November 21, 2024

ครั้งแรก! “อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์” จับมือ “Scope 3” ล่อยโปรเจ็คต์โฆษณาดิจิทัลยั่งยืน ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนถึง 25%

May 13, 2024 327

อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแบรนด์ฮิตาชิทั่วโลก (ภายนอกตลาดญี่ปุ่น) ตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนที่เกิดจากแคมเปญโฆษณาดิจิทัลที่ร้อยละ 25 ตลอดระยะเวลา 6 เดือน โดยจับมือกับ Scope3 แพลตฟอร์มความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่เป็นผู้นำด้านการลดก๊าซเรือนกระจกในวงการสื่อและโฆษณา เพื่อส่งโปรเจ็คต์ทดลองหรือ Optimization Test Case ซึ่งจะใช้เวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 ใน 4 ตลาดหลักของอาร์เซลิก ฮิตาชิ อย่างประเทศไทย เวียดนาม ฮ่องกง และสิงคโปร์

Scope 3 ทำงานร่วมกับ H+ เอเจนซี่ของอาร์เซลิก ฮิตาชิ โดยใช้ดาต้าโมเดลเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่าง Green Media Products (GMP+) เพื่อวิเคราะห์และหลีกเลี่ยงตำแหน่งการจัดวางโฆษณาที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง บล็อค MFA (Made for Advertising) และตำแหน่งการจัดวางโฆษณา (ad placement) ที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยกระบวนการ optimization จะเกิดขึ้นหลังจากโปรเจ็คต์ดำเนินไปได้ครึ่งทาง เพื่อเปรียบเทียบปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลลัพธ์ของแคมเปญก่อนและหลังกระบวนการ optimization

 

เมลิส อาร์ดินซ์ (Melis Erdinç) หัวหน้าฝ่ายการตลาดดิจิทัล (Global Head of Digital Marketing) บริษัทอาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ กล่าวว่า การผสานความร่วมมือกับ Scope3 เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากกิจกรรมโฆษณาดิจิทัล ถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนขององค์กร “เนื่องจากบริษัทแม่ของเราอย่างอาร์เซลิก ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 100 องค์กรที่ยั่งยืนที่สุดในโลกแห่งปี 2023 (2023 Global 100 Most Sustainable Corporations in the World) โดยองค์กรด้านการวิจัยในแคนาดาอย่าง Corporate Knights อาร์เซลิก ฮิตาชิจึงดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดยั่งยืน รวมถึงมุ่งเฟ้นหาแนวทางใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 อยู่เสมอ ตอนที่ Scope3 ขยายกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่ 2023 เราจึงคว้าโอกาสนี้อย่างกระตือรือร้น ความร่วมมือระหว่างอาร์เซลิก ฮิตาชิ และ Scope3 ครั้งนี้จะเป็นประตูบานแรกสู่การทำโฆษณาดิจิทัลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่าที่ผ่านมา เรารู้สึกตื่นเต้นและยินดีที่จะตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมการตลาดดิจิทัลที่ร้อยละ 25 ภายในสิ้นปีพ.ศ. 2567 และเรารู้สึกภูมิใจที่ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมขององค์กร” เมลิส อาร์ดินซ์ กล่าวเสริม

 

เบน พูลล์ (Ben Poole) ไดเรคเตอร์ เอเจนซี่ H+ กล่าวว่า “เรามีความตื่นเต้นและยินดีที่จะได้ร่วมผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในตลาดผ่านความร่วมมือในครั้งนี้ เพราะสื่อโฆษณาที่ยั่งยืนหมายถึงสื่อโฆษณาที่คุณภาพดีขึ้นและมอบผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นพัฒนาแคมเปญลดก๊าซเรือนกระจกร่วมกับ Scope3, อาร์เซลิก ฮิตาชิ และอีกหลากหลายแบรนด์ในภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง”

 

จูน จัง (June Cheung) หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น (Head of JAPAC) บริษัท Scope3 กล่าวว่า “ความตั้งใจของ Scope3 คือการช่วยแบรนด์และเอเจนซี่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยกระดับประสิทธิภาพสื่อโฆษณา ลดการปล่อยคาร์บอน และขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง เราจึงยินดีอย่างยิ่งที่อาร์เซลิก ฮิตาชิ ตัดสินใจลงมือลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการทำโฆษณาดิจิทัล เรามั่นใจว่าดาต้าของ Scope3 และ Green Media Products ที่พาร์ทเนอร์ของเราร่วมกันพัฒนาจะตอบโจทย์เป้าหมายด้านการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผลลัพธ์ที่คาดหวังจากแคมเปญโฆษณาที่อาร์เซลิก ฮิตาชิคาดหวัง และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเส้นทางการลดคาร์บอนของอาร์เซลิก ฮิตาชิจะเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีวิสัยทัศน์แห่งอนาคต”

โดยบริษัท Scope3 ก่อตั้งในออสเตรเลียในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ก่อนจะเริ่มขยายธุรกิจสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในครึ่งหลังของปีพ.ศ. 2566 โดยพัฒนาดาต้าโมเดลที่ละเอียด ไดนามิค และครอบคลุมเพื่อตรวจวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากโฆษณาดิจิทัลอย่างแม่นยำอย่าง Green Media Products, Climate Shield และอื่น ๆ

สามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาร์เซลิก ฮิตาชิได้ที่ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

X

Right Click

No right click