบบใกล้ชิดจากกูรูแถวหน้าจากบริษัทมหาชนชั้นนำ และจากที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการเงินการลงทุน รวมถึงโอกาสในการแข่งขันร่วมกับทีมระดับท็อปในเวทีโลกที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา”

“เรามุ่งหวังว่าการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการสนับสนุนและผลักดันนักการเงินการลงทุนรุ่นใหม่ในครั้งนี้ จะสามารถช่วยสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพและมีศักยภาพ ในตลาดทุนที่มีความซับซ้อน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการวางรากฐานและร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเงินและการลงทุนแห่งอนาคตที่แข็งแกร่ง และยั่งยืนให้กับประเทศไทย ต่อไป” นายพสุวุฒิ กล่าวเสริม

 

X

Right Click

No right click