December 15, 2025

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เข้าร่วมรับมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2564 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้รับรางวัลบริการภาครัฐ ระดับดี ประเภทพัฒนาการบริการ จากผลงานประกันภัย เพื่อประชาชนภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นรางวัลที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) พิจารณามอบให้กับหน่วยงานของรัฐที่มีผลการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่พึงพอใจ  

เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า รางวัลบริการภาครัฐที่สำนักงาน คปภ. ได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรของสำนักงาน คปภ. ที่ได้ทุ่มเททำงานให้บริการประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถภายใต้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสำนักงาน คปภ. ได้ผลักดันให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยคุ้มครองโรคโควิด-19 และออกนโยบายให้ความเห็นชอบผลิตภัณฑ์ประกันภัยดังกล่าวด้วยกระบวนการแบบรวดเร็ว โดยรอบคอบ เพื่อช่วยให้ประชาชน มีเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงภัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นการเฉพาะอย่างทันสถานการณ์ด้วยเบี้ยประกันภัย ที่ไม่สูง รวมทั้ง ได้นำทีมภาคธุรกิจประกันภัยส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อให้ความคุ้มครองแก่บุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนนำการประกันภัยนี้ไปต่อยอดเพื่อขยายการเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง และยังจัดให้มีกระบวนการดูแลประชาชนอย่างครบวงจรเมื่อเกิดปัญหาไม่ได้รับความเป็นธรรมอีกด้วย ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ยังคงมุ่งมั่นและให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยเพื่อให้บริการประชาชนและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยนำกลยุทธ์น่านน้ำสีคราม “Blue Ocean Strategy” เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการและการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงนำนวัตกรรมบริการเชิงสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มคุณค่าด้านการประกันภัยให้กับประชาชนได้ในทุกมิติของความเสี่ยงภัย ดังนี้ ในปีงบประมาณ 2564 สำนักงาน คปภ. ได้เริ่มใช้แผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2564-2568) แผนยุทธศาสตร์ของสำนักงาน คปภ. ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2564-2566) แผนการปรับเปลี่ยนองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ SMART OIC แผนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2564-2568) และแผนกลยุทธ์ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ระยะ 3 ปี  เป็นปีแรก เพื่อรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีและการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ด้วยการพัฒนากระบวนการทำงานภายใน รวมถึงพัฒนาการสื่อสารทั้งภายในและภายนอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการ

“รางวัลที่สำนักงาน คปภ. ได้รับในครั้งนี้ แสดงถึงความสำเร็จในระดับหน่วยงานที่พัฒนาคุณภาพการให้บริการ มีระบบการบริหารงานและการบริหารจัดการภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งต้องขอขอบคุณด้านกำกับ โดยเฉพาะทีมงานจากสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่เป็นกำลังสำคัญทำให้สำนักงาน คปภ. สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้ โดยสำนักงาน คปภ. จะมุ่งมั่นทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จะยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการให้บริการ รวมทั้งจะส่งเสริมและผลักดันให้ระบบประกันภัยมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนทุกระดับ เพื่อช่วยพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

มั่นใจนักลงทุนแห่จองตามเป้า เชื่อมั่น “สำนักงานใหญแสนสิริ – รายได้มั่นคงต่อเนื่อง - พร้อมกลไกคุ้มครองนักลงทุน” จองซื้อขั้นต่ำเพียง 10 บาท ย้ำโทเคนมีจำนวนจำกัด จองและชำระเงินก่อนได้ก่อน

เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร (STECO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ (องค์การมหาชน) ร่วมตัดสินผลงานรอบชิงชนะเลิศ GIT World’s Jewelry Design Awards ครั้งที่ 15 พร้อมอวดโฉมชิ้นงานและประกาศผู้ชนะปลายเดือน กันยายน การประกวดในครั้งนี้จัด ภายใต้แนวคิด "Intergeneration Jewelry" - jewelry for every generation

บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด ในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ

หวังติดปีกผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ฝ่าวิกฤตโควิด-19 เตรียมความพร้อมสู่การเป็นเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะต้นแบบ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ประกาศกลยุทธ์ใหม่ “CPF 2030 Sustainability in Action“ ขับเคลื่อนภารกิจ 9 ความมุ่งมั่น ภายใต้ 3 เสาหลัก อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และ ดิน น้ำ ป่าคงอยู่  สร้างความมั่นคงทางอาหารบนพื้นฐานการผลิตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ส่งเสริมสังคมเติบโตไปด้วยกัน ร่วมบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) หนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ  ( SDGs ) ครบ 17 เป้าหมาย  

นายวุฒิชัย  สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส  ด้านพัฒนาความยั่งยืนองค์กร ซีพีเอฟ  กล่าวว่า  กลยุทธ์ใหม่ 2030 Sustainability in Action เป็นการปฏิบัติการในช่วง 10 ปีข้างหน้า (ปี 2564 - ปี 2573)  เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental Social Governance :  ESG) โดยที่บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 เสาหลัก อาหารมั่นคง  สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่  สนับสนุนนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มีเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ ภายในปี 2573 และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs ทางตรงได้ครบทั้ง  17  เป้าหมาย      

"ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายปี 2020  ในปีนี้เราได้กำหนดกลยุทธ์ขึ้นใหม่ เน้นการปฏิบัติอย่างจริงจัง  และมีเป้าหมายใหม่เพื่อสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม  สอดรับกับเป้าหมายของสหประชาชาติ สู่ทศวรรษแห่งการลงมือทำ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นให้โลก ขณะเดียวกันบริษัทฯจะส่งต่อความยั่งยืนในระดับบุคคลสู่พนักงานในองค์กรและภายนอก” นายวุฒิชัยกล่าว    

 

สำหรับเป้าหมายการดำเนินงาน 9 ความมุ่งมั่น ภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลัก  ในด้านอาหารมั่นคง  เน้นสร้างความมั่นคงทางอาหารและคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคด้วยผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีและเหมาะสมกับทุกช่วงวัย นำระบบดิจิทัลและหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิต ดำเนินการทางการตลาดด้วยความรับผิดชอบ ด้วยการให้ความรู้ด้านโภชนาการและอาหารเพื่อสุขภาพแก่ผู้บริโภค  ใส่ใจในกระบวนการเลี้ยงสัตว์ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal WelFare) ภายใต้มาตรฐานสากล และนำเทคโนโลยีใช้ในการจัดการฟาร์มในรูปแบบ Smart Farm  โดยมีเป้าหมาย50% ของผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้รับการพัฒนาเพื่อสุขภาพที่ดีและมีคุณค่าทางโภชนาการที่มากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำเป็น  40 % ของยอดขาย  เป็นต้น

ด้านสังคมพึ่งตน  ได้กำหนดเป้าหมายใหม่ คือ  สร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้แก่พนักงานและคนในสังคมจำนวน 3 ล้านคน และเป้าหมายให้ความรู้พนักงานได้ครบ 3 ล้านชั่วโมง ด้วยการเคารพสิทธิมนุษยชน ดูแลพนักงานอย่างเท่าเทียม ส่งเสริมการเรียนรู้และประสบการณ์ทำงานที่ดีให้แก่พนักงานโดยมุ่งสู่เป้าหมายเป็น Learning Organization หรือ อิ่มรู้ (Lifelong Learning) เพื่อยกระดับคุณค่าของพนักงานทุกคนในองค์กรซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน  และขยายสู่สังคมด้วยการสร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรในโครงการคอนแทรคฟาร์มที่ดำเนินการมาแล้วมากกว่า 40 ปี จำนวนเกษตรกร ประมาณ 5,000 ราย ด้วยรูปแบบของเกษตรพันธสัญญา  การสนับสนุนองค์ความรู้แก่เกษตรกรผู้ปลูกพืชวัตถุดิบอาหารสัตว์ในโครงการเกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน  โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ที่ดำเนินการมามากกว่า 30 ปี  มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ฯ 880 โรงเรียน ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตและทักษะอาชีพให้แก่เยาวชน สร้างการเข้าถึงอาหารโปรตีนคุณภาพ  และโครงการจ้างงานคนพิการ ฯลฯ        

ด้านดิน น้ำ ป่า คงอยู่  ซีพีเอฟนำหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้บริหารทรัพยากรเกิดประโยชน์สูงสุด เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน พัฒนาและออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม  ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า 100 %  และตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ การสร้างคุณค่าปราศจากขยะ (Waste to Value) ทั้งจากบรรจุภัณฑ์และขยะอาหาร  โดยมีเป้าหมายลดขยะอาหารในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นศูนย์ (Zero Food Waste)  ภายในปี  2573   การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าบก ป่าชายเลน  และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ   ซึ่งดำเนินการไปแล้วรวมมากกว่า 1 หมื่นไร่ และมีแผนจะดำเนินการต่อเนื่อง ในระยะที่ 2 (ปี 2564-2568)   เพื่อสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ        

ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ “CPF 2030 Sustainability in Action" ซีพีเอฟได้ออกแบบสัญลักษณ์  ด้วยการนำแนวคิด 3 เสาหลักเป็นสื่อสัญลักษณ์อยู่ภายในรูปหัวใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อประชากรโลก สร้างสรรค์คุณค่าให้แก่สังคม คืนสมดุลทรัพยากรธรรมชาติ ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นครัวของโลกที่ยั่งยืน 

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต โดย ภาริสา ฉายากุล(ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารภาพลักษณ์องค์กรและสื่อสารองค์กร เป็นตัวแทนในการส่งมอบเงินบริจาคจำนวน 100,000 บาท เพื่อสมทบทุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลสนามบีดีเอ็มเอส สนามกีฬา ทอ. (ธูปะเตมีย์) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสนามขนาด 100 เตียง รองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง  พร้อมส่งมอบน้ำดื่มแบบไร้ฉลาก สามารถรีไซเคิลได้ 100% จำนวน 7,200 ขวด ให้กับโรงพยาบาลสนามบีดีเอ็มเอส สำหรับผู้ป่วยโควิด-19  และบุคลากรทางการแพทย์ โดยมี สุวิกรานต์ อาสว่าง ผู้ช่วยผู้จัดการ เป็นผู้รับมอบ ณ  โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “เติมพลัง สร้างแรงใจ ผ่านไปด้วยกัน” โดยครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ

Binance ผู้ให้บริการระบบนิเวศบล็อกเชนและโครงสร้างพื้นฐานสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของโลก

X

Right Click

No right click