February 07, 2025

แอปฯ “Krungthai NEXT” และ “เป๋าตัง” เปิดประสบการณ์การทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ในประเทศไทย จัดแคมเปญ “ล่าคอยน์ สอยรางวัล” ทำธุรกรรมผ่านแอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง รับ “วายุคอยน์” สะสมเพื่อแลกรับรางวัล หรือใช้เปลี่ยนเป็นสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท หวังกระตุ้นการใช้งานและเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานใหม่ หนุนการทำธุรกรรมออนไลน์ที่ปลอดภัยแค่ปลายนิ้ว ยกระดับการทำธุรกรรมออนไลน์ให้ "ง่ายและคุ้มค่า" ยิ่งขึ้น ตอบโจทย์การเงินดิจิทัลในยุคปัจจุบัน พร้อมเผย 5 ธุรกรรมยอดฮิตจากผู้ใช้งานแอปฯ “เป๋าตัง” และ “Krungthai NEXT” รวมกันกว่า 40 ล้านราย โดยทั้งสองแอปฯ ไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการทำธุรกรรมดิจิทัล แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสู่ “สังคมไร้เงินสด” ของประเทศ อีกด้วย

แอปฯ “Krungthai NEXT” และ “เป๋าตัง” โดยธนาคารกรุงไทย (KTB) มีฟีเจอร์รองรับธุรกรรมการเงินออนไลน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกรรมยอดฮิตที่มีการใช้งานสูงสุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่

1. โอนเงินและการชำระเงินระหว่างบุคคล ที่สามารถโอนเงินระหว่างบัญชีหรือไปยังบัญชีต่างธนาคารได้ทันที

2. ชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านแอปฯโดยการสแกนจ่าย ที่ทำได้ทั้งสะดวกและปลอดภัย

3. จ่ายบิลประจำเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และบิลอื่น ๆ ผ่านแอปฯ

4. เติมเงินหรือซื้อแพคเกจมือถือ ไม่ต้องเสียเวลาไปที่ตู้เติมเงิน ทำรายการได้ทันทีทุกเวลา

และ 5. การตรวจเครดิตบูโร ให้ทุกคนสามารถเช็คข้อมูลเครดิตด้วยตนเองได้ผ่านทั้ง 2 แอปพลิเคชัน ได้รับผลภายใน 24 ชั่วโมง เลือกเช็คได้ทั้งแบบข้อมูลเครดิต และข้อมูลเครดิตพร้อมคะแนนเครดิต

 

เพื่อเสริมสร้างการรับรู้และสนับสนุนการใช้งานเทคโนโลยีการเงินที่ทันสมัยในทุกมิติล่าสุด แอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง ได้ออกแบบระบบที่มีการผสานการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือ CRM เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสะสมยอดการใช้งานจากทั้งสองแอปฯ ภายใต้แคมเปญ “ล่าคอยน์ สอยรางวัล” ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 เพียงทำรายการชำระค่าสินค้าและบริการ เช่น เติมเงินมือถือ จ่ายเงิน จ่ายบิล ชำระค่างวด เป็นต้น หรือร่วมกิจกรรม อาทิ ทำแบบทดสอบ Security Survey รวมทั้งสมัครบริการต่าง ๆ

ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง หรือซื้อประกันชีวิตหรือประกันภัยผ่านแอปฯ Krungthai NEXT เพื่อสะสมรับ “วายุคอยน์” สำหรับแลกรับรางวัล หรือใช้แลกสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท สะสมแลกหรือลุ้นง่ายแค่ปลายนิ้ว เพราะทุกการทำธุรกรรมจากทั้งสองแอปฯ วายุคอยน์ที่ได้จะถูกรวมอยู่ในที่เดียว ทำให้การใช้งานและการแลกรางวัลเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว ลดขั้นตอนที่ซับซ้อน ผู้ใช้งานจึงสามารถได้รับประสบการณ์ที่สะดวกสบายและคุ้มค่าที่สุดจากทุกการทำธุรกรรม อีกทั้งยังคุ้มค่า ปลอดภัย และตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สำหรับวิธีการใช้ “วายุคอยน์” ที่สะสมได้ ผู้ใช้งานทั้งแอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง สามารถเลือกแลกรับรางวัลได้ทันที โดยมีของรางวัล 3 หมวด ได้แก่ หมวดของรางวัลรับสินค้าฟรี จากพันธมิตรที่ร่วมรายการ เช่น Dairy Queen, Mister Donut, Auntie Anne’s, SF Cinema และ Whoscall และหมวดของรางวัลโค้ดและคูปองส่วนลด จากพันธมิตร อาทิ เต่าบิน, Grab Food, LINE Man, KOI, Starbucks, Lazada, Big C, บางจาก และ Gother หมวดคูปองส่วนลดใช้ได้ที่แอปฯ เป๋าตังเท่านั้น ได้แก่ คูปองส่วนลดเมื่อจ่ายบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ เติมมือถือ สแกน QR ร้านค้าธนาคารที่ร่วมรายการ รวมถึงคูปองส่วนลดเมื่อสแกนจ่ายที่ร้านสุกี้ตี๋น้อย Teenoi Express หรือ Teenoi BBQ, Bar B Q Plaza เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้ “วายุคอยน์” แลกสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลใหญ่ อาทิ ทริปไหว้พระฮ่องกง รถจักรยานยนต์ Honda WAVE 225i ทองคำ Samsung Galaxy Flip 6 (12/256GB) 5G iPhone16 Pro 128GB ตั๋วเครื่องบินไป-กลับญี่ปุ่น ฯลฯ

 

แคมเปญ "ล่าคอยน์ สอยรางวัล" มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้งานและเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานใหม่ พร้อมผลักดันการทำธุรกรรมออนไลน์ที่สะดวกและปลอดภัยให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะในยุคที่การเงินดิจิทัลกำลังเติบโตขึ้น การสร้างความมั่นใจในระบบและการเข้าถึงบริการทางการเงินที่เท่าเทียมและยุติธรรมจะช่วยขับเคลื่อนให้คนไทยก้าวเข้าสู่โลกของการเงินดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว

ล่า แลก ลุ้นคอยน์ได้เลยบนแอปฯ Krungthai NEXT และ เป๋าตัง พร้อมอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขแคมเปญได้แล้ววันนี้ ดาวน์โหลดแอปฯ Krungthai NEXT > https://krungthainext.onelink.me/pfZZ/tco2rni2 ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง > https://paotang.onelink.me/UDQF/c5parkg8 เพื่อเริ่มต้นการทำธุรกรรมดิจิทัลที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมสะสมคอยน์ แลกรางวัลหรือลุ้นรับรางวัลมากมายที่รออยู่!

รายละเอียดและเงื่อนไขแคมเปญ “ล่าคอยน์ สอยรางวัล”: https://krungthai.com/link/coinmaster2025

เคทีซีตอกย้ำจุดยืนความปลอดภัยของสมาชิกเป็นสำคัญ พร้อมพัฒนาระบบป้องกันภัยทุจริต อย่างต่อเนื่องและติดตามข้อมูลการใช้จ่ายหากผิดปกติแจ้งสมาชิกทันทีเพื่อป้องกันมิจฉาชีพบนออนไลน์ พร้อมแนะนำ 6 ข้อต้องรู้ก่อนทำธุรกรรม

นายไรวินทร์ วรวงษ์สถิตย์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานควบคุมงานปฏิบัติการและปฏิบัติการร้านค้า “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลโกงมิจฉาชีพที่หลอกดูดเงินได้ปรับเปลี่ยนวิธีการตลอด มีทั้งการหลอกให้โอนเงินหรือสวมสิทธิ์ในแอปพลิเคชันเพื่อหลอกดูดเงินจากบัตรเครดิตทำให้ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อโดยไม่ทันระวัง ถึงแม้เทคโนโลยีการเงินในปัจจุบันจะพัฒนาระบบให้สอดรับกับผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการทำธุรกรรม

“ลักษณะมิจฉาชีพที่ติดต่อเข้ามามีหลายช่องทาง ทั้งสร้างเรื่องให้มีความกลัว เช่นหลอกว่าเราได้รับของผิดกฎหมายหรือของค้างอยู่ที่กรมศุลกากร ถ้ามีลักษณะที่ต้องสงสัยว่าเราไปทำอะไรผิดมา แต่ไม่ได้ทำก็อย่าหลงเชื่อ หรือ การหลอกโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันที่เราใช้อยู่ ต้องมีการใส่รหัสผ่านที่ใช้เพียงครั้งเดียว หรือ OTP (One Time Password) ถ้าเราไม่ทันระวังให้รหัสไป มิจฉาชีพก็จะนำไปใช้ได้” นายไรวินทร์กล่าว

เคทีซีในฐานะผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่ดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมได้ศึกษาและพัฒนาระบบบริหารการป้องกันภัยทุจริตให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าเป็นสำคัญและมีทีมงานที่ดูแลตรวจสอบการใช้จ่ายของสมาชิกเมื่อพบสิ่งผิดปกติ จะรีบติดต่อสมาชิกผู้ถือบัตรทันทีเพื่อป้องกันมิจฉาชีพได้อย่างทันท่วงที พร้อมแนะนำ 6 วิธีป้องกันภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ ดังนี้

1. ตั้งสติและอย่าหลงเชื่อข้อมูลตามที่มิจฉาชีพแจ้ง

2. ไม่กดลิงค์ต่างๆ ที่ได้รับโดยไม่รู้จักแหล่งที่มา

3. กำหนดรหัสผ่าน (Password) ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการเงินให้มีความหลากหลาย อย่าใช้รหัสซ้ำเพื่อป้องกันการคาดเดาและนำไปใช้ต่อจากผู้ไม่หวังดี

4. ไม่แจ้งรหัสผ่าน และ OTP ให้ผู้อื่นทราบอย่างเด็ดขาด และ ต้องอ่านข้อความให้ชัดเจนทุกครั้งเมื่อได้รับ OTP เช่น การระบุชื่อร้านค้าต้องถูกต้อง รายละเอียดสินค้าต้องตรงกับที่สมาชิกซื้อ เพื่อการกรอกข้อมูลที่ถูกต้อง

5. หากพบข้อสงสัยว่าจะถูกมิจฉาชีพหลอกข้อมูล ควรโทรศัพท์หรือติดต่อสอบถามหน่วยงานที่ถูกอ้างอิง

6. โหลดแอปพลิเคชันที่ช่วยระบุหมายเลขที่ไม่รู้จัก เช่น Whoscall เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ

หากพบข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KTC PHONE โทรศัพท์ 02 123 5000 หรือ https://www.ktc.co.th สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีสามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ลิงค์ https://ktc.today/apply-card หรือติดต่อศูนย์บริการสมาชิก “เคทีซี ทัช” ทุกสาขาทั่วประเทศ 

ไม่ว่าเมื่อไร ‘กันไว้ดีกว่าแก้’ ยังเป็นคำสอนที่คลาสสิคเสมอ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ ยิ่งสมัยนี้ มิจฉาชีพแฝงตัวมากับสารพัดวิธีหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ เราควรจะป้องกันอย่างไร ให้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกัน

· ไม่กดลิงค์ จาก SMS, Email หรือ Line ที่น่าสงสัย – สถาบันการเงินส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายส่ง SMS, Email หรือ Line ไปหาลูกค้าเพื่อขอข้อมูลส่วนบุคคล หรือให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ ถ้ามีข้อความ SMS อีเมล์ หรือไลน์ แปลก ๆ แอบอ้างชื่อหน่วยงานต่างๆ ส่งมาแจ้งให้กดลิงก์ กรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้โอนเงินค่าธรรมเนียมใดๆ ให้ตั้งสติ คิดอย่างรอบคอบ ตรวจสอบแหล่งที่มาว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ หากไม่แน่ใจ -ไม่กด-ไม่กรอก-ไม่โอน ปลอดภัยกว่า

· เช็คก่อน ชัวร์กว่า – ถ้ามีบุคคลที่ไม่รู้จักติดต่อมาหา แอบอ้างว่ามาจากหน่วยงานใดก็ตาม ให้สอบถามข้อมูลของผู้ที่ติดต่อ เช่น ชื่อ-นามสกุล หน่วยงาน สาเหตุที่ติดต่อมา จากนั้นให้ขอวางสายก่อน แล้วจึงติดต่อกลับไปยังหน่วยงานที่ถูกกล่าวอ้างเพื่อตรวจสอบ หากไม่แน่ใจ อย่าหลงเชื่อและทำตามคำขอใด ๆ ก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริง

· ไม่แชร์ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน – อย่าแชร์ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงินของตนเองกับใคร เช่น ภาพบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เลขที่บัญชี หมายเลขบัตรเครดิต รหัส CVV เพราะเป็นข้อมูลที่มิจฉาชีพอาจนำไปใช้ได้ ควรหลีกเลี่ยงการโพสต์ข้อมูลเหล่านี้ใน Social Media และไม่กรอกข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์, Line หรือช่องทางออนไลน์ที่ไม่แน่ใจที่มา

· ตั้งรหัสผ่านเข้าใช้งานที่เดาได้ยาก – ควรตั้งรหัสผ่าน / รหัส PIN ที่เดาได้ยาก ในการทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ และห้ามใช้รหัสซ้ำกันทุกแอป ที่สำคัญ ต้องรักษารหัสผ่านเป็นความลับ ไม่แชร์รหัสกับผู้อื่น และควรเปลี่ยนรหัสทุก 3 เดือน

· OTP ใช้แค่ ‘Only Me’ - เมื่อได้รับรหัส OTP ให้ตรวจสอบทุกครั้งว่าเป็น OTP ที่ใช้ทำอะไร และห้ามบอกรหัสนี้ไม่ว่ากับใคร เพราะอาจเปิดช่องให้เข้าถึงสมาร์ทโฟนของเราได้จากระยะไกล (Remote Access)

· เลือกเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่เชื่อถือได้ ในการใช้จ่ายออนไลน์ – ควรเลือกเว็บไซต์/ร้านค้า/แอปที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยในการรับชำระเงินผ่านบริการอย่าง Verified By Visa หรือ MasterCard ID Check ที่ใช้รหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียวหรือ OTP จากผู้ให้บริการบัตรเครดิต เป็นการยืนยันตัวตนในการทำรายการออนไลน์ทุกครั้ง

· จำกัดวงเงินในการใช้ทำธุรกรรมออนไลน์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน - ปัจจุบัน สถาบันการเงินหลายแห่ง มีบริการให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งวงเงินในการทำธุรกรรมให้เหมาะสมกับความต้องการได้ เพื่อความอุ่นใจ ผู้ใช้สามารถตั้งวงเงินในการทำธุรกรรมออนไลน์เท่าที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง

· เปิดรับการแจ้งเตือนรายการใช้จ่ายไว้ ปลอดภัยกว่า – ควรตั้งค่าเปิดรับการแจ้งเตือน (Notification) บน Mobile Application หรือ Banking Application ต่าง ๆ เพื่อให้ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อทำธุรกรรม และคอยตรวจสอบ การแจ้งเตือนอย่างสม่ำเสมอ หากพบรายการที่ผิดปกติ ให้รีบติดต่อสถาบันการเงินผู้ให้บริการทันทีเพื่อตรวจสอบ

· อัปเดตหมายเลขติดต่อให้เป็นปัจจุบัน - หากมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ควรรีบแจ้งสถาบันการเงินผู้ให้บริการ กรณีที่สถาบันการเงินผู้ให้บริการ ตรวจพบรายการใช้จ่ายที่ผิดปกติ จะได้สามารถติดต่อเราได้ทันท่วงที

X

Right Click

No right click