มูลนิธิทุนการศึกษาเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ ขอเชิญนักเรียนที่มีพรสวรรค์ทางวิชาการจากทั่วโลก สมัครชิงทุนประจำปีการศึกษา 2567-2569 เพื่อเข้าศึกษาหลักสูตรเอ - เลเวล ณ โรงเรียนในเครือเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์

มูลนิธิทุนการศึกษาเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ (AISL Harrow Scholarships Foundation) เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าทางการศึกษา เปิดรับสมัครนักเรียนทุนในโครงการทุนการศึกษาเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ (AISL Harrow Scholarships Programme) ประจำปีการศึกษา 2567-2569 ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ถึง 8 ธันวาคม 2566 โดยนับเป็นปีที่ 4 แล้วที่มีการมอบโอกาสครั้งสำคัญให้แก่นักเรียนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นจากทั่วโลกได้ศึกษาในหลักสูตรเอ-เลเวล (A-Level) ณ โรงเรียนในเครือเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ เพื่อปูทางสู่การศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

มอบการศึกษาเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชุมชน

มูลนิธิทุนการศึกษาเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ เป็นองค์ประกอบสำคัญภายใต้กลยุทธ์ความรับผิดชอบต่อสังคมที่ครอบคลุมของเอไอเอสแอล โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนที่มีความสามารถและมีศักยภาพในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้แก่โลกของเรา ทางมูลนิธิมุ่งมั่นที่จะขยายและสร้างความหลากหลายให้กับชุมชนฮาร์โรว์ ด้วยการดึงดูดนักเรียนที่มีพรสวรรค์ทางวิชาการจากทั่วโลกที่แสดงให้เห็นถึงค่านิยมหลักของฮาร์โรว์ และเปิดโอกาสให้เข้าศึกษาในโรงเรียนในเครือเอไอเอสแอล

ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวน รวมทั้งได้รับการยกเว้นค่าหอพักและค่าธรรมเนียมการสอบ ซึ่งช่วยให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาแบบฉบับฮาร์โรว์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักจาก "ความเป็นเลิศทางการศึกษาเพื่อคุณภาพชีวิตและความเป็นผู้นำ" (Educational Excellence for Life and Leadership) สำหรับทุนการศึกษานี้จัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2564 โดยมอบให้แก่นักเรียน 16 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้สมัครมากกว่า 1,300 คน และยังคงเดินหน้าบ่มเพาะและฟูมฟักนักเรียนมากความสามารถและมีวิสัยทัศน์กว้างไกลเพื่ออนาคตที่ดีกว่าต่อไป

ความสำเร็จอันโดดเด่นของนักเรียนทุนกลุ่มแรก

นักเรียนทุนกลุ่มแรกจำนวน 5 คนจบการศึกษาในซัมเมอร์นี้ด้วยเกรด A* และ A รวม 18 ตัวในการสอบเอ-เลเวล ต่างได้รับข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ฯลฯ

" การเป็นนักเรียนทุนเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ ทำให้ผมมีความรับผิดชอบในการรักษามาตรฐานส่วนตัวและมาตรฐานทางวิชาการอยู่เสมอ รวมถึงมีความใส่ใจช่วยเหลือชุมชนอีกด้วย " - แมททิว ซี. (Matthew C.) จากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ฮ่องกง ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

" ฉันใฝ่ฝันว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียมาตลอด และทุนการศึกษาเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ ก็ช่วยสานฝันของฉันให้กลายเป็นจริง "

- ทิฟฟานี ซี. (Tiffany C.) จากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ฮ่องกง ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย

" โรงเรียนนี้ช่วยให้ฉันมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้ฉันกล้าเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ และออกจากคอมฟอร์ตโซน " - อี้ซำ วาย. (Yi Sum Y.) จากโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เซี่ยงไฮ้ ได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

ดร.โรซานนา หว่อง (Rosanna Wong) ประธานเอไอเอสแอล กล่าวว่า "นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นการเติบโตอันน่าทึ่งของนักเรียนกลุ่มแรกในช่วงสองปีที่ได้ศึกษาในเครือโรงเรียนเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ ความสำเร็จที่ไม่มีใครเทียบได้นี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสำเร็จของโครงการในการสนับสนุนนักเรียนให้มีความก้าวหน้าทางการศึกษา และสามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำได้"

โรงเรียน 10 แห่งทั่วเอเชียพร้อมมอบทุนการศึกษารวม 20 ทุน

โรงเรียน 10 แห่งในเครือเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ ได้เข้าร่วมในโครงการมอบทุนการศึกษาประจำปีการศึกษา 2567-2569 ประกอบด้วยโรงเรียนเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ กรุงเทพฯ, ปักกิ่ง, ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, เขตเฉียนไห่ในเซินเจิ้น และไหโข่ว รวมถึงโรงเรียนอีก 4 แห่งที่เข้าร่วมเป็นปีแรก ได้แก่ อัปปิ (Appi) ในญี่ปุ่น, เหิงฉิน, ฉงชิ่ง และหนานหนิง โดยโรงเรียนแต่ละแห่งจะมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนไม่เกินสองคน รวมทุนการศึกษาทั้งหมด 20 ทุนสำหรับปีนี้

ทางมูลนิธิพร้อมเปิดรับเยาวชนที่มีความโดดเด่น แสดงออกถึงความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ดร.โรซานนา หว่อง กล่าวเสริมว่า "แม้ว่าผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมยังคงเป็นข้อกำหนดพื้นฐานในการสมัคร แต่เราก็ให้ความสำคัญกับศักยภาพความเป็นผู้นำ ความสนใจในการทำกิจกรรมนอกห้องเรียน และความมุ่งมั่นในการทำประโยชน์ต่อสังคม เรามองหาค่านิยมหลักของฮาร์โรว์ในตัวผู้สมัคร นั่นคือ ความกล้าหาญ เกียรติยศ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และมิตรภาพ ในรูปแบบที่โดดเด่นที่สุด"

ระยะเวลาการสมัคร

ผู้สมัครสามารถส่งแบบฟอร์มแสดงความจำนงได้ตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ถึง 8 ธันวาคม 2566 ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมการทดสอบประเมินระดับเอ-เลเวล ระหว่างวันที่ 8 ถึง 30 มกราคม 2567 จากนั้นจะมีการสัมภาษณ์ออนไลน์โดยคณาจารย์จากเอไอเอสแอลระหว่างวันที่ 5 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 และจะมีการประกาศผลในวันที่ 8 เมษายน 2567

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดใบสมัครออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ aislharrow.com/apply-for-aisl-harrow-scholarships-2024/ นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจยังสามารถติดตามเอไอเอสแอล ฮาร์โรว์ ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อรับข้อมูลข่าวสารล่าสุด

นายวราวิช ฉิมตะวัน (คนกลาง) กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PLT ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทางเรือ และทางรถบรรทุก โดยมีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มบริษัทผู้ผลิตและ/หรือจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG)  สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ปั้มLPG) โรงบรรจุก๊าซหุงต้ม และโรงงานอุตสาหกรรม เป็นประธานมอบทุนการศึกษาให้กับพนักงาน  ในโครงการ “มอบทุนการศึกษาสำหรับคนประจำเรือ” หลักสูตรนายท้ายและต้นหน ประจำปี 2566 เพื่อส่งเสริมการศึกษาและสร้างเส้นทางในวิชาชีพอย่างมั่นคงให้กับพนักงาน ในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ณ บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆ นี้

ว่ากันว่าเด็ก ๆ ที่เกิดมาใหม่ทุกคนเปรียบเสมือนผ้าขาวและจะมีสีต่าง ๆ แต่งแต้มเติมเข้าไปเมื่อเติบโตขึ้น และสำหรับผู้ใหญ่แบบพวกเราแล้วต่างเคยผ่านช่วงวัยเด็กที่อาจจะมีโอกาสในชีวิตมากกว่าเด็กที่ยากไร้หลาย ๆ คน สำหรับเด็ก ๆ แล้ว พอเข้าเดือนมกราคมพวกเขาต่างเฝ้ามองถึงวันสำคัญนั่นก็คือวันเด็ก วันที่เด็ก ๆ ต่างคิดว่าเป็นวันพิเศษของตนเองและเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสได้ของขวัญ ของเล่น รับประทานอาหารและขนมพิเศษจากครอบครัว ญาติพี่น้อง หรือผู้ใหญ่ใจดี รวมทั้งมีโอกาสร่วมกิจกรรมพิเศษที่หน่วยงานต่าง ๆ จัดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็ก ๆ ยากไร้ในพื้นที่ชนบทห่างไกล ของขวัญที่เด็ก ๆ อยากได้อาจไม่ใช่เพียงของเล่น อาหาร ขนมแสนอร่อย แต่สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นโหยหาคือ “โอกาสทางการศึกษา” ที่จะช่วยให้ได้เรียนหนังสือ ไม่ต้องกังวลใจเรื่องความขาดแคลน ความขัดสนของครอบครัว และช่วยสานต่อความฝันที่ตนเองได้วาดไว้เมื่อเติบโตขึ้นว่าอยากเรียนอะไร อยากเป็นอะไร ซึ่งมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ที่ตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาและได้ดำเนินงานมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนยากไร้มาอย่างต่อเนื่องกว่า 35 ปี ได้ประเมินว่าจะมีนักเรียนสมัครขอรับทุนการศึกษาผ่านโรงเรียนในปีการศึกษา 2566 ที่จะถึงนี้ไม่น้อยกว่า 10,000 คน ดังนั้นมูลนิธิ EDF จึงขอชวนผู้ใหญ่ใจดีได้ร่วมมอบของขวัญพิเศษเป็นโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนที่ยากไร้ในโครงการทุนการศึกษาของมูลนิธิ โดยทุนการศึกษาที่ผู้ใหญ่ใจดีมอบให้จะมิเพียงแต่เป็นกำลังใจ เป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจให้นักเรียนที่ยากไร้ที่ได้รับทุนเท่านั้น แต่ยังจะช่วยเติมเต็มรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง รวมถึงยังเป็นโอกาส เป็นกำลังใจ แรงบันดาลใจ เพื่อให้พวกเขามีอนาคตที่สดใส พึ่งพาตนเอง และส่งต่อแรงบันดาลใจมอบโอกาสให้นักเรียนที่ยากไร้คนอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้มูลนิธิ EDF ได้เปิดรับบริจาคทุนการศึกษาล่วงหน้าสำหรับปีการศึกษา 2566 มาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา และจะปิดรับภายใน 30 มิถุนายน 2566 นี้

ผู้สนใจสามารถร่วมมอบโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนที่ยากไร้ได้โดยสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านระบบ E-Donation หรือบริจาคออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.edfthai.org หรือโอนเงินบริจาคผ่านบัญชี "มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (มูลนิธิ EDF)" ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เลขที่บัญชี 319-2-77744-8 ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 161-4-56698-0 ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 070-2-45369-0 ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 980-7-59891-5 หรือธนาคารทีทีบี เลขที่บัญชี 069-2-41110-1 หรือแอปพลิเคชันของทุกธนาคาร จากนั้นส่งสำเนาหรือภาพสลิปการโอนเงินพร้อมรายละเอียดเพื่อขอออกใบเสร็จรับเงินบริจาคที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์มูลนิธิ อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทรสาร 02-940-5266 หรือ LINE @edfthai

สำหรับมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนด้วยการมอบทุนการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมซีเอสอาร์ในโรงเรียนและชุมชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 และได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศและได้รับรางวัล เช่น รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทยประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาว จากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใสจากสมาคมกิฟวิ่ง แบค รางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะหน่วยงานที่ทำความดีอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม และรางวัลคนดีต้นแบบคุณธรรมไทยจากสมาคมสหพันธ์คนพิการในประเทศไทย เป็นต้น

เอสซีจีกลุ่มชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนได้มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและนักศึกษาระดับปริญญาตรีทั้งสิ้น 270 คน ทำให้ใน 9 ปีที่ผ่านมา

มีผู้ได้รับทุนการศึกษาจากกลุ่มตามโครงการเพื่อสังคมด้านการศึกษาไปแล้วมากกว่า 1,500 คนจำนวน 270 ทุนนี้แบ่งออกเป็นทุนที่มอบให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 250 ทุน และเป็นทุนที่มอบให้แก่นิสิตนักศึกษาในระดับชั้นปริญญาตรีจำนวน 20 ทุน

นายรัชต์ยุตม์ เกษมชัยศิริ Country Director เอสซีจี กัมพูชา กล่าวว่าการศึกษานั้นถือเป็นหนึ่งใน 3 ด้านสำคัญที่เอสซีจีมุ่งเน้นในโครงการรับผิดชอบต่อสังคม โดยอีก 2 ด้านคือด้านสุขภาพและด้านสิ่งแวดล้อม

นายรัชต์ยุตม์ เกษมชัยศิริ กล่าวว่า “ที่เอสซีจี เราได้มุ่งมั่นกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนในประเทศที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ และการส่งเสริมด้านการศึกษาเป็นปัจจัยหลักเพื่อบรรลุจุดประสงค์นี้ได้ ดังนั้นเราเชื่อว่าการสนับสนุนเงินทุนจะทำให้นักเรียนทุนฯ สามารถตั้งใจศึกษาได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องทุนทรัพย์ และเราหวังว่าโครงการ Sharing the Dream นี้จะช่วยผลักดันให้นักเรียนทุนฯ สามารถทำฝันให้เป็นจริงได้”

พิธีมอบทุนการศึกษานี้จัดขึ้นโดยมี H.E. Som Rattana ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เยาวชน และกีฬาของกัมพูชา และนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศกัมพูชาร่วมเป็นประธานในพิธี

H.E. Som Rattana กล่าวว่าเอกชนอย่างเอสซีจีได้มีส่วนสำคัญมากในการส่งเสริมและสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาในด้านการศึกษา

“การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษาเพื่อช่วยสานฝันให้ทุกคนนั้นสำคัญมาก บางคนอาจมีความฝันต่างๆ แต่ขาดปัจจัยที่จะสานต่อความฝันนั้นๆ ให้เป็นจริงได้ ดังนั้นการช่วยทำให้ฝันของพวกเขาเป็นจริงนั้นจึงสำคัญมากต่อพวกเราทุกคน”

ด้านนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศกัมพูชาได้กล่าวอวยพรให้นักเรียนทุนฯ ประสบความสำเร็จในการศึกษาด้วยการสนับสนุนจากเอสซีจี

นายชูเกียรติกล่าวว่า “นอกจากการศึกษาจะเป็นประตูสู่โอกาสต่างๆ สำหรับนักเรียน นักศึกษาแล้ว การศึกษายังถือเป็นการรักษาความสงบและความรุ่งเรืองของประเทศด้วย ประเทศกัมพูชาเองเต็มไปด้วยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและศักยภาพ ซึ่งต้องการความเอาใจใส่และจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนอนาคตที่สำคัญของประเทศต่อไป”

นาย Khom Keo นักเรียนทุนฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยวิทยาการสุขภาพ ได้กล่าวแสดงความยินดีหลังจากได้รับทุนสนับสนุนนี้ว่า “ผมมีความสุขมากเพราะว่าโครงการนี้ได้ช่วยสนับสนุนนักเรียนชั้นมัธยมปลายที่ยากจน และยังคงให้การสนับสนุนต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วย ดังนั้นจึงช่วยให้คนที่ขาดกำลังทรัพย์แต่มีความฝัน ได้สานต่อความฝันและสร้างอนาคตของตนเองได้”

โครงการ SCG Sharing the Dream เริ่มจัดตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2557 เป็นโครงการที่มอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดี มีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาต่อ และต้องการเงินทุนสนับสนุน รวมทั้งมีความห่วงใย ใส่ใจสังคมและเคารพญาติผู้ใหญ่ด้วย

พราะเชื่อว่าการศึกษาจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนที่ขาดแคลนได้ บริษัทยูเอ็มซี อิเล็คทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย มร.อะคิโตะ ทาคาตะ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ และนายนพดล ศรีโพธิ์ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป ถ่ายภาพร่วมกันในโอกาสที่บริษัทรวบรวมและส่งมอบเงินจากการตั้งกล่องรับบริจาคของมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ภายในพื้นที่ของบริษัท ทั้งนี้ยูเอ็มซี อิเล็คทรอนิส์ (ประเทศไทย) ได้ร่วมสนับสนุนการศึกษาด้วยการวางกล่องบริจาคของมูลนิธิ EDF มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2559

สำหรับมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาส โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2531-ปัจจุบัน มูลนิธิ EDF ได้มอบทุนการศึกษาให้เยาวชนที่ด้อยโอกาสจากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศในโครงการต่าง ๆ จำนวน 406,560 คน นอกจากนั้นยังร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดกิจกรรมซีเอสอาร์ในโรงเรียนและชุมชนอีกด้วย

หน่วยงาน หรือผู้ที่สนใจร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นักเรียนยากจนหรือจัดกิจกรรมเพื่อสังคมสามารถติดต่อมูลนิธิ EDF ได้ที่โทรศัพท์ (02) 579 9209-11 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น.) อีเมล This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ทาง Line: @edfthai เว็บไซต์ www.edfthai.org สำหรับการบริจาคทางออนไลน์ หรือเฟสบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/edfthai ทั้งนี้การบริจาคหรือทำกิจกรรมผ่านมูลนิธิสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย

Page 1 of 2
X

Right Click

No right click