ด้วยกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล
Vivo Y31 โดดเด่นเรื่องการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง AI คุณภาพถึง 3 ตัว มอบฟังก์ชันการถ่ายภาพระดับโปรที่หลากหลาย สามารถถ่ายภาพได้ตามใจต้องการ ทั้งกล้องเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล[1] ให้ภาพคมชัดทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ประมวลผลภาพได้ดียิ่งขึ้น เก็บรายละเอียดของภาพได้ครบกว่าที่เคย กล้องเลนส์โบเก้ (Bokeh) ให้การเบลอฉากหลังที่ละเอียดแม่นยำมากขึ้น ช่วยให้ภาพถ่ายบุคคลดูสมจริง โดดเด่น สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ และกล้อง Super Macro ที่ให้เลนส์ระยะพิเศษ สามารถถ่ายภาพระยะใกล้สุดถึง 4 เซนติเมตร เปิดมุมมองการถ่ายภาพและสร้างสรรค์ภาพถ่ายสุดมหัศจรรย์กับสิ่งของเล็กๆ รอบตัวได้อย่างไม่มีเบื่อ
มอบประสบการณ์การใช้งานที่ชาญฉลาด
Y31 ยังมาพร้อมกับ Super Night Mode ที่ใช้อัลกอริธึมประมวลการถ่ายภาพแบบหลายเฟรม เพื่อลดการเกิดนอยส์ ช่วยให้สามารถถ่ายภาพยามค่ำคืนได้อย่างสวยงามแม้ในที่แสงน้อย พร้อมกับฟิลเตอร์ Stylish Night ที่มีให้เลือกถึง 4 แบบ ออกแบบโดยช่างภาพมืออาชีพของ Vivo โดยเฉพาะ เก็บทุกภาพความประทับใจในยามค่ำคืนได้อย่างมืออาชีพ พร้อมรองรับฟังก์ชันลายน้ำ (Custom Watermark) สามารถเพิ่มข้อความลายน้ำ บ่งบอกสไตล์ความเป็นคุณได้แบบไม่ซ้ำใคร และไม่ใช่เพียงแค่ภาพนิ่งเท่านั้น Vivo Y31 ยังรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยฟีเจอร์ Ultra Stable Video[2] ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันการสั่นไหว EIS ซึ่งใช้การครอบตัดและปรับแต่งวิดีโอในแต่ละเฟรมด้วยอัลกอริทึมโดยอัตโนมัติ เพื่อชดเชยภาพที่กระตุก และให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะถ่ายวิดีโอขณะวิ่ง ปั่นจักรยานหรือถ่ายภาพผู้คน ให้คุณสามารถเก็บภาพวิดีโอที่มีความเสถียรและคมชัดมากขึ้นได้อย่างง่ายดาย
Vivo Y31 ยังรองรับคุณภาพเสียงทรงพลัง พร้อมฟีเจอร์ที่สามารถปรับเพิ่มระดับเสียงได้ตามต้องการ ทั้งในการฟังเพลง เสียงเรียกเข้า รับชมวิดีโอหรือภาพยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเพิ่มเสียงได้สูงสุดถึง 73dB พร้อมส่งเอฟเฟกต์เสียง Super Audio ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Vivo มามอบประสบการณ์การรับชมทั้งภาพและเสียงที่ดียิ่งขึ้น[3] พร้อมรองรับฟังก์ชัน Multi-Turbo 4.0 สามารถปรับฉากในเกมให้เหมาะสม ลดปัญหาการกระตุกและความล่าช้าอย่างมีประสิทธิภาพ ประมวลผลระบบและหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด สามารถเล่นเกมได้อย่างไหลลื่นต่อเนื่องไม่สะดุด แม้เปิดใช้งานหลายแอปพลิเคชัน
ดีไซน์
Vivo Y31 มาพร้อมกับหน้าจอ Halo FullView™ Display ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2408×1080) มาตรฐานสี P3 Color Gamut ให้ผู้ใช้งานเต็มอิ่มกับคอนเทนต์สุดโปรด ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูวิดีโอก็สามารถรับชมภาพที่มีความละเอียดสูง มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ดีขึ้น และยังกรองแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาอีกด้วย
นอกจากนี้ดีไซน์ตัวเครื่องยังถูกออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวกับสีสันสุดสง่างามในแบบสามมิติ ทั้งสี Racing Black สื่อถึงความรู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งโดดเด่นสะดุดตา และสี Ocean Blue ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทรริมชายหาด สื่อถึงความมีชีวิตชีวา พร้อมเสริมความปลอดภัยด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง สามารถปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.3 วินาที[4] พร้อมทั้งโหมดปลดล็อกด้วยใบหน้า Face Wake
ประสิทธิภาพทรงพลัง กับ ชิปเซ็ต
เต็มที่กับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น พร้อมสัมผัสประสิทธิภาพทรงพลังกับชิปเซ็ต Qualcomm® Snapdragon™ 6 Series Mobile Platform พร้อม RAM 8GB และ ความจุภายในตัวเครื่อง 128GB[5] สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้มากขึ้น ใช้งานได้อย่างราบรื่น และยังอัพเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลได้มากถึง 1TB[6] พร้อมทั้งช่องใส่ซิมการ์ดแบบ 3 slot แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จเร็วที่ 18W ในเวลาเพียง 64 นาที สามารถชาร์จได้ถึง 70% พร้อมด้วยเทคโนโลยี AI ประหยัดพลังงาน สามารถชมภาพยนตร์ในรูปแบบ HD ได้นาน 17.9 ชั่วโมง และเล่นเกมได้นานถึง 9.9 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อีกทั้งยังมีฟังก์ชัน Reverse Charging ให้ Y31 เป็นเหมือนแบตเตอรี่พกพาให้ออกไปสนุกกับทุกกิจกรรมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ ให้คุณเพลิดเพลินกับทุกกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน
จัดการทุกไลฟ์สไตล์ให้ลงตัวกับ Funtouch OS11
Vivo Y31 รองรับระบบปฏิบัติการ Android11 พร้อม Funtouch OS11 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์สุดพิเศษอย่าง AI Albums ซึ่งเป็น AI อัลกอริธึม ในเทมเพลต vlog สามารถจดจำทั้งใบหน้าและฉากภายในวิดีโอ ให้ผู้ใช้งานสร้างวิดีโอที่มีสไตล์โดดเด่นและแชร์บนโซเชียลมีเดียได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และยังรองรับฟีเจอร์ Memories ช่วยจัดกลุ่มรูปภาพตามเวลา สถานที่ และเหตุการณ์ โดยอัลบั้มจะถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ให้ภาพถ่ายไม่ซ้ำซากจำเจอีกต่อไป นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ iManager อีกหนึ่งผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Vivo ที่ช่วยตั้งค่าดูแลระบบต่างๆ เช่น ทำความสะอาดไฟล์ขยะในสมาร์ตโฟน หรือสแกนหาปัญหาในเวลากลางคืน ทำให้สมาร์ตโฟนทำงานลื่นไหล มีหน่วยความจำเหลือว่าง พร้อมใช้งานกิจกรรมอื่นอย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา หมดปัญหาเรื่องเครื่องช้า รวมถึงยืดอายุแบตเตอรี่
Vivo Y31 วางจำหน่ายให้เป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 มกราคม 2564
