December 05, 2025

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดงาน Thailand E-Commerce Expo 2025 งานอีคอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดของไทย จัดระหว่างวันที่ 15–16 สิงหาคม 2568 ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ไอคอนสยาม เพื่อเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในยุคดิจิทัล เชื่อมโยงความรู้ เทคโนโลยี และเครื่องมือใหม่ๆ พบอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังกว่า 50 ชีวิต พร้อม 50 แพลตฟอร์มชั้นนำ และไฮไลท์การมอบรางวัล Thailand e-Commerce Genius 2025 เพื่อเชิดชูผู้ประกอบการ อีคอมเมิร์ซรุ่นใหม่ที่เติบโตจากการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ คาดสร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 200 ล้านบาท
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน Thailand E-Commerce Expo 2025 ณ ทรูไอคอนฮอลล์ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ว่า ในวันนี้ (15 สิงหาคม 2568) กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจัดงานดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 15–16 สิงหาคม 2568 เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยในยุคดิจิทัลให้สามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์อย่างยั่งยืน เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า และขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจรายย่อยทั่วประเทศ
รมว.พณ. กล่าวเพิ่มเติมว่า “งานนี้ถือเป็นงาน E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ จัดต่อเนื่องขึ้นเป็นปีที่ 6 โดยปีนี้จะเน้นการเชื่อมต่อองค์ความรู้ด้านการค้าออนไลน์ เทคโนโลยี และเครื่องมือดิจิทัล ผ่านเวทีสัมมนาและกิจกรรมเชิงปฏิบัติการจากอินฟลูเอนเซอร์และ Creator ชื่อดังกว่า 50 ราย รวมถึงแพลตฟอร์มด้านอีคอมเมิร์ซชั้นนำกว่า 50 ราย ที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ตรง แชร์เทคนิคสร้างยอดขายผ่านตลาดออนไลน์ แนะนำการใช้ AI และเครื่องมือใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ ตลอดจนเปิดพื้นที่ทดลองใช้งานจริงจากแพลตฟอร์มชั้นนำ อาทิ Shopee, Lazada, TikTok Shop, LINE, Meta และอีกมากมาย

 

ภายในงานประกอบไปด้วย 6 กิจกรรมได้แก่ 1) Guru Talk เวทีถ่ายทอดความรู้จากอินฟลูเอนเซอร์และ Content Creator ชั้นนำกว่า 50 ราย ที่จะเล่าถึงวิธีการสร้างแบรนด์ สร้างไวรัลคอนเทนต์ การใช้ AI เสริมยอดขาย และการทำ Affiliate Marketing อาทิ โอม ค็อกเทล (นักร้องและนักธุรกิจชื่อดัง) ซีเค เจิง (เจ้าของแพลตฟอร์ม Fastwork), หยกทอง แม่ค้าออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ, ทีม The Driver (โอ๊ต ปราโมทย์/พิชญ์ กาไชย/พลอย หอวัง) เจ้าของรายการที่สร้างคอนเทนต์ได้น่าสนใจ, นัทนิสา (จากอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังจนกลายเป็นเจ้าของแบรนด์ Lip It), iHaveCPU (จากแบรนด์เล็กๆ สู่ยอดขายร้อยล้าน), จือปาก (อินฟลูเอนเซอร์ที่ครองใจชาวเน็ตสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ) , RAD Cosmetics (พิม พิมประภา นักแสดงและเจ้าของแบรนด์ ที่มียอดขายอันดับ 1 ใน Tiktok), ฝ้าย ใช้เท้าแต่งหน้า (บิวตี้ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามกว่า 6 ล้านราย) และแบงค์กิ (อินฟลูเอนเซอร์ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เปลี่ยนอาหารให้เป็นรายได้ จนมีผู้ติดตามกว่า 9 ล้านคน) 2) Pain-Point Fixer โซนที่รวมแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไทยกว่า 50 แห่ง อาทิ Lazada, Meta, NocNoc, NextGenCommerce, Shopee และ TikTok Shop พร้อมโซลูชันแก้ปัญหาเฉพาะทาง ทั้งเรื่องโลจิสติกส์ การวิเคราะห์ข้อมูล การปิดการขาย และการชำระเงิน
3) Business Consult โซนให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซกว่า 20 ราย ครอบคลุมทุกขั้นตอนการทำตลาดออนไลน์ 4) Review and Reward โซนจัดแสดงสินค้าออนไลน์แบรนด์ไทยจากผู้ประกอบการที่ผ่านหลักสูตร Online Marketing Genius รุ่นที่ 5 พร้อมโค้ดส่วนลดและโอกาสเข้าร่วม Affiliate กับครีเอเตอร์ 5) E-Commerce Lab พื้นที่ทดลองและ Workshop การขายออนไลน์จริง เสริมสร้างทักษะผู้ประกอบการผ่านการจำลองสถานการณ์ และ6) DBD Online Mega Sale โปรโมชันพิเศษบน Shopee ผ่านหน้าแลนดิ้งเพจ “สุขใจซื้อของไทย” พร้อมคูปองส่วนลดภายใต้โค้ด “DBD50” รวมมูลค่ากว่า 205,000 บาท ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้

 

ประกอบการเข้าร่วมงานทั้งออฟไลน์และออนไลน์รวมกว่า 10,000 ราย สร้างมูลค่าการค้ากว่า 200 ล้านบาท โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยจะได้รับแรงบันดาลใจในการขยายตลาดและพัฒนาธุรกิจออนไลน์ พร้อมทั้งได้เชื่อมโยงกับพันธมิตรใหม่ๆ และเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
ในวันนี้ยังมีกิจกรรมไฮไลท์อีกหนึ่งกิจกรรมคือ การมอบรางวัล Thailand e-Commerce Genius 2025 ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากโครงการ Online Marketing Genius รุ่นที่ 5 (OMG#5) หลักสูตรเข้มข้นที่จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 โดยผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี AI การทำคลิปวิดีโอ การปักตะกร้า และกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ก่อนจะผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มข้น จนได้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม One-on-One Coaching ระยะเวลา 1 เดือนเต็มกับผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง จำนวน 50 ราย และคัดเหลือ 10 รายสุดท้าย สู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้
การมอบรางวัลในวันนี้ประกอบไปด้วย 3 ประเภทรางวัลคือ 1) รางวัลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มูลค่ารวม 100,000 บาท พร้อมโล่ ใบประกาศนียบัตร และรางวัลสนับสนุนจากหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ AIS, Flash Express, LINE และ Shopee มูลค่ารวม 579,476 บาท โดยแบ่งเป็น รางวัลชนะเลิศ คือ คุณอิทธิกร เทพมณี แบรนด์ JAIKLA ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท โล่ พร้อมประกาศนียบัตร สิทธิพิเศษจาก Flash Express แพคเกจส่งเสริมธุรกิจ (ส่งสินค้าในราคาพิเศษ) กับช่องทางประชาสัมพันธ์ธุรกิจผ่าน Flash Express และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็นหนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 749 บาท จำนวน 6 เดือน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ คุณซูลกิฟลี มะเต๊ะ แบรนด์ Hobee ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท โล่ พร้อมใบประกาศนียบัตร และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็นหนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 499 บาท จำนวน 6 เดือน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ คุณอนุวัช อินปลัด แบรนด์ไทยทิชชู ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท โล่ พร้อมใบประกาศนียบัตร และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็น

 

หนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 499 บาท จำนวน 6 เดือน และรางวัลชมเชย คือ คุณดวงสมร ผุดผ่อง แบรนด์ Fur a Friend ได้รับโล่ พร้อมใบประกาศนียบัตร และสิทธิพิเศษจาก AIS ซิมเป็นหนึ่งพร้อมแพกเกจมูลค่า 499 บาท จำนวน 6 เดือน
2) รางวัลพิเศษจาก LINE ร่วมสนับสนุนให้เป็น Success Case ซึ่งจะได้รับการโปรโมทผ่านช่องทางของ LINE พร้อมของที่ระลึกผ้าห่มลิขสิทธิ์ LINE Friends จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ คุณดวงสมร ผุดผ่อง แบรนด์ Fur a Friend, คุณณัฐพร กิตติพงษ์ถาวร แบรนด์ Mami Cover และคุณจิณณ์ณณัช ธนะพิทักษ์ แบรนด์ Grase และ 3) รางวัล Shopee Awards for Thailand E-commerce Genius จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ คุณอิทธิกร เทพมณี แบรนด์ JAIKLA ได้รับพื้นที่ในการโปรโมทร้านค้าบนแลนดิ้งเพจ “สุขใจซื้อของไทย” ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2568 พร้อม Shopee Voucher มูลค่า 3,000 บาท, คุณธนวชร หนูแสง แบรนด์ Muscle Chef ได้รับ Shopee Voucher มูลค่า 2,000 บาท และคุณดวงสมร ผุดผ่อง แบรนด์ Fur a Friend ได้รับ Shopee Voucher มูลค่า 1,000 บาท
รมว.พณ. กล่าวปิดท้ายว่า “โอกาสนี้ผมขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และเป็นกำลังใจกับผู้ประกอบการไทย ขอให้มีพลังสร้างสรรค์ธุรกิจสู่อนาคต และภูมิใจในตัวเองว่าท่านคือแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยประกอบกับขอให้ความสำคัญกับการค้าออนไลน์ที่จะไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่คือโอกาสในการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้ผลักดันและเสริมปัจจัยต่างๆ ให้ผู้ประกอบการมีความรู้ที่ทันสมัย และมีเครื่องมือทางการตลาดที่ดี โดยงานนี้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพสูงมาก พร้อมที่จะพัฒนาไปสู่แบรนด์ระดับประเทศ และเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดโลก”

กรมการค้าภายใน จับมือตลาดสดและตลาดกลาง 60 ตลาด 18 จังหวัด จัดกิจกรรม “พาณิชย์สืบสานเทศกาลตรุษจีน” นำสินค้าไหว้เจ้าจำหน่ายราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนเชื้อสายจีน เผยสินค้าไฮไลต์อย่างไก่สด ไก่ต้มสุก ราคาทรงตัวเท่ากับปีก่อน

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเปิดกิจกรรม “การเชื่อมโยงการจำหน่ายสินค้า และกระตุ้นการบริโภคในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2568” ภายใต้ชื่อ “พาณิชย์สืบสานเทศกาลตรุษจีน” ที่ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหารสมาคมตลาดสดไทย และสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย เข้าร่วม ว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ กรมได้ร่วมมือกับตลาดสด และตลาดกลางที่อยู่ในความส่งเสริม จัดกิจกรรมลดราคาจำหน่ายสินค้าตรุษจีน โดยการจัดโปรโมชันชุดไหว้เจ้า และเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าไหว้เจ้าในราคาพิเศษ อาทิ ไก่สด ไก่ต้ม ผลไม้มงคล และขนมต่าง ๆ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนเชื้อสายจีน

สำหรับตลาดสดและตลาดกลางที่เข้าร่วมกิจกรรม “พาณิชย์สืบสานเทศกาลตรุษจีน” ปี 68 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 60 ตลาด 18 จังหวัด ประกอบด้วย ตลาดสด อาทิ ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต มีนบุรี ยิ่งเจริญ ถนอมมิตร กรุงเทพมหานคร (กทม.) และตลาดบางใหญ่ เยสบางพลี ใหม่สำโรง ในพื้นที่ปริมณฑล ส่วนตลาดกลาง อาทิ ตลาดไท สี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี ตลาดล้านเมือง จ.เชียงราย และตลาดเทิดไท จ.พิษณุโลก

นายวิทยากร กล่าวว่า กรมได้ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายสินค้า ณ ร้านค้าภายในตลาดเวิลด์มาร์เก็ต พบว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักกว่าปีก่อน มีพ่อค้าแม่ค้า นำสินค้าที่เกี่ยวกับตรุษจีน มาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก และประชาชนให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้า โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างไก่สด ราคาอยู่ที่ 80-85 บ./กิโลกรัม (กก.) และไก่ต้มสุก ราคาอยู่ที่ 125-130 บ./กก. ส่วนใหญ่ราคาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ไม่มีการปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ค้าอยากขายเพื่อสร้างรายได้

“ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ สินค้าในช่วงตรุษจีนปีนี้ มีเพียงพอ ไม่ขาด และไม่แพง ซึ่งกรมจะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ให้ความสำคัญและเน้นย้ำไว้ และขอขอบคุณตลาด และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ร่วมมือกันจำหน่ายสินค้า เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมเฉลิมฉลอง ร่วมสร้างบรรยากาศแห่งความสุข เพิ่มความเป็นสิริมงคลในเทศกาลตรุษจีน และขอส่งคำอวยพรขอให้ปี 2568 นี้ เป็นปีที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และความมั่งคั่งตลอดปี” นายวิทยากรกล่าว

อย่างไรก็ตาม กรมจะติดตามดูแลสถานการณ์ราคาและปริมาณสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป จนกว่าจะจบเทศกาล  หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินความเหมาะสม สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569

กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ผนึกกำลัง 3 สถานีบริการน้ำมันรายใหญ่ “พีที พีทีที สเตชั่น และบางจาก” เข้ารับซื้อผลผลิตหอมแดง จ.ศรีสะเกษ กว่า 300 ตัน นำแจกเป็นของสมนาคุณให้กับผู้เติมน้ำมัน ในวันที่ 16-18 ก.พ.นี้ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 600 สาขา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และผลักดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น  กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เข้ารับซื้อผลผลิตหอมแดงจากพี่น้องเกษตรกร จ.ศรีสะเกษ ในปริมาณ 300 ตัน หรือ 400,000 แพค เพื่อนำมามอบเป็นของสมนาคุณให้กับผู้ใช้บริการ #เติมใจให้หอม ระหว่างวันที่ 16-18 ก.พ.2567 รวม 3 วัน หรือจนกว่าของจะหมด

ซึ่งกรมการค้าภายในได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับราคาสินค้าเกษตร และเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยได้จัดกิจกรรมร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดศรีสะเกษ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน เชื่อมโยงการรับซื้อผลผลิตพืช 3 หัว ผ่านกลไกเกษตรพันธสัญญาเป็นการล่วงหน้า ในราคานำตลาด ปริมาณรวม 30,175 ตัน ได้แก่ หอมแดง 14,475 ตัน หอมหัวใหญ่ 7,500 ตัน และกระเทียม 8,200 ตัน จากกลุ่มเกษตรกรทั้งหมด 21 กลุ่ม 4 จังหวัด 17 อำเภอ 32 ตำบล เพื่อกระจายไปยังโรงงานแปรรูป ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ห้างท้องถิ่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง รวมไปถึงรถโมบายพาณิชย์

การแจกของสมนาคุณ เติมใจให้หอม โดยคลอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) 600 สาขา จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเข้ามาเติมน้ำมัน “รับหอมแดง” คุณภาพดีฟรี 1 ถุง เมื่อเติมน้ำมันตามเงื่อนไข เพื่อช่วยเกษตรกรไทยกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด “ปัจจุบันผลผลิตหอมแดงของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ มีผลผลิตกว่าร้อยละ 50 ของประเทศ ทยอยออกสู่ตลาดหมดแล้ว ต่อไปจะเข้าสู่ฤดูกาลผลผลิตหอมแดงในพื้นที่ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน โดยกรมการค้าภายในมีแผนดำเนินการเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความมั่นใจได้ว่าจะมีตลาดรองรับผลผลิต และมีราคาดีขึ้นตลอดฤดูกาล ทั้งนี้ ผลจากการเข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ตั้งแต่เดือนช่วงเดือน ม.ค.2567 ซึ่งเป็นต้นฤดูกาลของผลผลิตส่งผลให้ราคาในภาพรวมปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง

โดยหอมแดงสดปีนี้ อยู่ที่ 13-15 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีก่อนที่ราคา 11 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 และหอมแดงแห้งปีนี้ อยู่ที่ 40-50 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีก่อนที่ราคา 30-50 บาท/กก. เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 แวะไป เติมใจให้หอม ได้ 3 สถานีบริการน้ำมันของ 3 ปั๊มใหญ่ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล 600สาขา หรือประชาชนท่านใดสนใจอุดหนุนช่วยเหลือเกษตรกรตรงจากจังหวัดศรีสะเกษได้ที่ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่หอมแดง อ.ราษีไศล และ อ.ยางชุมน้อย เบอร์ 097-3355983 หรือเพจเฟสบุ้ค ที่นี่หอมแดงราษี ยางชุม 061-1621498

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จับมือทูตพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูต ไนโรบี นำทัพนักธุรกิจจากแอฟริกาตะวันออก 5 ประเทศ มาเจรจาธุรกิจและดูงานด้านธุรกิจที่ไทย 19 ราย จาก 16 บริษัท นำผู้ผลิต ผู้ส่งออก SMEs 72 รายเข้าจับคู่เจรจา คาดตกลงซื้อขายไม่ต่ำกว่า 40 ล้าน พร้อมนำดูงาน โรงพยาบาลกรุงเทพธนบุรี  SCG   ดาวบิน และมูลนิธิชัยพัฒนา มั่นใจเพิ่มโอกาสทำธุรกิจระหว่างกันได้เพิ่มขึ้น  

รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ แนะตรวจเช็คความบริสุทธิ์ทองคำ หลังเจอกระแส “ทองคำปลอม” ระบาด ทั้งทองคำแท่งและ ทองรูปพรรณ “ย้ำ” อย่า “ตื่นตระหนก” แต่ต้อง “เช็คให้มั่นใจก่อนซื้อ - ขาย”

X

Right Click

No right click