กรุงเทพฯ , ประเทศไทย – 18 มิถุนายน 2567 – แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล (Ant International) ผู้นำด้านการชำระเงินดิจิทัล และผู้ให้บริการเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำระดับโลก เปิดตัว bettr (“เบทเทอร์”) บริการสินเชื่อดิจิทัลระดับโลกที่เน้นให้สินเชื่อกับธุรกิจขนาดย่อย ขนาดย่อม และขนาดกลาง (MSMEs) ในตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ผ่านความร่วมมือทางการเงินแบบฝังตัว (Embedded Finance)

นาย Yang Peng, CEO, แอนท์ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า “ผมรู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้แนะนำ bettr ให้กับธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง (SMEs) และพันธมิตรต่าง ๆ ในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง การเปิดตัว bettr ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของแอนท์ อินเตอร์เนชันแนลในเส้นทางการเพิ่มโอกาสให้กับ SMEs ทั่วโลกด้วยนวัตกรรมโซลูชันฟินเทค ผ่านการร่วมมือแบบเปิดกับพันธมิตรในภูมิภาค พันธกิจของ bettr คือการทำให้การจัดหาเงินทุนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับธุรกิจขนาดย่อยและขนาดย่อม ซึ่งปัจจุบันถือเป็นกลุ่มที่ช่วยขับเคลื่อนการค้าระดับภูมิภาค และการค้าข้ามพรมแดน เรากำลังมุ่งมั่นขยายความร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ร่วมสำหรับระบบนิเวศทางการค้าในอนาคตที่ทั้งครอบคลุม และยั่งยืน”

บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) ประเมินว่า 65 ล้านบริษัท หรือ 40% ของจำนวน MSMEs ที่ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในประเทศกำลังพัฒนา มีความต้องการทางการเงินที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองคิดเป็นมูลค่ามากถึง 5.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปี bettr รับรู้ถึงความต้องการบริการด้านการเงินที่ครอบคลุม และเข้าถึงได้ที่มีอยู่ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงมุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างสำหรับการร่วมมือ เพื่อเพิ่มการเข้าถึง และความสะดวกในการสนับสนุนสินเชื่อ ด้วยการนำ AI การคำนวณแบบรักษาความเป็นส่วนตัว และนวัตกรรมดิจิทัลอื่น ๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อปิดช่องว่างทางการเงิน พร้อมเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้ MSMEs

นอกจากนี้ bettr ยังได้ประกาศความร่วมมือด้านการเงินแบบฝังตัวครั้งแรกกับบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไลฟ์สไตล์ครบวงจรชั้นนําของไทย และบริษัทในเครือทีซีซี กรุ๊ป (TCC Group) นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “AWC รู้สึกมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับแอนท์

อินเตอร์เนชันแนลเปิดตัว bettr การร่วมมือนี้จะทำให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตัวเองได้อย่างเต็มที่ โดยที่ bettr จะให้บริการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่สะดวก ไร้รอยต่อในระบบนิเวศธุรกิจขนาดย่อย และขนาดย่อมของ AWC ผ่านแพลตฟอร์ม และช่องทางต่าง ๆ ของ AWC ระยะแรกของการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการเปิดตัว “Phenix” (ฟีนิกซ์) แหล่งรวมสินค้าอาหารและสุดยอดความอร่อยใจกลางเมืองบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านประตูน้ำ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ความร่วมมือนี้คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ขาย ผู้ซื้อ และซัพพลายเออร์ของ AWC ที่ทำธุรกิจบน Phenix ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ และจะขยายความร่วมมือต่อเนื่องไปยังโครงการอื่นๆ ในอนาคต ”

นาย Yang Peng กล่าวเสริมว่า “ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจ SME กำลังเฟื่องฟู ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์สำหรับแอนท์ อินเตอร์เนชันแนล ตั้งแต่เริ่มต้นการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเราได้เรียนรู้จากการร่วมมือกับหลากหลายธุรกิจในประเทศ รวมถึงให้บริการธุรกิจท้องถิ่นจำนวนมากผ่านการชำระเงินดิจิทัลมาตลอดหลายปี ช่วยเชื่อมโยงธุรกิจเหล่านี้กับนักเดินทางทั่วโลก รวมถึงกลุ่มตลาดส่งออก ด้วย bettr เราจึงสามารถเพิ่มตัวเลือกสำหรับบริการทางการเงินได้ ด้วยการให้แหล่งเงินทุนที่เข้าถึงได้กับธุรกิจขนาดย่อม ส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน”

ครั้งแรกกับโครงการใหญ่ “Alipay+-in-China” (A+China) ที่ช่วยให้ผู้ใช้โมบายวอลเล็ท 10 แบรนด์ชั้นนำจากไทย มาเลเซีย มองโกเลีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า สามารถใช้อีวอลเล็ทของประเทศตนเองในจีนแผ่นดินใหญ่ได้แล้ว สร้างการเข้าถึงให้กับประชากรกว่า 175 ล้านคน  ถือเป็นการขยายอีโคซิสเต็มการชำระเงินผ่านมือถือ หรือโมบายเพย์เมนต์ระหว่างประเทศครั้งใหญ่ของ Alipay+ สู่เครือข่ายผู้ค้าจำนวนมากของจีน

โครงการ A+China เป็นความคิดริเริ่มของแอนท์กรุ๊ปที่จะช่วยแนะนำบริการชำระเงินผ่านมือถือระหว่างประเทศในจีน โดยร่วมมือกับพันธมิตรอีวอลเล็ท และองค์กรบัตรระหว่างประเทศ ก่อนที่จะมีการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจว

ภายใต้โครงการนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกที่จะผูกบัตรธนาคารระหว่างประเทศของตนกับ Alipay เวอร์ชั่นสากลที่อัปเดตแล้ว เพื่อเพลิดเพลินกับการชำระเงินผ่านมือถือและบริการดิจิทัลไลฟ์ขณะที่ท่องเที่ยวในประเทศจีน

  

การเพิ่มของอีวอลเล็ทดังกล่าวจะส่งผลให้จำนวนอีวอลเล็ทต่างประเทศที่ได้รับการยอมรับในจีนแผ่นดินใหญ่เพิ่มขึ้นเป็น 10 ราย โดย AlipayHK (เขตปกครองพิเศษฮ่องกงของจีน), Touch ’n Go eWallet (มาเลเซีย) และ Kakao Pay (เกาหลีใต้) เป็นบริการนำร่องภายใต้โครงการนี้ตั้งแต่ปลายปี 2565 โดยรวมแล้ววิธีการชำระเงินเหล่านี้สามารถเข้าถึงประชากรกว่า 175 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก

ผู้ใช้อีวอลเล็ทเหล่านี้สามารถใช้แอปชำระเงินของตนเองได้ทุกที่ที่มีการให้บริการของ Alipay เพื่อเพลิดเพลินกับการชำระเงินแบบไร้เงินสดที่ราบรื่นและปลอดภัย รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนที่โปร่งใสและแข่งขันได้ นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิประโยชน์มากมายจากโปรโมชั่นต่างๆ ผ่าน Alipay+ Rewards ซึ่งเป็นฮับการตลาดดิจิทัลระหว่างประเทศที่อยู่ในวอลเล็ท โดยทีมงานของวอลเล็ทต่างๆ ยังคงให้บริการสนับสนุนลูกค้าที่ใช้โรมมิ่ง โดยอาศัยความสามารถด้านเทคโนโลยีการชำระเงินแบบอัจฉริยะของ Alipay+

ภายใต้โครงการ A+China ทาง Alipay+ ยังได้ต้อนรับพันธมิตรการชำระเงินผ่านมือถือรายใหม่อย่างเป็นทางการอีก 5 ราย ซึ่งได้แก่ Hipay, Changi Pay, OCBC, Naver Pay และ Toss Pay เข้าสู่เครือข่ายผู้ค้าทั่วโลกของ Alipay+

Alipay+ ซึ่งเป็นชุดโซลูชั่นการชำระเงินผ่านมือถือระหว่างประเทศ รวมถึงโซลูชั่นการตลาดและดิจิทัลที่พัฒนาโดยกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศของแอนท์กรุ๊ป ช่วยให้พันธมิตรด้านการชำระเงินสามารถเชื่อมผู้ค้าทั่วโลกและผู้ค้าในระดับท้องถิ่นเข้ากับผู้บริโภคดิจิทัลจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

นอกจากประเทศจีน Alipay+ ยังเข้าถึงผู้ค้า 5 ล้านรายใน 56 ตลาด และทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านการชำระเงินผ่านมือถือกว่า 20 รายทั่วเอเชีย ซึ่งรวมกันแล้วสามารถให้บริการกับผู้บริโภคได้มากกว่า 1.4 พันล้านบัญชี ตอนนี้โครงการ A+China ได้ขยายบริการ Alipay+ เข้าสู่เครือข่ายผู้ค้าขนาดใหญ่ของจีนที่มีจุดขายสินค้าและบริการ (POS) หลายสิบล้านแห่ง

โครงการ A+China จัดตั้งขึ้นภายใต้การแนะนำของธนาคารประชาชนจีน และได้รับการสนับสนุนจาก NetsUnion Clearing Corporation รวมถึงพันธมิตรด้านอีวอลเล็ท องค์กรบัตรระหว่างประเทศ ตลอดจนสถาบันการเงินอื่นๆ ในจีน นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกที่จะผูกบัตรธนาคารระหว่างประเทศของตนกับ Alipay เวอร์ชั่นสากลที่อัปเดตแล้ว เพื่อเพลิดเพลินกับการชำระเงินผ่านมือถือและบริการดิจิทัลไลฟ์ขณะที่พำนักอยู่ในประเทศจีน

พร้อมกันนี้ แอนท์กรุ๊ปยังได้เปิดตัวแคมเปญด้านการตลาดและให้ความรู้แก่ผู้ค้าทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ เพื่อต้อนรับเหล่านักกีฬา แฟนๆ และนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย

ดักลาส ฟีกิน รองประธานอาวุโสของแอนท์กรุ๊ป และหัวหน้าฝ่ายบริการการชำระเงินผ่านมือถือระหว่างประเทศของ Alipay+ กล่าวว่า การขยายจำนวนพันธมิตรและเครือข่ายร้านค้า และการยกระดับขีดความสามารถการดำเนินงานด้านดิจิทัลของเอสเอ็มอี ถือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับกลยุทธ์ในอนาคตของ Alipay+ “ผู้ให้บริการชำระเงินผ่านมือถือจำนวนมากเข้าร่วมอีโคซิสเต็มของการค้าดิจิทัลระหว่างประเทศมากขึ้น ตั้งแต่โมบายวอลเล็ท ไปจนถึงแอปธนาคาร แอปของผู้ค้าอิสระ และซูเปอร์แอป เรามีแผนที่จะลงทุนเจาะลึกให้รวดเร็วมากขึ้นสำหรับเทคโนโลยีการชำระเงินและดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เพื่อช่วยให้พันธมิตรและผู้ค้าของเราเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกช่องทาง” ฟีกินกล่าว

ในฐานะสถาบันผู้ให้บริการเคลียร์ริ่งที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารประชาชนจีน NetsUnion Clearing Corporation ให้บริการแลกเปลี่ยนข้อมูลการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพและบริการหักบัญชีกองทุนสำหรับการชำระเงินมือถือระหว่างประเทศของแอนท์กรุ๊ป และดิจิทัลวอลเล็ทในต่างประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการชำระเงินผ่านมือถือระหว่างประเทศในเหตุการณ์ต่างๆที่สำคัญ เช่น หางโจวเอเชียนเกมส์ เพื่อช่วยบ่มเพาะการบริโภคระหว่างประเทศที่เปิดกว้างและครอบคลุมในประเทศจีน รวมถึงส่งเสริมการหมุนเวียนคุณภาพสูงของวัฏจักรเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ NetsUnion Clearing Corporation of China กล่าว

เอริก จิง ประธานและซีอีโอของแอนท์กรุ๊ป กล่าวว่า “ในฐานะพันธมิตรด้านการชำระเงินอย่างเป็นทางการของเอเชียนเกมส์ เรารู้สึกขอบคุณอย่างมากสำหรับคำแนะนำของธนาคารประชาชนจีน การสนับสนุนของ NetsUnion Clearing Corporation และความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินและองค์กรบัตรระหว่างประเทศรายใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้เราสามารถดึงดูดผู้ใช้โมบายวอลเล็ททั่วโลกและผู้ใช้บัตรธนาคารในต่างประเทศมายังจีน นับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจอย่างดีเยี่ยมที่เราได้เห็นความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ในระดับภูมิภาค เพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับทางเลือกและความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจขนาดเล็กก็ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศด้วยนวัตกรรมที่แปลกใหม่ เรามุ่งหวังที่จะสร้างความร่วมมือที่กว้างและเจาะลึกมากขึ้น เพื่อสานต่อภารกิจร่วมกันของเราในการทำให้โลกน่าอยู่มากขึ้นโดยอาศัยพลังของเทคโนโลยีดิจิทัล”

จำนวนธุรกรรมการชำระเงินทั้งหมดในประเทศจีนผ่านวอลเล็ทนำร่องของ A+China ซึ่งได้แก่ Kakao Pay, Touch ’n Go eWallet และ AlipayHK เพิ่มขึ้น 47 เท่าในช่วงหกเดือน ระหว่างเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2566 ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้นเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ มาเลเซีย และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โดยอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจค้าปลีก และการคมนาคมขนส่งเป็นสามหมวดหมู่ที่มีการทำธุรกรรมเหล่านี้มากที่สุด

จากข้อมูลของ PricewaterhouseCoopers1 ภายในปี 2573 จำนวนธุรกรรมไร้เงินสดจะเพิ่มขึ้นประมาณสองเท่าหรือสามเท่า ขณะที่จีนเป็นผู้นำในภูมิภาคสำหรับการใช้ดิจิทัลวอลเล็ท ส่วนพื้นที่อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้กลายเป็นตลาดการชำระเงินผ่านมือถือที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ผลการศึกษาของ FIS2 ชี้ว่า ระหว่างปี 2561 ถึง 2566 ดิจิทัลวอลเล็ทในภูมิภาคนี้ (ไม่รวมจีน) มีส่วนแบ่งมูลค่าธุรกรรมอี-คอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า และส่วนแบ่งมูลค่าธุรกรรมการชำระเงิน ณ จุดขายเพิ่มขึ้นหกเท่า

แอนท์กรุ๊ป (Ant Group) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance - ESG) โดยเป็นส่วนหนึ่งของรายงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนฉบับล่าสุดของบริษัทฯ กลยุทธ์ ESG ซึ่งกำหนดเป้าหมายด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนของแอนท์กรุ๊ปภายในปี 2573 จะถูกนำไปปรับใช้กับทุกแง่มุมการดำเนินงานของบริษัทฯ 

X

Right Click

No right click